2 ธ.ค. เวลา 11:02 • ไลฟ์สไตล์

ทิมมี่ผจญภัยป่าเวทมนตร์ต้องสาป เนื่องในวันแห่งฟริตเตอร์แห่งชาติ – 2 ธันวาคม

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ณ หมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่งที่มีชื่อว่า "เมเปิ้ลวิลล์" มีเด็กน้อยชื่อว่า "ทิมมี่" เป็นเด็กชายที่รักการทำอาหารมาก เขาชอบอยู่ในครัวกับคุณแม่และทดลองทำอาหารใหม่ๆ อยู่เสมอ
วันหนึ่ง คุณแม่ของทิมมี่บอกว่า
"พรุ่งนี้เป็นวันพิเศษที่เรียกว่า (วันแห่งฟริตเตอร์) ทุกคนในหมู่บ้านจะมาร่วมกันทำฟริตเตอร์กัน"
ทิมมี่ตื่นเต้นมาก!
"ฟริตเตอร์คืออะไรครับแม่?" เขาถามด้วยความสนใจ
คุณแม่ยิ้มแล้วตอบว่า
"ฟริตเตอร์คืออาหารที่เรานำส่วนผสมต่างๆ มาคลุกเคล้ากับแป้งแล้วทอดจนกรอบนอกนุ่มใน มันอร่อยมากเลยจ้ะ!"
พรุ่งนี้เรามาทำฟริตเตอร์ข้าวโพดที่อร่อยที่สุดในโลกกัน!
.
คืนก่อนวันแห่งฟริตเตอร์ ทิมมี่ไม่สามารถหลับได้เพราะเขาตื่นเต้นมาก เขาตัดสินใจลุกขึ้นมาสำรวจห้องเก็บของเก่า ในขณะที่เขากำลังค้นหา เขาพบกับแผนที่เวทมนตร์ที่ซ่อนอยู่ในกล่องใบเก่าที่มีฝุ่นเกาะอยู่เต็ม แผนที่นั้นดูเก่ามากและมีเส้นทางที่นำไปสู่ป่าเวทมนตร์ต้องสาป
ทิมมี่คิดว่า
"ถ้าฉันสามารถหาอะไรพิเศษในป่าเวทมนตร์มาใส่ในฟริตเตอร์ของเราได้ คงจะทำให้ฟริตเตอร์ของเราดีเยี่ยมที่สุดในหมู่บ้านแน่ๆ!"
ดังนั้นเขาตัดสินใจออกเดินทางไปยังป่าเวทมนตร์ต้องสาป เพื่อค้นหาสิ่งพิเศษที่จะนำมาใส่ในฟริตเตอร์
ทิมมี่เดินทางไปยังป่าเวทมนตร์ต้องสาป ลึกเข้าไปภายในป่า เขาพบกับสิ่งมหัศจรรย์มากมาย เช่น ต้นไม้ที่มีดอกไม้เรืองแสง และสัตว์น้อยใหญ่ที่สามารถพูดคุยได้ ทิมมี่ได้พบกับกระรอกน้อยชื่อว่า "ซิมบา"
เจ้าซิมบา จึงถามทิมมี่ว่า เจ้าจะไปไหนหรือ
ซิมบานั้นเป็นกระรอกที่ชอบการผจญภัย เมื่อเห็นทิมมี่เดินเข้ามาด้วยสายตาที่มองไปทั่วอย่างตื่นเต้น จึงรู้ได้ทันทีว่า คงจะมาผจญภัยภายในป่าเป็นแน่แท้
ทิมมี่จึงเล่าให้กับซิมบาฟังว่าทำไมเขาถึงเข้ามาภายในป่าลึกแห่งนี้
หลังจากฟังจบ ซิมบา จึงตัดสินใจเข้าร่วมการเดินทางไปกับทิมมี่
ทั้งสองเดินทางไปพร้อมกัน และต้องพบกับการทดสอบมากมาย
และการทดสอบแรกที่เจอ คือ การข้ามสะพานที่มีพลังเวทมนตร์ พลังนี้นั้นจะคอยพลักให้พวกเขาถอยหลังอยู่ตลอด ไม่ให้เดินข้ามสะพานได้ ทิมมี่และซิมบา ต่างฝ่ายต่างช่วยกันดันตัว เพื่อต้านแรงพลัก จนสามารถข้ามสะพานไปได้
เมื่อข้ามสะพานมาได้แล้วเดินไปเจอกับต้นไม้สูงใหญ่ ขว้างทางพวกเขาไว้ โดยมันได้ส่งเสียงคำรามออกมา และเริ่มถามคำถาม โดยมันบอกว่าถ้าพวกเจ้าตอบไม่ได้ ข้าจะไม่ให้พวกเจ้าผ่านตรงไปนี้
"อะไรเอ่ย มีทั้งแป้ง มีทั้งไข่ มีทั้งน้ำตาล อบขึ้นมากลายเป็นขนมหวาน?"
