11 ธ.ค. เวลา 11:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ

แผนลงทุน สำหรับมือใหม่เริ่มเล่นหุ้น

แม้การลงทุนในหุ้นไม่ใช่เรื่องยาก มีข้อดีหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการสร้าง Passive Income ผ่านการเป็นเจ้าของกิจการ (การซื้อหุ้นคือการเป็นเจ้าของบริษัท) การเก็งกำไรเพื่อทำกำไรจากส่วนต่างราคา แต่ความเป็นจริงแล้วไม่ได้ง่ายขนาดนั้น เพราะการลงทุนมีทั้งกำไรและขาดทุน หรือถ้าจะลงทุนเฉพาะหุ้นไทย ก็มีหุ้นให้เลือกมากกว่า 600 บริษัท
เราจึงจะไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับความรู้เบื้องต้นถึงแผนการลงทุนในหุ้น โดยเฉพาะกับมือใหม่ เพื่อเป็นแนวทางในการลงทุนในหุ้นอย่างถูกต้อง จะได้ลงทุนอย่างมีความสุข
ก่อนที่จะถึงแผนการลงทุน มาเริ่มต้นกันก่อนครับ ว่าทำไมเราถึงต้องลงทุน?
เงินเฟ้อคือตัวการสำคัญที่ทำให้เราต้องลงทุน เพราะเงินเฟ้อกัดกินมูลค่าเงิน ทำให้กำลังซื้อลดลง กล่าวคือ เงินเท่าเดิมแต่ซื้อของได้น้อยลง เพราะสินค้าและบริการต่าง ๆ ล้วนแพงขึ้นนั่นเอง
ดังนั้น เราจึงต้องนำเงินไปลงทุนให้ได้ผลตอบแทนอย่างน้อยเทียบเท่าเงินเฟ้อ ยิ่งมากกว่าเงินเฟ้อยิ่งดี เพราะจะทำให้มูลค่าที่แท้จริงเพิ่มขึ้น หากทำได้อย่างสม่ำเสมอการบรรลุเป้าหมายทางการเงินก็จะยิ่งง่ายขึ้น
แต่ก่อนที่จะเข้าสู่สนามการลงทุน หนึ่งในสิ่งสำคัญที่ต้องทำคือ สำรวจพื้นฐาน ความรู้ความเข้าใจ และเป้าหมายในการลงทุน เพื่อที่จะได้หารูปแบบ และวิธีการลงทุนที่เหมาะสมกับตัวเราเอง
เมื่อรู้จักตนเองและรู้เป้าหมายการลงทุนแล้ว จึงจะสามารถเริ่มขั้นตอนต่อไป คือ สไตล์การลงทุน ซึ่งจะมีอยู่ 2 แบบหลัก ๆ ด้วยกัน คือ นักเก็งกำไรกับนักลงทุน แล้วจึงเริ่มต้นลงทุนด้วยการใช้กลยุทธ์ให้เหมาะกับสไตล์การลงทุนของตนเอง เช่น ดูกราฟเทคนิค ใช้อินดิเคเตอร์ต่าง ๆ ในการเก็งกำไร หรือดูปัจจัยพื้นฐานในการลงทุน
จากนั้นหาขั้นตอนในการลงทุนเพื่อจะได้เลือกหุ้นถูกตัว ถูกเวลา ในราคาที่เหมาะสม และต้องควรทบทวนและปรับปรุงขั้นตอนการลงทุนหากสถานการณ์เปลี่ยนไป หรือขั้นตอนนั้นไม่เห็นผลเหมือนเดิมแล้ว
การวัดผลว่ากลยุทธ์และขั้นตอนที่เราใช้ลงทุนนั้นประสบความสำเร็จหรือไม่ สามารถวัดได้จากการคำนวณที่เรียกว่าการลงทุนคุ้มความเสี่ยง กล่าวคือ โอกาสชนะคูณกับกำไรที่ได้มากกว่าโอกาสแพ้คูณกับผลขาดทุน ก็ถือว่ากลยุทธ์และขั้นตอนยังเห็นผล แต่ถ้าตัวเลขน้อยลงอย่างมีนัยสำคัญหรือติดลบก็ควรต้องปรับปรุง
กลยุทธ์และขั้นตอนในการลงทุนต้องถูกกำกับด้วยแผนการลงทุนสำหรับมือใหม่เริ่มต้นหุ้น ที่มีอยู่ 5 ข้อสำคัญ
1. ควรลงทุนด้วยเงินเพียง 25-50% ของเงินทุน เพื่อเป็นการเรียนรู้ทั้งความสำเร็จและข้อผิดพลาด (มือใหม่ส่วนใหญ่มักจะเจ็บตัวก่อนเป็นค่าวิชา)
2. ห้ามซื้อขายหุ้นตัวเดียว ควรใช้หลักการกระจายความเสี่ยง ด้วยการซื้อหุ้นหลายตัว (ในจำนวนที่พอเหมาะ ไม่มากหรือน้อยเกินไป)
3. ห้ามซื้อขายราคาเดียว เพราะไม่มีใครประเมินตลาดหุ้นได้อย่างแม่นยำ การทุ่มเงินทั้งหมดไปซื้อหุ้นในคราวเดียวอาจจะเสี่ยงเกินไป ฉะนั้น ควรแบ่งเงินเป็นส่วน ๆ เพื่อ "ทยอยซื้อ" หรือที่เรียกกันว่า “แบ่งไม้ซื้อ” เป็นทางเลือกที่จะเหมาะสมมากกว่า
4. ห้ามลงทุนในอุตสาหกรรมเดียว (เปรียบเสมือนเอาไข่ใส่ไว้ในตะกร้าใบเดียว ที่มีความเสี่ยงมากกว่าใส่ไข่ในตะกร้าหลายใบ)
5. หลีกหลีกเลี่ยงบริษัทที่รายได้ผันผวน เพราะราคาหุ้นมักจะผันผวนสูงตามไปด้วย (เหมาะกับนักเก็งกำไรที่พอมีประสบการณ์ลงทุน)
แม้หุ้นไม่ยาก แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ดังนั้น เมื่อเริ่มต้นลงทุนแล้ว จำเป็นต้องเรียนรู้อย่างถูกต้อง และควรจะเรียนรู้เพิ่มเติมอยู่ตลอดเวลา เพราะตลาดหุ้นเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา หากเรียนรู้และปรับตัว พอร์ตการลงทุนจะสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน
โฆษณา