เมื่อวาน เวลา 10:17 • ข่าวรอบโลก

สรุปวิเคราะห์สถานการณ์ “สงครามยูเครน” อัพเดทถึง 2 ธ.ค. 2024

ในแง่ของ “ความพยายามในการเจรจา” “ด้านการทหารและยุทธศาสตร์” “ด้านเศรษฐกิจ”
คีธ เคลล็อกก์ ผู้ได้รับเลือกจากโดนัลด์ ทรัมป์ ให้ดำรงตำแหน่งทูตพิเศษสำหรับสงครามในยูเครนได้โต้แย้งว่า สหรัฐฯ ควรยังส่งอาวุธให้ยูเครนต่อไป แต่จะต้องให้ยูเครนตกลงที่จะเริ่มเจรจาสันติภาพกับรัสเซียก่อนเท่านั้น ซึ่งเรื่องนี้สืบเนื่องจากรายงานเผยแพร่ของ AFPI (America First Policy Institute) เมื่อไม่นานนี้ ซึ่งนายทหารเกษียณคนนี้ (ทูตพิเศษ) และเฟรด เฟลิตซ์ ของ AFPI ได้เสนอวิธีการยุติ “สงครามรัสเซีย-ยูเครน” ไว้ดังนี้ [1]
“เราจะบอกกับยูเครนว่า พวกคุณต้องเข้ามาที่โต๊ะเจรจา และถ้าคุณไม่มาที่โต๊ะเจรจา การสนับสนุนจากสหรัฐฯ จะหมดลง… และเราจะบอกกับปูตินว่า เขาต้องมาที่โต๊ะเจรจาด้วยเช่นกัน และถ้าคุณไม่มาที่โต๊ะเจรจา เราก็จะให้ทุกสิ่งที่ยูเครนต้องการเพื่อฆ่าคุณในสนามรบ” เคลล็อกก์กล่าวถึงข้อเสนอหยุดยิงของเขากับเฟลตซ์ ซึ่งเขาเสนอต่อทรัมป์เมื่อมิถุนายนที่ผ่านมา [2]
1
จากคำกล่าวของทูตคนใหม่ของสหรัฐ รัสเซียมองว่าเคลล็อกก์มีแนวโน้มที่จะเดินตามรอย เคิร์ต โวลเกอร์ ทูตยูเครนคนก่อนสมัยแรกของทรัมป์ซึ่งทางการรัสเซียไม่ปลื้ม ตามที่เซอร์เกย์ มาร์คอฟ นักวิเคราะห์การเมืองที่มีความเชื่อมโยงกับเครมลินกล่าวไว้ในวอชิงตันโพสต์เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา [3][4]
1
ในขณะเดียวกัน Oleksii Yarmolenko นักข่าวสายทหารชาวยูเครนได้แสดงความสงสัยเกี่ยวกับแผนของทูตคนใหม่ของทรัมป์ “เคลล็อกก์” โดยระบุว่า วิธีการของเขามันคือ “การแบล็กเมล์” โดยอาศัยเรื่องความช่วยเหลือทางทหารเข้ามาเล่นงานทั้งสองฝ่ายของคู่กรณี (รัสเซีย กับ ยูเครน) แต่ว่าจะได้ผลหรือไม่นั้น ผมยังไม่เชื่อว่ามันจะได้ผล [5]
3
คีธ เคลล็อกก์ ทูตพิเศษสำหรับสงครามยูเครนของทรัมป์ เครดิตภาพ: Carlos Barria / Reuters
การประกาศเลือกเคลล็อกก์เข้ามาเป็นทูตประสานงานในยูเครนของทรัมป์ทำให้สื่อ Politico ภาคยุโรปตีพิมพ์บทความที่มีหัวข้อว่า “เหลือเวลาอีก 7 สัปดาห์ก่อนทรัมป์เข้ามา รัสเซียและยูเครนต่อสู้เพื่อชิงความได้เปรียบก่อนการเจรจาสันติภาพจะเริ่มขึ้น” [6]
บทความดังกล่าวบรรยายราวกับการแทรกแซงทางการทูตและการทหารที่นำโดยสหรัฐฯ ในอดีตยูโกสลาเวียในช่วงทศวรรษ 1990 อย่างไรก็ตามเป็นเรื่องที่น่าสงสัยอย่างยิ่งว่าสหรัฐฯ จะสามารถดำเนินการเจรจาสันติภาพกับยูเครนและรัสเซียในเดือนมกราคมได้ในลักษณะเดียวกับที่วอชิงตันและพันธมิตรทำในอดีตยูโกสลาเวียหรือไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีของรัสเซียที่มีอาวุธนิวเคลียร์ และพิสูจน์ให้เห็นถึงความสามารถในการต้านทานแรงกดดันทางเศรษฐกิจจากตะวันตก
