หนึ่งในฉากจบของภาพยนตร์ที่ติดตาและตรึงใจที่สุดเรื่องหนึ่งในชีวิตก็คือฉากที่ Seb และ Mia ยิ้มให้กันในช่วงท้ายของหนัง La La Land ก่อนจะไปต่อ ก็ต้องออกตัวก่อนว่า บทความนี้เปิดเผยเนื้อหาของหนัง เป็น spoilers ขั้นสูงสุดนะครับ
***** #SpoilersAlert ******
ตัวหนังเป็นเรื่องราวของ Sebastian และ Mia หนุ่มหล่อและสาวสวยที่ต่างก็มีความฝันเป็นของตัวเอง ทั้งคู่ได้เดินทางมา Hollywood เพื่อเดินตามความฝันที่ว่า คนหนึ่งเป็นนักดนตรี ที่อยากมี jass club เป็นของตัวเอง อีกคนหนึ่งเป็นนักแสดง ที่ ยากประสบความสำเร็จและมีชื่อเสียง เส้นทางชีวิตของทั้งคู่ได้มาบรรจบและเดินไปด้วยกัน ผ่านช่วงที่ดี ช่วงที่แย่ ปัญหาและอุปสรรค ความไม่เข้าใจกัน ฯลฯ จนในที่สุด ทั้งคู่ก็ยุตติความสัมพันธ์และแยกย้ายกันไป
“อย่างน้อยคนก็เคยซึ้ง
ถึงเรื่องเราจะจบลงทุกอย่าง
เดินแยกทาง เราต่างปวดร้าว
อย่างน้อยแค่เพียงรอยยิ้ม
ยิ้มให้กันดั่งเจอเพื่อนเก่า
ยามที่เราพบกันก็ทักทายกัน”
5 ปี ให้หลัง Mia และสามี เดินเข้าไปในร้านอาหารแห่งหนึ่งที่มีดนตรี jass เล่นแบบสดๆ ระหว่างที่อยู่ในร้าน เธอก็พบว่านักดนตรีที่กำลังเล่นเปียโนอยู่นั้นคือ Seb อดีตคนรักเก่าของเธอนั่นเอง แล้วหนังก็เล่าเรื่องผ่านความเป็น what if / what might have been หากทั้งคู่ไม่ได้เลิกรากันไป ภาพที่เรียงร้อยต่อเนื่องกันอย่างรวดเร็ว เป็นการเล่าเรื่องโดยไม่มีบทสนทนาที่มี impact ต่ออารมณ์และความรู้สึกได้อย่างรุนแรง
มันคือสิ่งที่เราทุกคนเคยประสบพบเจอและอดตั้งคำถามไม่ได้ว่า ถ้าหากวันนั้นไม่เป็นอย่างนี้ วันนี้จะเป็นอย่างไร ไม่ต้องมองไกล เอาแค่ตัวคุณเอง ลองนึกและถามตัวเองดูสิว่าเคยมี what if กับเส้นทางชีวิตอยู่บ้างไหมครับ
“ฉันนั้นก็รู้ดี จากวันนี้เธอคงต้องไป
ตามทางที่เธอตั้งใจ สุดแต่ใจของเธอ
จะขอไว้แต่ก็เพียง หากบังเอิญเรามาพบกัน
เพียงจำไว้อย่างว่าเรา ยังรู้จักกัน”
รอยยิ้มของ Sep และ Mia ในช่วงท้ายของหนัง คือ อวัจนภาษา ที่สื่อสารและสรุปเรื่องราวเส้นทางชีวิตของทั้งคู่ ที่ตกผลึกในการยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้นว่าครั้งหนึ่งเราเคยรักกันจริงๆ และในจุดหนึ่งของกาลเวลา ความรักของเราได้จบลงไปแล้ว วันนี้ฉันดีใจกับเธอและเธอก็ดีใจกับฉัน ที่เรานั้นต่างก็ประสบความสำเร็จในการไล่ตามความฝันกันเรียบร้อยแล้ว วันนี้คนหนึ่งมี jass club เป็นของตัวเอง อีกคนหนึ่งกลายเป็นนักแสดงชื่อดัง เป็นรอยยิ้มที่แสดงออกถึงการยอมรับในกันและกันโดยมิจำเป็นต้องเอื้อนเอ่ยวาจาใดๆ
ดูหนังหรือละครแล้วย้อนดูตัว เรื่องราวของ Sep และ Mia ก็อาจจะเป็นภาพสะท้อนของความสัมพันธ์ระหว่างคนสองคนที่อาจจะบังเอิญมาใกล้เคียงหรือตรงกับชีวิตจริงของใครหลายคน ในทุกความสัมพันธ์ย่อมมีจุดเริ่มต้นและมีจุดจบ มีพบก็มีพราก มีจากก็มีเจอ บ้างจบดี บ้างจบไม่สวย บ้างก็ยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน บ้างก็เกลียดกันไปจนวันตาย คนเรามันต้อง move on จากความผิดหวังในความรัก นึกถึงขึ้นมาเมื่อไหร่ มันก็มีทั้งเรื่องที่จดจำไว้ไม่มีวันลืมกับเรื่องที่ถ้าเลือกได้ก็ไม่อยากจำ ความรักความสัมพันธ์มันก็เป็นเช่นนี้แหละ