12 ธ.ค. เวลา 03:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ

เช็กลิสต์ 3 เรื่องสำคัญ วางแผนจัดการภาษี ให้ทันก่อนสิ้นปี

⏰ ใกล้สิ้นปีเข้ามาทุกทีแล้ว ใครที่ยังไม่ได้เริ่มวางแผนลดหย่อนภาษี ต้องรีบกันหน่อยแล้ว เพราะหากปล่อยผ่านไป อาจต้องจ่ายภาษีเต็มจำนวน อย่าหาว่าไม่เตือนนะ 💥
ใครที่เข้าใจว่าภาษี เป็นเรื่องที่ซับซ้อน หรือยังไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไรดี ก็ต้องเปลี่ยนความคิดอย่างแน่นอน
เพราะวันนี้ทาง abrdn ได้สรุป 3 เรื่อง ที่ให้ทุกคนมาเช็กลิสต์ เพื่อช่วยให้ลดหย่อนได้คุ้มค่ามากขึ้น
✅ เช็กรายได้ต่อปี เพื่อให้รู้ว่าต้องเสียภาษีในอัตราเท่าไร
✅ หากองทุนลดหย่อนที่เหมาะสมกับเป้าหมาย เพื่อต่อยอดเงินในอนาคต
✅ ช็อปกองทุนแบบไหน ให้กระจายความเสี่ยง และลดความผันผวนระยะยาว
ทั้ง 3 เรื่องนี้ เป็นสิ่งที่ทุกคนห้ามมองข้ามเด็ดขาด โดยเฉพาะเรื่องของการกระจายความเสี่ยง (Asset Allocation) ในสินทรัพย์ที่หลากหลาย ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการลงทุนระยะยาว แล้วรายละเอียดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามต่อในโพสต์นี้ได้เลย !
1. เช็กรายได้ 🤳
สำหรับใครที่มีรายได้เข้ามาทุกเดือน 💸 ควรเริ่มต้นด้วยการคำนวณเงินได้สุทธิต่อปี ว่ารวมแล้วอยู่ที่เท่าไร ด้วยการใช้สูตรนี้เลย
👉 เงินได้สุทธิ = เงินได้ - ค่าใช้จ่าย - ค่าลดหย่อน
จากนั้น เมื่อรู้จำนวนเงินได้สุทธิมาแล้ว ก็มาคำนวณหาภาษีที่จะต้องชำระ ตามอัตราภาษีเงินได้แบบขั้นบันได ตามสูตรนี้
👉 ภาษีที่ต้องจ่าย = เงินได้สุทธิ x อัตราภาษี
หากใครที่ยังนึกไม่ออก มาดูตัวอย่างการคำนวณไปพร้อม ๆ กันได้เลย
คุณ A มีเงินเดือน 35,000 บาทต่อเดือน (ไม่มีตัวช่วยลดหย่อนเพิ่มเติม)
- สิทธิหักค่าใช้จ่าย 50% ของรายได้สูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท
- ค่าลดหย่อนส่วนตัว 60,000 บาท
- ค่าประกันสังคมต่อปี 9,000 บาท
เท่ากับว่าคุณ A จะมีเงินได้สุทธิ 251,000 บาท
เทียบเป็นฐานภาษี 5% ดังนั้น จะต้องเสียภาษีอยู่ที่ 5,050 บาท
นี่ก็เป็นสูตรการคำนวณหาเงินได้สุทธิ และภาษีที่จะต้องจ่าย ซึ่งจะเห็นว่าหากไม่ได้มีการลงทุน เพื่อลดหย่อนภาษีใด ๆ จะต้องเสียภาษีค่อนข้างสูง ดังนั้น ขั้นตอนถัดไปเราจะชวนไปดูทางเลือกในการลดหย่อนภาษีที่คุ้มค่ากัน
2. หาตัวช่วยลดหย่อนภาษี 💰
ปัจจุบันมีทางเลือกในการลดหย่อนภาษีที่หลากหลาย ซึ่งหลัก ๆ ที่ทุกคนรู้กันเบื้องต้นนั้นจะประกอบด้วย
- สิทธิลดหย่อนขั้นพื้นฐาน
เช่น ค่าลดหย่อนส่วนตัว 60,000 บาท ค่าฝากครรภ์ หรือคลอดบุตรไม่เกิน 60,000 บาท ค่าลดหย่อนบิดามารดาอายุ 60 ปีขึ้นไป ที่มีรายได้ต่อปีไม่เกิน 30,000 บาท โดยสามารถลดหย่อนได้คนละ 30,000 บาท เป็นต้น
- กลุ่มประกันชีวิตและประกันสุขภาพ
เช่น ประกันชีวิตและประกันสะสมทรัพย์ ไม่เกิน 100,000 บาท ประกันสุขภาพ ไม่เกิน 25,000 บาท โดยสามารถลดหย่อนรวมกันสูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท
- เงินบริจาค
