2 ธ.ค. เวลา 10:21 • หุ้น & เศรษฐกิจ

มีความเป็นจริง 3 อย่าง ที่กำลังเกิดขึ้นในตลาดงาน

ซึ่งคนส่วนใหญ่อาจจะยังไม่เข้าใจ เลยพลาดไปจนหางานไม่ได้ ผมเลยอยากเอามาแชร์ในบทความนี้ครับ
.
1️⃣ ค่าครองชีพที่สูงขึ้น ไม่ได้ทำให้เงินเดือนสูงขึ้น
.
เคยได้ยินใช่มั้ยครับ "เราต้องเรียกเงินเดือนสูงๆ เพราะค่าครองชีพสมัยนี้มันสูง"
.
ฟังผ่านๆ อาจจะดูสมเหตุสมผล แต่ถ้ามองในมุมของธุรกิจ มันไม่สมเหตุสมผลครับ
.
เราต้องทำความเข้าใจก่อนว่า ในมุมธุรกิจ พนักงานคือคนที่ขายความสามารถและผลงาน ส่วนราคาขายก็คือเงินเดือน
.
ถ้าเราไปซื้อรถ แล้วคนขายบอกเราว่า ช่วงนี้รถราคาสูงขึ้น เพราะค่าใช้จ่ายที่บ้านคนขายมากขึ้น เราคงจะทำหน้าแบบ 🧐🧐🧐อะไรของมัน! ... นั่นแหละครับ คือสิ่งที่บริษัทรู้สึก เวลาคนเขียนสมัครงานเข้ามา เรียกเงินเดือนสูงๆ โดยให้เหตุผลว่าช่วงนี้ค่าครองชีพสูง
.
ถ้าอยากได้เงินเดือนสูง อย่าใช้เหตุผลว่าค่าครองชีพสูงครับ ให้หาเหตุผลอะไรก็ได้ที่ทำให้บริษัทเชื่อว่าคุณเก่ง คุณทำงานได้ และคุณจะสามารถสร้างผลงานให้กับบริษัทของเค้าได้
.
2️⃣ ตลาดงานไม่มีชั้นปี
.
ตอนเรียน การสอบวัดผล เราจะโดนเปรียบเทียบกับเพื่อนที่เรียนในคลาสเดียวกัน ถ้าใครเอารุ่นพี่ที่เก่งกว่าเราเยอะๆ มาตัดเกรดกับเรา เราคงจะด่าว่า นี่มันไม่โกงกันชัดๆ!!!
.
แต่ในตลาดงานมันไม่เป็นแบบนั้นนะครับ ไม่มีชั้นปี เราต้องระลึกไว้เสมอว่าเรากำลังโดนเปรียบเทียบกับคนที่มีประสบการณ์มายาวนานกว่า โดยเฉพาะในยุคปัจจุบัน ที่งานหายากขึ้น จนรุ่นพี่ที่ทำงานมา 4-5 ปีแล้ว มาแย่งงานในตำแหน่งเดียวกับน้องที่เพิ่งจบ
.
เพราะฉะนั้น สำหรับคนที่ยังหางานไม่ได้ สิ่งที่ผมอยากแนะนำก็คือ "อย่าอยู่เฉยๆ" ครับ เพราะยิ่งอยู่เฉยๆ จะยิ่งทำให้ Profile เราดูอ่อนลงเรื่อยๆ... ลองหางานอื่นทำดูระหว่างรองาน ไม่ว่าจะเป็น Freelance หรือพนักงานชั่วคราวก็ได้
.
3️⃣ สิ่งที่บริษัทกังวลที่สุดในปัจจุบัน ไม่ใช่คนที่ทำงานไม่เก่ง
.
โลกปัจจุบันมีปัญหา "ทำงานเข้ากันไม่ได้จนทีมแตก" เกิดขึ้นบ่อยกว่าแต่ก่อนมาก ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นเพราะอะไร แต่เรื่องนี้ทำให้เวลาบริษัทจะรับคนใหม่เข้ามา เค้าจะไม่ได้ดูความสามารถเป็นอันดับแรกครับ เพราะเค้าเชื่อว่างานทุกอย่างมันสอนกันได้ แต่สิ่งที่เค้าจะดูลำดับแรกเลยคือ "น้องใหม่คนนี้จะมาทำทีมเราแตกมั้ย"
.
เพราะฉะนั้น ระวังครับ ใครก็ตามที่อยากได้งาน และพยายามโชว์พาวมากๆ พรีเซ้นตัวเองเยอะๆ อารมประมาณเก่งสุดยอดไม่มีจุดอ่อนเลย คุณจะไม่ได้งานครับ เพราะมันฟังดูแล้ว ไม่น่าจะทำงานเข้ากับคนอื่นได้
.
1
สัมภาษณ์ โชวความเก่งของเราพอประมาณ พูดถึงจุดอ่อนของเราเล็กน้อย พร้อมสิ่งที่เรากำลังพยายามทำเพื่อพัฒนาตัวเอง รวมไปถึงเล่าอะไรก็ได้ ที่มันแสดงให้เห็นว่าคุณทำงานกับคนอื่นได้ คนแบบนั้นแหละครับ มีโอกาสได้งานมากกว่า ซึ่งเรื่องนี้มันไปสอดคล้องกับเรื่องที่ผมพูดถึงในข้อก่อนหน้าที่แนะนำให้หางานทำระหว่างรองาน เพราะถึงแม้จะเป็นงานที่ไม่ตรงสาย แต่มันเป็นการฝึกให้คุณทำงานกับคนอื่นเป็นครับ
.
.
.
1
สุดท้าย ขอฝากไว้ครับ
.
เรื่องบางเรื่อง ไม่ว่าเราจะชอบหรือไม่ชอบ จะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย มันก็เป็นความเป็นจริงครับ แน่นอนว่าความเป็นจริงหลายอย่างอาจจะเปลี่ยนแปลงไปได้ตามเวลา แต่มันจะไม่เปลี่ยนในชั่วข้ามคืน แค่เพราะเราอยากให้มันเปลี่ยน เพราะฉะนั้น เราถึงต้องทำความเข้าใจกับมัน เพื่อจะอยู่กับมันได้อย่างมีความสุขครับ
.
หวังว่าบทความฉบับนี้จะเป็นประโยชน์กับคุณนะครับ แล้วคุณหละครับ เคยเจอประสบการณ์อะไรแบบที่ผมเขียนถึงหรือเปล่า? เอามาเล่าให้ฟังในคอมเม้นหน่อยนะครับ อยากฟัง..
#Salarymanติดปีก #หางาน
โฆษณา