2 ธ.ค. เวลา 09:58 • สุขภาพ

ประกันชีวิต VS ประกันโรคร้ายแรง รักพี่เสียดายน้อง เลือกแบบไหนดี?

ปัญหาโลกแตกที่ใครหลายๆคนคิดไม่ตก สำหรับลูกค้าแนนหลายๆคนที่ได้ซื้อประกันสุขภาพเล่มแรกไปแล้ว แล้วคิดอยากมีประกันเล่มที่สอง หรือสำหรับผู้สูงอายุบางท่านที่กำลังมองหาประกันสักเล่มเพื่อเป็นเงินมรดกให้แก่ลูกหลานหลังจากไป คำถามที่ตามมาคือเลือกประกันชีวิตหรือประกันโรคร้ายแรงดีล่ะ?
ก่อนอื่นแนนขอทำความเข้าใจก่อนค่ะว่าประกันแต่ละรูปแบบมีความแตกต่างทั้งรูปแบบของตัวประกัน ไม่ว่าจะเป็นสัญญาหลัก สัญญาเพิ่มเติม รูปแบบการเคลม มูลค่ากรมธรรม์ และสิทธิประโยชน์ของตัวประกันเองก็ล้วนแตกต่างกันทั้งสิ้นค่ะ อ้าว! แล้วแบบนี้จะเลือกซื้อประกันตัวไหนก่อนดีล่ะคะคุณแนน? ในบทความนี้แนนมีคำตอบค่ะ
ถ้าในเมื่อเลือกพี่ก็เสียดายน้อง...งั้นก็เลือกมันทั้งสองตัวไปเลยค่ะ แต่ซื้อแค่เล่มเดียวจบๆ ประกันที่แนนจะแนะนำวันนี้นั่นก็คือประกันโรคร้ายแรงแผน iShield ค่ะ
ปกติแล้วประกันโรคร้ายแรงจะเป็นกรมธรรม์ที่เป็นเบี้ยทิ้ง จ่ายไปเรื่อยๆ คุ้มครองทุกปีที่จ่ายเบี้ย ถ้าไม่ป่วยเป็นโรคก็ไม่สามารถเคลมได้ค่ะ แต่ไม่ใช่กับแผน iShield -- ตัวประกันแผน iShield จะเป็นประกันโรคร้ายแรงแบบเป็นเงินเก็บ ทุกบาททุกสตางค์ที่เราจ่ายไปได้คืนแน่นอน แถมเคลมได้ในกรณีที่เป็นโรคร้ายแรง (ตามระยะของโรคค่ะ)
นอกจากไม่เป็นเบี้ยทิ้งและยังเคลมได้ในกรณีที่เป็นโรคร้ายแล้วนั้น ประกันแผน iShield ยังมีฟีเจอร์ที่เด่นอีกอย่างคือ "ไม่เคลมมีคืน" เมื่อครบสัญญาที่อายุ 85 ปี หากลูกค้าไม่เป็นโรคร้ายหรือเคลมโรคร้ายไม่ครบทุนประกัน ก็ยังจะได้เงินคืนตามจำนวนทุนประกันที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ค่ะ
ยังไม่หมดนะคะ สำหรับกรณีเสียชีวิตยังสามารถเคลมได้ตามทุนประกันที่ระบุในกรมธรรม์อีกค่ะ เรียกได้ว่าเป็นแบบประกันที่ถูกออกแบบมาโดยการรวมเอาข้อดีของประกันโรคร้ายแรงและประกันชีวิตไว้ด้วยกัน เหมาะสำหรับคนรักพี่เสียดายน้องเลยค่ะ
แบบประกัน iShield มีให้เลือกส่งได้ 5-10-15-20 ปี สามารถเลือกได้ตามความต้องการของลูกค้าค่ะ และยังเลือกส่งเป็นแบบรายเดือน รายหกเดือน หรือรายปีได้ตามความสะดวกเลยค่ะ
นอกจากนี้แผนประกัน iShield ยังสามารถใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษี โดยการใช้ลดหย่อนภาษีในหมวดประกันชีวิตได้อีก 100,000บาท (รวมกับประกันสุขภาพต้องไม่เกิน 100,000บาทด้วยนะคะ) เหมาะกับเทศกาลลดหย่อนภาษีช่วงสิ้นปีแบบนี้มากค่ะ
โฆษณา