เช่น เงินบริจาคสนับสนุนการศึกษา โรงพยาบาลรัฐ สามารถลดหย่อนได้ 2 เท่าของเงินบริจาคจริง แต่ไม่เกิน 10% ของรายได้หลังหักค่าใช้จ่าย หรือค่าลดหย่อนอื่น ๆ เป็นต้น
- ค่าลดหย่อนตามมาตรการของภาครัฐ
เช่น โครงการ Easy E-Receipt สูงสุดไม่เกิน 50,000 บาท เป็นต้น
และหากอยากได้ผลประโยชน์แบบคุ้มค่า ทั้งการเซฟภาษี ไปพร้อม ๆ กับการเสริมสร้างนิสัยการออม และต่อยอดเงินให้งอกเงยในอนาคต ต้องห้ามมองข้าม
📍 ทางเลือกการลดหย่อนผ่านกองทุนรวมลดหย่อนภาษีทั้ง 3 ประเภทที่มีวัตถุประสงค์ ระยะเวลา และนโยบายการลงทุนที่แตกต่างกัน
🔹 กองทุนรวม SSF (Super Savings Fund)
กองทุนรวมเพื่อการออมระยะยาว มีนโยบายลงทุนในสินทรัพย์ได้หลากหลายประเภท โดยจะต้องถือครอง 10 ปีขึ้นไป สามารถลดหย่อนสูงสุด 30% ของรายได้ หรือไม่เกิน 200,000 บาท และไม่เกิน 500,000 บาท เมื่อรวมกับกองทุนลดหย่อนเพื่อการเกษียณอื่นๆ ทั้งนี้ SSF จะสามารถลงทุนเพื่อใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ถึงปี 2567 นี้เท่านั้น
🔹 กองทุนรวม RMF (Retirement Mutual Fund)
กองทุนรวมเพื่อการออมยามเกษียณ มีนโยบายไปลงทุนในสินทรัพย์หลากหลายประเภท ซึ่งจะต้องถือครอง 5 ปีขึ้นไป และสามารถขายได้ตอนอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ โดยสามารถลดหย่อนได้สูงสุด 30% ของรายได้ หรือไม่เกิน 500,000 บาท
🔹 กองทุนรวม ThaiESG (Thailand ESG Fund)
กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน จะมีนโยบายลงทุนในหุ้น และตราสารหนี้ไทยที่ดำเนินการตามหลัก ESG โดยจะต้องถือครอง 5 ปีขึ้นไป สามารถลดหย่อนได้สูงสุด 30% ของรายได้ หรือไม่เกิน 300,000 บาท
ใครที่อยากรู้เกณฑ์กองทุนลดหย่อนภาษี ทั้ง 3 ประเภทนี้ เพื่อประกอบการตัดสินใจเพิ่มเติม ก็สามารถดูในภาพที่เราสรุปมาให้ได้เลย
3. วางแผนกระจายความเสี่ยง 🔄
ก่อนที่เราจะตัดสินใจเลือกช็อปเหล่ากองทุนรวมลดหย่อนภาษี ควรจะต้องวางแผน และคำนึงถึงปัจจัยต่าง ๆ เหล่านี้ร่วมด้วย
- เข้าใจสินทรัพย์ที่เลือกลงทุน
เนื่องจากสินทรัพย์การลงทุนมีหลายประเภท ทั้งตราสารหนี้ อสังหาฯ และหุ้น ซึ่งแต่ละแบบก็จะมีจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้นควรศึกษาให้เข้าใจ เพื่อจะได้เลือกลงทุนได้ตรงตามความต้องการของตนเอง
- กำหนดสัดส่วนให้สอดคล้องกับเป้าหมาย
เมื่อเรามีเป้าหมายการลงทุนที่ชัดเจนแล้ว ก็ต้องกระจายการลงทุนในหลากหลายสินทรัพย์ และนโยบายที่ต่างกัน โดยแบ่งสัดส่วนให้สอดคล้องกับเป้าหมาย รวมถึงระดับความเสี่ยงที่รับได้ ซึ่งการกำหนดสัดส่วนก็ไม่ได้มีคำตอบที่ตายตัว จึงจะขึ้นอยู่กับความพอใจของแต่ละบุคคลมากกว่า
📌 ทั้งนี้สามารถเข้าไปทำแบบประเมินระดับความเสี่ยงเพิ่มเติมได้ที่ https://www.smarttoinvest.com/Pages/Know%20Investment/Money%20Calculation%20Tool/InvestmentPortfolio.aspx
- ติดตามอย่างสม่ำเสมอ
