7 ธ.ค. เวลา 09:29 • สุขภาพ

ตรวจตั้งครรภ์ตอนไหน แม่นยำที่สุด

รอบของประจำเดือนปกติมีระยะเวลา 21-35 วัน โดยนับวันแรกของการมีประจำเดือนเป็นวันที่หนึ่งของรอบเดือนจนถึงวันสุดท้ายก่อนมีประจำเดือนรอบใหม่ ระยะเวลาของการมีประจำเดือน (มีเลือดออก) ปกติ คือ 3-7 วัน เลือดประจำเดือนที่ออกในแต่ละรอบมีปริมาณ 20-80 มิลลิลิตร เฉลี่ยประมาณ 35 มิลลิลิตร
โดยระหว่างรอบเดือนไม่ควรมีเลือดออกกะปริดกะปรอยทางช่องคลอดอนึ่ง การจดบันทึกประจำเดือนทุกๆครั้ง ทำให้สามารถทราบค่าเฉลี่ยของระยะห่างของรอบเดือน
และสามารถใช้ประกอบการหาสาเหตุของภาวะประจำเดือนมาไม่ปกติหรือความผิดปกติอื่นๆได้
ความเชื่อที่ผิด
เรามักเชื่อกันว่าการมีเพศสัมพันธ์เพียงครั้งเดียวหรือไม่กี่ครั้ง ไม่ทำให้ตั้งครรภ์ จริงๆแล้วเป็นความคิดที่ผิด การมีเพศสัมพันธ์แม้เพียงครั้งเดียวก็มีควาามเสี่ยงที่จะเกิดการตั้งครรภ์ ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น จังหวะเวลา สุขภาพ ระดับฮอร์โมนต่างๆ
1
การขาดการคุมกำเนิด ลืมกินยาคุม และการเริ่มยาคุมแผงใหม่ช้ากว่าที่ควรจะเป็น รวมถึงการกินยาคุมร่วมกับยาปฏิชีวนะบางชนิด เพิ่มความเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ได้ นอกจากนี้ การหลั่งนอก จากการศึกษาในชั้นหลังให้ผลตรงกันว่า ไม่ได้ป้องกันการตั้งครรภ์ได้อย่างมีนัยสำคัญ(เรียกว่า แทบช่วยอะไรไม่ได้ไม่ได้เลย)
การตรวจการตั้งครรภ์(ด้วยตัวเอง) สามารถทำให้แม่นยำขึ้นได้ โดย
1. การตรวจการตั้งครรภ์สามารถทำได้ทันทีหลังจากที่ประจำเดือนไม่มาตามวันที่ครบกำเนิด(กรณีมีปัจจัยเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์)
2. ชุดตรวจบางชนิดสามารถตรวจวัดความเข้มข้นของ human chorionic gonadotropin(hCG) ได้ตั้งแต่ความเข้มข้นที่ 7.5-10 miu (โดยปกติจะตรวจวัดได้ตั้งแต่ 25 miu ขึ้นไป) ตั้งแต่วัน 6 วันก่อนครบกำหนดรอบเดือน
3. ชุดตรวจด้วยตนเองในตลาดที่พบได้บ่อยมี 3 ชนิดคือ แบบจุ่ม แบบหยด แบบปัสสาวะผ่าน สามารถเลือกใช้ได้ตามความถนัด
4. ตรวจการตั้งครรภ์ด้วยปัสสาวะแรกในตอนเช้า(ตั้งแต่ตื่นนอน) จะมีระดับ hCG ในปัสสาวะ สูงที่สุด
5. หากผลไม่ชัด สามารถตรวจซ้ำได้อีกครั้งอย่างน้อย 2-3 วัน(จากประสบการณ์แนะนำ 7 วัน เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงเชิงสรีรวิทยาจะชัดเจนที่สุด)
อ้างอิง
โฆษณา