2 ธ.ค. เวลา 17:21 • คริปโทเคอร์เรนซี

วันนี้คุณเข้าใจ "บิทคอยน์" สกุลเงินดิจิทัลที่มีโอกาสเปลี่ยนแปลงโลกการเงิน แล้วหรือยัง?

[บทนำ: ทองคำ]
เมื่อเรานึกถึงสิ่งมีค่า เรามักจะนึกถึงโลหะมีค่าอย่างทองคำ เพราะในฐานะที่เป็นสังคม เราได้ตกลงร่วมกันว่าทองคำเป็นวัตถุที่มีมูลค่าสูง มันหายากและมีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่า นอกจากนี้ยังมีระบบการระบุตัวตนที่สามารถพิสูจน์ได้ว่ามันคือทองคำจริงหรือไม่ ผลจากเอกลักษณ์เหล่านี้ทำให้ทองคำได้รับการใช้งานเป็นสินทรัพย์ที่มีประสิทธิภาพมายาวนานหลายศตวรรษ
ในแง่ของสกุลเงินดิจิทัล บิทคอยน์ (Bitcoin) ตั้งเป้าที่จะเป็นเวอร์ชั่นดิจิทัลของทองคำ มันเกิดขึ้นในปี 2009 โดยคนหรือกลุ่มคนที่มีนามแฝงว่า ซาโตชิ นากาโมโตะ (Satoshi Nakamoto) ซึ่งจนถึงปัจจุบันยังไม่มีใครรู้จักตัวตนที่แท้จริงของพวกเขา บิทคอยน์สร้างขึ้นจากแนวคิดที่ว่ามันสามารถดำรงอยู่ได้โดยปราศจากการควบคุมจากธนาคารหรือหน่วยงานรัฐบาล
[การทำงานของบิทคอยน์]
บิทคอยน์เป็นสกุลเงินที่ดัดแปลงจากรหัสคอมพิวเตอร์ที่จะถูกใช้เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน สำหรับการเก็บเงินในบิทคอยน์ ผู้ใช้สามารถสร้างกระเป๋าเงินดิจิทัล (Digital Wallet) ผ่านโทรศัพท์มือถือหรือคอมพิวเตอร์ของพวกเขา ตัดสินใจที่จะทำธุรกรรมกับใครซึ่งไม่ต้องพึ่งพาธนาคารเป็นสื่อกลาง ซึ่งส่งผลให้การใช้จ่ายเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีค่าธรรมเนียมต่ำลง
การแลกเปลี่ยนนั้นก็ง่ายดาย คุณสามารถซื้อบิทคอยน์จากเว็บแลกเปลี่ยนหรือแลกเปลี่ยนกันเองบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย (แล้วแต่กฎหมายตามประเทศ) ยิ่งไปกว่านั้น ผู้ใช้ยังสามารถซื้อบิทคอยน์ในจำนวนที่น้อยกว่า 1 บิทคอยน์ได้ ทำให้การเข้าถึงบิทคอยน์เป็นไปได้ง่ายขึ้นสำหรับผู้คนทั่วไป
[การสร้างบิทคอยน์ = การขุด (Mining)]
บิทคอยน์ถูกสร้างขึ้นผ่านกระบวนการที่เรียกว่าการขุด (Mining) ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ทำให้บิทคอยน์ใหม่ถูกสร้างและเข้าสู่วงการเงิน การขุดบิทคอยน์ต้องใช้ฮาร์ดแวร์ที่มีประสิทธิภาพสูง รวมถึงมีการคำนวณที่ซับซ้อนเพื่อให้เกิดบิทคอยน์ใหม่แต่ละเหรียญ
ในปัจจุบันมีบิทคอยน์ในระบบอยู่ประมาณ 19 ล้านเหรียญ และการขุดจะช้าลงเมื่อจำนวนบิทคอยน์ในระบบเพิ่มขึ้น โดยคาดว่าการขุดบิทคอยน์บิทคอยน์ทั้งหมดจะไม่เสร็จสิ้นจนถึงปี 2140 การมีจำนวนบิทคอยน์ที่จำกัดนี้ช่วยรักษามูลค่าของบิทคอยน์ในระยะยาว ซึ่งแฟนๆ ของบิทคอยน์หวังว่ามูลค่าจะมีความเสถียรคล้ายทองคำ
[ความนิยมของบิทคอยน์ในสังคม]
แม้บิทคอยน์จะเคยถูกมองว่าเกี่ยวข้องกับการดำเนินการที่ผิดกฎหมาย แต่ในปัจจุบัน การใช้บิทคอยน์ได้ขยายตัวมากขึ้นในธุรกิจและการค้า จุดเด่นที่สำคัญหนึ่งคือความเป็นส่วนตัวสูง ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องระบุข้อมูลประจำตัว เช่น ชื่อหรือที่อยู่ในการสร้างกระเป๋าเงินบิทคอยน์ ทำให้บิทคอยน์ดึงดูดผู้ใช้ที่ต้องการความเป็นส่วนตัวในการทำธุรกรรม
นอกจากนี้ หลายบริษัทชั้นนำอย่าง Microsoft, AT&T, Expedia, และ Shopify ยังได้เริ่มรับบิทคอยน์ในรูปแบบการชำระเงินแล้ว (ณ สหรัฐฯ) ทั้งนี้มีร้านค้าอาหารและสินค้าอีกจำนวนมากที่หันมารับการชำระเงินด้วยบิทคอยน์ด้วย ทำให้เกิดก้าวใหม่ในการใช้เงินดิจิทัลสำหรับการใช้จ่ายทั่วไป
[อนาคตของบิทคอยน์]
ในอนาคต บิทคอยน์อาจยังคงได้รับความนิยมมากขึ้น โดยอาจส่งผลต่อโครงสร้างทางการเงินทั่วโลก แม้ว่าบิทคอยน์จะมีเอกลักษณ์การขยับของราคาที่ดูเหวี่ยงกว่าทรัพย์สินอื่นๆมาก เช่น ปี 2021 มูลค่าบิทคอยน์ตกลงเกือบ 50% จากจุดสูงสุด แต่บิทคอยน์ยังคงกลายเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนและผู้ที่ต้องการทำธุรกรรมในรูปแบบที่โลกการเงินอาจไม่สามารถให้ได้ (เช่น การเข้าถึงธุรกรรมประเภทที่เคยต้องใช้ตัวกลาง ยืนยันตนมากมาย หรือเข้าถึงไม่ได้ในประเทศของตน)
สำหรับผู้ที่สนใจก้าวเข้าสู่โลกของบิทคอยน์ จำเป็นต้องศึกษาอย่างลึกซึ้ง เรียนรู้กลไกการทำงาน และทำความเข้าใจกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องในแต่ละประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ต้องตระหนักถึง "ความผันผวน" ของตลาดบิทคอยน์ ซึ่งมีพฤติกรรมที่แตกต่างจากตลาดการเงินดั้งเดิม เช่น ตลาดหุ้น พันธบัตร หรือทองคำ
ทั้งนี้ บิทคอยน์กำลังปูทางสู่การปฏิวัติระบบการเงินในอนาคต การติดตามพัฒนาการและผลกระทบต่อระบบการเงินโลกจึงเป็นเรื่องน่าสนใจยิ่ง
โฆษณา