หากต้องการให้พอร์ตการลงทุนเป็นไปตามแผนที่วางไว้ ควรมีการติดตามอย่างสม่ำเสมอ ว่าสถานการณ์ ผลตอบแทน หรือสัดส่วนการลงทุนเป็นไปตามที่เราวางแผนเอาไว้หรือไม่ เพราะหากไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง จะช่วยให้เราสามารถปรับเปลี่ยนแผนการลงทุนได้ทันการณ์
ดังนั้น การใส่ใจในเรื่องสำคัญข้างต้น จะช่วยลดความเสี่ยง จำกัดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น รวมถึงเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวได้
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังมองหาการลงทุนที่เหมาะกับตัวเอง หรืออยากเสริมความแข็งแกร่งให้กับพอร์ต 💪🏻
ลองเปิดใจเลือก abrdn เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของแผนการลงทุนของคุณ โดย abrdn มีความโดดเด่นในเรื่องต่าง ๆ
✅ เข้าใจและรู้จริงในทุกสินทรัพย์ทั่วทุกภูมิภาค
✅ มีผู้เชี่ยวชาญกระจายอยู่ในสำนักงาน 25 แห่งทั่วโลก จึงสามารถส่งมอบข้อมูลเชิงลึกจากในแต่ละพื้นที่ไปยังทั่วโลกได้
✅ ได้รับความไว้วางใจจากหลากหลายภาคส่วน ทำให้ปัจจุบันมีการจัดการสินทรัพย์มูลค่ามหาศาล
🚩 มัดรวมกองทุน SSF และ RMF จาก abrdn
👉 ABGDD-SSF/RMF
กองทุนเปิด อเบอร์ดีน โกลบอล ไดนามิค ดีวิเด็น ฟันด์ - ชนิดเพื่อการออม และ กองทุนเปิด อเบอร์ดีน โกลบอล ไดนามิค ดีวิเด็น เพื่อการเลี้ยงชีพ
📄 นโยบาย : ลงทุนในหุ้นเด่นทั่วโลก ผสมผสานลงตัวระหว่างหุ้นเติบโตและหุ้นคุณค่า โดยลงทุนผ่านกองทุนหลักต่างประเทศ
abrdn SICAV I - Global Dynamic Dividend Fund Z Gross MInc USD
📢 จุดเด่นของกองทุนหลัก : ลงทุนในหุ้นเติบโตและหุ้นคุณค่าทั่วโลกด้วยกลยุทธ์ที่แตกต่าง เพื่อค้นหาการจ่ายปันผลทั่วโลกอย่างสม่ำเสมอ โดยที่ไม่ละทิ้งโอกาสสร้างผลกำไรจากราคาหุ้น
📈 ความเสี่ยง : ระดับ 6 (สูง)
👉 ABINNO-SSF
กองทุนเปิด อเบอร์ดีน โกลบอล อินโนเวชั่น เอคควิตี้ ฟันด์ - ชนิดเพื่อการออม
📄 นโยบาย : ลงทุนนวัตกรรม (Innovation) ที่หลากหลาย เพื่อสร้างอนาคตที่ดีกว่า โดยลงทุนผ่านกองทุนหลักต่างประเทศ abrdn SICAV I - Global Innovation Equities Fund Z Acc USD
📢 จุดเด่นของกองทุนหลัก : ลงทุนในหุ้นนวัตกรรมแห่งอนาคตทั่วโลก ที่จะเข้ามาเปลี่ยนการดำเนินชีวิตของมนุษย์ให้ดียิ่งขึ้น
📈 ความเสี่ยง : ระดับ 6 (สูง)
👉 ABAGS-SSF
กองทุนเปิด อเบอร์ดีน อเมริกัน โกรท - สมอลเลอร์ คอมพานี ฟันด์ - ชนิดเพื่อการออม
📄 นโยบาย : เฟ้นหาหุ้นเล็กอนาคตไกลในสหรัฐฯ ที่มีศักยภาพในการเติบโตแบบก้าวกระโดด โดยลงทุนผ่านกองทุนหลักต่างประเทศ
abrdn SICAV I - North American Smaller Companies Fund Z Acc USD
📢 จุดเด่นของกองทุนหลัก :
- บริหารพอร์ตเชิงรุก คัดหุ้นเล็กที่มีโอกาสเติบโตสูงในสหรัฐฯ ประมาณ 40-60 บริษัท
- ลงทุนในหุ้นบริษัทคุณภาพที่มีโอกาสเติบโตของกำไรดีอย่างต่อเนื่องและมีหนี้ต่ำ
ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงในช่วงขาลง และสร้างผลตอบแทนในช่วงขาขึ้น
- กระจายการลงทุนในหลากหลายอุตสาหกรรม ในระดับความเสี่ยงที่เหมาะสม เพื่อช่วยให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีในระยะยาว
📈 ความเสี่ยง : ระดับ 6 (สูง)
👉 ABSM-SSF/RMF