ยูเครนกำลังดิ้นรนเพื่อเกณฑ์ทหารใหม่เข้ารบกับรัสเซีย เนื่องจากมีทหารหนีทัพเพิ่มมากขึ้น (ไม่มีใจอยากสู้แล้ว) จนต้องยอมสละดินแดนให้กับรัสเซียที่รุกคืบมากขึ้น ตามรายงานของ Isobel Koshiw จาก FT ทหารยูเครนหนีทัพในช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้มากกว่าในช่วง 2 ปีก่อนหน้าของสงคราม โดยอัยการยูเครนสั่งฟ้องคดี 60,000 คดีต่อผู้หนีทัพในช่วงเดือนมกราคม-ตุลาคม ตามรายงานของ Koshiw [7]
ขณะเดียวกันรัสเซียยึดครองพื้นที่ยูเครนได้ทั้งหมด 2,700 ตารางกิโลเมตรในปี 2024 เมื่อเทียบกับ 465 ตารางกิโลเมตรในปีที่แล้ว ตามการประมาณการของ ISW เองประเมินว่ากองกำลังของรัสเซียสามารถยึดพื้นที่ได้ 574 ตารางกิโลเมตร ในเดือนที่แล้วเพียงเดือนเดียว [8]
นอกเหนือจากการหลบเลี่ยงการเกณฑ์ทหารและการหนีทัพของทหารยูเครนแล้ว ความพยายามของทางการยูเครนในการเสริมกำลังทหารในหน่วยรบยังมีเรื่องของความไม่เต็มใจของทางการเคียฟที่จะลดอายุเกณฑ์ทหารลงเหลือ 18 ปี (ตามแรงกดดันจากสหรัฐ) แม้ว่าอายุเฉลี่ยของทหารยูเครนจะอยู่ที่ 43 ปีเมื่อปีที่แล้ว [9]
1
ทหารยูเครนในสนามรบที่มีอายุมากมักจะมีปัญหาด้านสุขภาพมากกว่า ทำให้ผู้บัญชาการกองพันยูเครนแนวหน้าคนหนึ่งบ่นเมื่อไม่นานนี้ว่า “บางครั้งรู้สึกเหมือนกับว่าผมกำลังดูแลศูนย์รับเลี้ยงคนชรามากกว่าหน่วยรบ” [10]
เครดิตภาพ: Libkos/AP
เมื่อช่วงสัปดาห์ก่อนๆ หน้านี้ ปูตินได้ลงนามปรับปรุงแก้ไขในหลักนิยมการใช้นิวเคลียร์ของรัสเซียเมื่อ 18 พฤศจิกายนที่ผ่านมา มันไม่ได้เป็นพิมพ์เขียวสำหรับการเลือกใช้อาวุธ แต่คุณค่าหลักของมันอยู่ที่การบริหารจัดการเมื่อเกิดเหตุการณ์ตามเงื่อนไขที่กำหนด [11]
มีการอธิบายถึงขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงรุ่นใหม่ “โอเรชนิก” ให้ผู้นำ CSTO คนอื่นๆ ฟัง ปูตินอ้างว่าขีปนาวุธดังกล่าวสามารถเปลี่ยนเป้าหมายให้กลายเป็นฝุ่นผงได้ เมื่อใช้ในการโจมตีจำนวนหลายลูกพร้อมกันแบบรุนแรง ผลกระทบที่เกิดขึ้นจะเทียบเท่ากับอาวุธนิวเคลียร์ โดยไม่มีการปนเปื้อนของสารกัมมันตภาพรังสีในพื้นที่
1
และในระหว่างการประชุมสุดยอด CSTO เดียวกันนี้ที่ประเทศคาซัคสถานเมื่อ 28 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าว TASS ก็ขอให้ปูตินแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข้อเสนอแนะที่นักการเมืองตะวันตกกล่าวว่าให้ “คืน (ติด) อาวุธนิวเคลียร์กับยูเครน” ด้วย “หากเกิดในกรณีนี้ เราจะใช้อาวุธทั้งหมดที่มี และผมอยากจะเน้นย้ำ (อาวุธทั้งหมดที่รัสเซียมี) เราจะไม่ยอมให้สิ่งนี้เกิดขึ้นเด็ดขาด” โดยปูตินกล่าวให้ความเห็น [12]