ทิมมี่รีบตอบออกมาว่า "เค้ก" ไงล่ะ
จากนั้น เจ้าต้นไม้ใหญ่ก็ปล่อยให้เขาทั้งสองผ่านไปได้
เขาทั้งสองจึงเดินลึกเข้าไปในป่าเวทมนตร์ต้องสาป ที่สองข้างทางนั้นมีแต่ต้นไม้ขนาดใหญ่ และมีแสงวิบวับสวยงามดั่งต้นไม้แต่ละต้นนั้นต้องเวทมนตร์ ทันใดนั้น ก็มีผลแอปเปิ้ลทองคำ ที่มีขนาดใหญ๋ กระโจนเข้ามาขว้างทั้งทั้งสองไว้ มันพ้นแสงวิบวับออกมาจากปากใส่ไปที่ทิมมี่ แต่ซิมบาได้กระโดดเข้ามาขว้างไว้ ทำให้แสงนั้นพุ่งเข้าที่ซิมบาตรงส่วนหน้าอก ทำให้บริเวณหน้าอกมีแสงเวทมนตร์วิบวับ
ทิมมี่ตกใจเป็นอย่างมาก จึงรีบพุ่งตัวเข้าไปช่วยซิมบา แต่เจ้าแอปเปิ้ลทองคำ ได้พูดขึ้นมาว่า หากเจ้าอยากช่วยเพื่อนของเจ้า ให้เจ้าใช้มือทั้งสองของเจ้า จับแสงวิบวับเหล่านั้น และย้ายมันไปไว้บนตัวของเจ้าแทน
ซิมบารีบพูดขึ้นมาทันทีว่าอย่าทำแบบนั้น แต่คำพูดยังไม่ทันจบ ทิมมี่ก็ใช้มือทั้งสอง จับแสงวิบวับไว้ และย้ายแสงนั้นมาใส่บนตัวเขาทันที
ซิบบาตกใจ รีบถามทิมมี่ว่า เจ้าทำแบบนี้ทำไม ตอนนี้รู้สึกอย่างไร
ทิมมี่ตอบว่า ไม่รู้สึกอะไรนะ
แอปเปิ้ลทองคำ ได้หัวเราะขึ้นอย่างชอบอกชอบใจ พร้อมทั้งพูดขึ้นว่า พวกเจ้าผ่านการทดสอบแล้ว แสงวิบวับนั้นไม่มีอันตรายอะไร
แอปเปิ้ลทองคำยังพูดต่ออีกว่า พวกเจ้าต้องการสิ่งใด
ทิมมี่จึงตอบว่า
"อยากได้ผลไม้เพื่อนำไปทำฟริตเตอร์แสนอร่อย"
ได้สิ! แอปเปิ้ลทองคำตอบ และได้นำผลแอปเปิ้ลสีทอง มอบให้ พร้อมบอกว่า นี่เป็นผลแอปเปิ้ลพิเศษที่จะมีรสหวานแสนอร่อย พวกเจ้านำมันกลับไปสิ
ทิมมี่รู้สึกตื่นเต้นมาก จากนั้นจึ้งเดินทางกลับหมู่บ้าน ระหว่างทางผ่านบ้านของซิมบา ทิมมี่จึงขอบคุณซิมบาที่ช่วยเขาในการผจญภัยครั้งนี้
.