กองทุนเปิด อเบอร์ดีน สมอล-มิดแค็พ - ชนิดเพื่อการออม และกองทุนเปิด อเบอร์ดีน สมอล-มิดแค็พ เพื่อการเลี้ยงชีพ
📄 นโยบาย : เฟ้นหาหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กในไทยที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง พร้อมก้าวเป็นบริษัทขนาดใหญ่ในอนาคต
📢 จุดเด่นของกองทุน : เน้นลงทุนใน 4 ธีมหลักที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ได้แก่ สุขภาพและความงาม, อาหารและเครื่องดื่ม, Global Supply Chain Diversification, IT Solutions (ธีมการลงทุนสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม)
โดยวิเคราะห์และคัดเลือกหุ้นจาก 3 ปัจจัยหลัก คือ โมเดลการทำธุรกิจ, แนวโน้มการเติบโต, Valuation (มูลค่าของหุ้นอยู่ในระดับที่เหมาะสม)
📈 ความเสี่ยง : ระดับ 6 (สูง)
👉 ABAPAC-SSF/RMF
กองทุนเปิด อเบอร์ดีน เอเชีย แปซิฟิค เอคควิตี้ ฟันด์ - ชนิดเพื่อการออม และ กองทุนเปิด อเบอร์ดีน เอเชีย แปซิฟิค เอคควิตี้ เพื่อการเลี้ยงชีพ
📄 นโยบาย : เกาะกระแสตลาดเอเชีย ลงทุนในหุ้นที่มีโอกาสเติบโตสูงทั้งภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (ไม่รวมญี่ปุ่น) โดยลงทุนผ่านกองทุนหลักต่างประเทศ abrdn Pacific Equity Fund SGD Class
📢 จุดเด่นของกองทุนหลัก : มีทีมผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์การลงทุนในเอเชียยาวนานกว่า 30 ปี เน้นการวิเคราะห์และวิจัยปัจจัยพื้นฐานบริษัท เพื่อเฟ้นหาหุ้นที่มีคุณภาพ มีปัจจัยความเสี่ยงที่น้อยกว่า
📈 ความเสี่ยง : ระดับ 6 (สูง)
👉 ABSI-RMF
กองทุนเปิด อเบอร์ดีน สมาร์ทอินคัมเพื่อการเลี้ยงชีพ
📄 นโยบาย : เน้นลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นคุณภาพดีของไทย (Investment Grade) ครอบคลุมทั้งตราสารหนี้ภาครัฐและเอกชน รวมถึงเงินฝากธนาคาร
📢 จุดเด่นของกองทุน : เน้นลงทุนเพื่อความมั่นคง แต่ยังคงได้รับผลประโยชน์จากการลดหย่อนภาษี
📈 ความเสี่ยง : ระดับ 4 (ปานกลางค่อนข้างต่ำ)
หากกำลังมองหาตัวช่วยในการลดหย่อนภาษี abrdn ก็มีกองทุนรวมลดหย่อนภาษีทั้ง SSF และ RMF ให้ทุกคนได้เลือกตามความต้องการ
สามารถศึกษารายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติมของกองทุนต่าง ๆ ได้ที่ : https://www.abrdn.com/th-th/investor/investment-solutions/tax-saving-funds
*ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน
การลงทุนในกองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งอาจทำให้ได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรก
กองทุนรวมที่มีการลงทุนในต่างประเทศมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน
ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ระบุไว้ในคู่มือการลงทุนในกองทุนรวม
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวน โทร. 02-352-3388 หรืออีเมล client.services.th@abrdn.com
#แผนใหม่ให้นักลงทุนไทยได้ไปต่อ #SSF #RMF #abrdn #Assetallocation
โฆษณา