มีการพูดถึงสภาพเศรษฐกิจขาลงของรัสเซียในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาในสื่อตะวันตก หลังจากที่รูเบิลอ่อนค่าลงเมื่อเร็วๆ นี้ ซึ่งส่วนหนึ่งเกิดจากการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ต่อ Gazprombank ธนาคารหลักของรัสเซีย เช่น
1
“เศรษฐกิจรัสเซียอยู่ในภาวะตกต่ำ” Alycia McNamara จาก Express สื่อของอังกฤษเขียนเมื่อ 27 พฤศจิกายน [13] ตามมาด้วย Arthur Sullivan จาก DW สื่อเยอรมนีเขียนไว้เมื่อ 28 พฤศจิกายนว่า “รัสเซียอยู่ในภาวะตื่นตระหนก เนื่องจากการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ทำให้รูเบิลตกต่ำลงอย่างมาก” [14] “เศรษฐกิจในภาวะสงครามของรัสเซียเริ่มมีรอยร้าวใหม่หลังจากที่ค่าเงินรูเบิลร่วงลง” เป็นหัวข้อข่าวในบทวิเคราะห์ของ Georgi Kantchev และ Chelsey Dulaney จาก WSJ เมื่อ 29 พฤศจิกายน [15]
อย่างไรก็ตามสถานการณ์เลวร้ายในสัปดาห์นี้ไม่ได้ส่งผลทั้งหมดต่อนโยบายต่างประเทศของรัสเซีย นักข่าว Anatoly Kurmanaev เขียนใน NYT เมื่อ 2 ธันวาคมที่ผ่านมาว่า แม้ว่าเศรษฐกิจของรัสเซียจะกำลังชะลอตัว แต่ “ความตึงเครียดทางเศรษฐกิจยังห่างไกลจากการเกิดวิกฤตที่อาจบังคับให้ปูตินต้องจำกัดความทะเยอทะยานของเขาในยูเครน” [16]
1
Janis Kluge นักเศรษฐศาสตร์เยอรมันจาก SWP เห็นด้วย โดยเขียนในบทวิเคราะห์ล่าสุดของเขาว่า “แม้ว่าปัญหาเศรษฐกิจในรัสเซียอาจทำให้ความหวังของประชาชนลดน้อยลงและบังคับให้รัฐบาลต้องหาทางประนีประนอมทางการเมือง แต่ความสามารถของรัสเซียในการทำสงครามในยูเครนจะไม่ได้รับผลกระทบโดยตรง” [17]
สังเกตว่าการชะลอตัวทางเศรษฐกิจของรัสเซียไม่ใช่ข่าวใหม่แต่อย่างใด IMF และธนาคารโลกก็เคยได้คาดการณ์ไว้แล้ว การอ่อนค่าของเงินรูเบิลรัสเซียก็ไม่ใช่ข่าวร้ายเสมอไป สกุลเงินรัสเซียที่ถูกลงทำให้ราคาสินค้าที่นำเข้ามาในรัสเซียสูงขึ้น แต่พวกเขายังสร้างรายได้จากการส่งออกน้ำมัน ก๊าซ และสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆ มากขึ้นด้วย แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อจะสูง แต่ค่าจ้างยังคงสูงกว่าการปรับขึ้นของราคา และค่าจ้างจริงในรัสเซียก็เพิ่มขึ้นเกือบ 18% นับตั้งแต่สงครามยูเครนเริ่ม ตามบทความของ Kurmanaev [16]
เครดิตภาพ: Stockholm School of Economics
เรียบเรียงโดย Right Style
3rd Dec 2024
  • เชิงอรรถ:
<ภาพปก: ชาวเมืองซูมีบริเวณที่โดรนของรัสเซียโจมตีพื้นที่อยู่อาศัยของเมืองเมื่อ 22 พฤศจิกายน 2024 เครดิต: Yehor Kryvoruchko / Kordon.Media / Global Images Ukraine / Getty Images>
โฆษณา