เมื่อทิมมี่กลับมาถึงหมู่บ้าน เขาและคุณแม่ได้นำผลแอปเปิ้ลสีทองวิเศษมาทำฟริตเตอร์ ทุกคนในหมู่บ้านต่างรอคอยการชิมฟริตเตอร์ของทิมมี่อย่างใจจดใจจ่อ เมื่อพวกเขาได้ลองชิม ทุกคนต่างชมว่าเป็นฟริตเตอร์ที่อร่อยที่สุดที่เคยได้กิน
.
ทิมมี่ได้เรียนรู้ว่า การทำอาหารไม่ใช่เพียงแค่การผสมส่วนผสมต่างๆ แต่ยังเป็นการผจญภัยและการค้นหาสิ่งใหม่ๆ
: ความมุ่งมั่นและความกล้าหาญในการออกค้นหาสิ่งใหม่ๆ สามารถนำมาซึ่งความสำเร็จ การแบ่งปัน และการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ก็เป็นสิ่งที่สำคัญในการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีและความสุขที่แท้จริงระหว่างมิตรภาพ
.
นิทานเรื่อง: ทิมมี่ผจญภัยป่าเวทมนตร์ต้องสาป
...
วันแห่งฟริตเตอร์แห่งชาติ – 2 ธันวาคม National Fritters Day
Fritters คืออาหารที่ปรุงโดยการนำวัตถุดิบต่างๆ เช่น ผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ หรือชีส มาชุบแป้งที่มีส่วนผสมของไข่และน้ำ หรือแป้งสูตรพิเศษ แล้วนำไปทอดจนกรอบนอกนุ่มใน สามารถเป็นได้ทั้งอาหารคาวและหวาน
วันที่ 2 ธันวาคมของทุกปี เป็นอีกวันที่สายกินไม่ควรพลาด เพราะนี่คือ วันแห่งฟริตเตอร์แห่งชาติ วันที่เฉลิมฉลองอาหารจานอร่อยที่มีความหลากหลาย ทั้งในรสชาติและวัฒนธรรม ฟริตเตอร์ไม่ใช่แค่อาหาร แต่เป็นสัญลักษณ์ของความสร้างสรรค์ในครัวทั่วโลก ซึ่งในแต่ละประเทศก็มีรูปแบบและรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ เช่น
- บิญเนต์ (Beignet) จากฝรั่งเศส
- ปากอร่า (Pakora) จากอินเดีย
- เทมปุระ (Tempura) จากญี่ปุ่น
- ลูคูมาเดส (Loukoumades) ของกรีซ
- Corn Fritters ของอเมริกา
ทั้งหมดล้วนมีความพิเศษอยู่ที่ความง่ายในการปรุง และความยึดหยุ่นในการทำ การดัดแปลงส่วนผสมให้เข้ากับวัตถุดิบต่างๆ ได้
.
ฟริตเตอร์มีประวัติยาวนาน ย้อนกลับไปถึงยุคโรมันโบราณ และถูกบันทึกในเอกสารครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1665 โดยซามูเอล พีปส์ (Samuel Pepys) นักการเมืองและนักเขียนชาวอังกฤษ ผู้ที่หลงใหลในอาหารชนิดนี้ ก่อนจะเผยแพร่มายังยุโรปและทั่วโลก นอกจากนี้ ฟริตเตอร์ยังได้รับการพัฒนาในแต่ละประเทศ เช่น ฟริตโต มิสโต (Fritto misto) ของอิตาลีที่ใช้วัตถุดิบทะเล หรือฟริตเตอร์ดอกไม้ที่เน้นการทอดดอกไม้กินได้
.
การใช้น้ำมันในการปรุงอาหารมีประวัติยาวนานที่ย้อนไปถึงยุคโบราณ ประมาณ 4000 ปีก่อนคริสตกาล น้ำมันถูกใช้ครั้งแรกในอารยธรรมเมโสโปเตเมียและอียิปต์โบราณ โดยส่วนใหญ่เป็น น้ำมันมะกอก ซึ่งได้จากการบีบผลมะกอก น้ำมันมะกอกถูกใช้ทั้งในการประกอบอาหาร การบูชาเทพเจ้า และในงานพิธีกรรม
.
การทอดโดยใช้น้ำมันเริ่มต้นอย่างชัดเจนในยุคโรมันโบราณ จากการค้นพบเอกสารเกี่ยวกับการทอดอาหารที่เรียกว่า "ปากอส" (pacos) และฟริตเตอร์โบราณ โดยใช้น้ำมันมะกอก น้ำมันงา หรือไขมันสัตว์เป็นหลัก เทคนิคการทอดได้แพร่หลายมากขึ้นในยุคกลาง
...
อะไรเกิดก่อนกัน น้ำมันมะกอกหรือน้ำมัน?
การศึกษาทางโบราณคดีได้เปิดเผยประวัติศาสตร์อันยาวนานของน้ำมัน โดยเฉพาะ น้ำมันมะกอก ซึ่งถือเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์น้ำมันที่เก่าแก่ที่สุดที่มนุษย์รู้จัก
หลักฐานที่เก่าแก่ที่สุดเกี่ยวกับการผลิตน้ำมันมะกอกมาจากหมู่บ้านยุคหินใหม่ที่ชื่อ คฟาร์ ซามีร์ (Kfar Samir) ซึ่งตั้งอยู่ใต้ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน นอกชายฝั่งอิสราเอลในปัจจุบัน หมู่บ้านนี้มีอายุราว 7600-7000 ปีที่ผ่านมา หรือประมาณ 5600-5000 ปีก่อนคริสต์ศักราช
หมู่บ้านดังกล่าวจมน้ำหลังจากระดับน้ำทะเลเพิ่มขึ้นในช่วงหลังยุคน้ำแข็ง ทำให้สิ่งของต่าง ๆ ถูกปิดผนึกในชั้นทรายและยังคงสภาพดี นักโบราณคดีใต้น้ำได้ค้นพบบ่อที่มีการบดมะกอก เศษมะกอกบด และตะกร้ากรองน้ำมัน ซึ่งแสดงถึงการผลิตน้ำมันในยุคนั้น
ในบริเวณใกล้เคียงที่ชื่อ ฮิชูเลย์ คาร์เมล (Hishuley Carmel) มีการค้นพบหลุมที่ใช้หมักมะกอก หลักฐานนี้บ่งชี้ว่ามนุษย์ในยุคนั้นเริ่มต้นด้วยการผลิตน้ำมันมะกอกก่อนที่จะเรียนรู้วิธีหมักมะกอกเพื่อการบริโภค
.
การปลูกต้นมะกอกเริ่มแพร่กระจายอย่างช้า ๆ ตลอดหลายพันปี หลักฐานจากไม้และละอองเกสรแสดงถึงการขยายตัวของการเพาะปลูกต้นมะกอกนอกพื้นที่ธรรมชาติของพืชป่า
- ใน มหากาพย์โอดิสซีย์ (The Odyssey) ของโฮเมอร์ น้ำมันมะกอกถูกกล่าวถึงว่าเป็นสิ่งล้ำค่าในยุคกรีกโบราณ
- ในยุคโรมัน น้ำมันมะกอกกลายเป็นสินค้าที่สำคัญสำหรับอาหาร การค้า และการดำรงชีวิต
.
ส่วนบ้านเรา ถ้าจะพูดถึง Fritters ที่นึกถึงก่อนเลย ก็กล้วยทอด ครับผม :>
แล้วเพื่อนๆ นึกถึงเมนูไหนกันครับ
.
ขอขอบคุณข้อมูล
: spiritoftheholidays
: wikipedia
: pursuit .unimelb .edu .au
.
LookAt
โฆษณา