3 ธ.ค. เวลา 11:30 • บันเทิง

มือกีต้าร์ที่ยิ่งใหญ่ที่ 4 คน หรือที่เรียกกันว่า Big 4 แห่งยุค 90 นั้นมีใครบ้าง

แล้วใครคือมือกีต้าร์ "Big 4" ของยุค 90 หล่ะ?
ยุค 90 ถือเป็นหนึ่งในทศวรรษที่มีความหลากหลายในสไตล์และสิ่งที่ศิลปินได้แสดงออกมาผ่านเครื่องดนตรีของพวกเขา แตกต่างจากยุคอื่น ๆ ที่ผ่านมา ทศวรรษนี้เต็มไปด้วยความแปลกใหม่และเป็นช่วงเวลาที่ไม่ธรรมดา
ในขณะที่ยุค 70 และ 80 นั้นเป็นยุคแห่งการยกย่องมือกีตาร์และการโซโลกีตาร์อย่างเต็มที่ ยุค 90 กลับลดบทบาทเหล่านั้นลง โดยเฉพาะเมื่อกระแสดนตรีกรันจ์เข้ามามีอิทธิพล ทำให้การโซโลกีตาร์ไม่โดดเด่นเหมือนเดิม
หากพูดถึงวงดนตรีกรันจ์ที่เป็น “Big 4” ในยุคนี้ล้วนมีมือกีตาร์ที่น่าทึ่ง เช่น ไมค์ แมคครีดี (Pearl Jam), เจอร์รี แคนเทรลล์ (Alice in Chains), คิม ทายิล (Soundgarden) และ
เคิร์ต โคเบน (Nirvana) ซึ่งทุกคนล้วนทิ้งมรดกที่ยิ่งใหญ่ไว้ในโลกดนตรี
แต่คำถามคือ พวกเขาจะได้ติด "Big 4" ของมือกีตาร์ยุค 90 หรือไม่? หรือว่าใครสักคนจากยุคนูเมทัลจะมีโอกาสเข้ามาอยู่ในนี้แทน?
ในขณะที่ดนตรีเมทัลอาจไม่ได้รับความนิยมเท่ายุคก่อน แต่ก็ยังมีมือกีตาร์ที่เปล่งประกายออกมา เช่น ไดม์บัก ดาร์เรลล์ (Pantera) จะติดโผหรือไม่? แล้วมือกีตาร์สายโปรเกรสซีฟเมทัลอย่าง จอห์น เปตรุชชี (Dream Theater) ล่ะจะติดหนึ่งในสี่รึเปล่า? เราต้องไม่ลืมว่ามีมือกีตาร์บางคนที่คุณอาจพิจารณาว่าเหมาะกับยุคอื่น เรากำลังพยายามจำกัดให้แต่ละมือกีตาร์อยู่ในทศวรรษที่พวกเขาโดดเด่นที่สุด แต่ตอนนี้ มาดูกันว่าใครที่เราเลือกให้เป็น "Big 4" ของมือกีตาร์ยุค 90 ด้านล่างนี้
ไดม์บัก ดาร์เรลล์ (Pantera)
ไม่ว่าเราจะพูดถึงมือกีตาร์ยุค 90 แบบไหน ชื่อของ ไดม์บัก ดาร์เรลล์ ต้องเป็นโผล่ขึ้นมาเสมอ ในยุคที่ดนตรีเมทัลกำลังถดถอย มือกีตาร์จากวง Pantera คนนี้กลับทำให้ผู้ฟังสะดุ้งตื่นด้วยโทนเสียงที่ดุดันและกรูฟที่ไม่เหมือนใคร จนกลายเป็นฮีโร่แห่งวงการกีตาร์ของยุค 90 พูดง่าย ๆ เลยคือ ผลงานกีตาร์ของเขาทำให้คนหยุดฟังและให้ความสนใจ เมื่อพูดถึงการสร้าง "Big 4" ของมือกีตาร์ยุค 90 เขาคือหนึ่งในชื่อที่แทบทุกคนจะยอมรับอย่างไม่มีข้อกังขา
แซกค์ ไวล์ด (Ozzy Osbourne, Black Label Society)
แม้ว่าเขาจะเป็นที่รู้จักในฐานะมือกีตาร์สายเมทัล แต่ยุค 90 คือเวทีที่ทำให้ แซกค์ ไวล์ด ได้แสดงศักยภาพที่หลากหลายของเขาอย่างแท้จริง เขาเริ่มต้นทศวรรษในฐานะมือกีตาร์ของ Ozzy Osbourne กับอัลบั้ม No More Tears และ Ozzmosis จากนั้นทดลองแนว Southern Rock กับอัลบั้ม Pride & Glory ที่ไม่ได้รับความสนใจมากเท่าที่ควร
ก่อนจะปล่อยอัลบั้มเดี่ยวแนวลึกซึ้งและสะท้อนอารมณ์อย่าง Book of Shadows ในช่วงปลายยุค 90 ไวล์ด กลับมาสู่ความหนักหน่วงอีกครั้งกับ Sonic Brew ของ Black Label Society ไม่ว่าจะเป็นเพลงแนวระเบิดพลังหรือจังหวะบลูส์ที่อบอวลไปด้วยอารมณ์ งานของเขายังคงโดดเด่นและดึงดูดความสนใจเสมอ
จอห์น เปตรุชชี (Dream Theater)
สำหรับการเลือกนี้ เราขอยกให้กับหนึ่งในมือกีตาร์ที่ได้รับการยกย่องและเคารพมากที่สุดในวงการโปรเกรสซีฟเมทัล นั่นคือ จอห์น เปตรุชชี จาก Dream Theater ผู้ซึ่งยังคงเป็นหนึ่งในมือกีตาร์ที่มีความสามารถหลากหลายและทรงพลังมาจนถึงทุกวันนี้
เปตรุชชี เป็นมือกีตาร์ที่นำเสนอผลงานระดับสุดยอดอย่างสม่ำเสมอ ด้วยทักษะการดีดสายที่รวดเร็วและแม่นยำ รวมถึงริฟฟ์หนักแน่นที่เต็มไปด้วยพลัง
ความสามารถในการถักทอวลีดนตรีอย่างไร้รอยต่อเป็นหนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ทำให้ Dream Theater ครองตำแหน่งสูงสุดในโลกของโปรเกรสซีฟเมทัลมานานกว่าสามทศวรรษ
ทอม มอเรลโล (Rage Against the Machine)
ปิดท้าย "Big 4" ของมือกีตาร์ยุค 90 กับ ทอม มอเรลโล จาก Rage Against the Machine ผู้ซึ่งนำความแปลกใหม่เข้าสู่โลกดนตรีเมื่อวงเปิดตัวในช่วงต้นยุค 90 มอเรลโล ใช้เทคนิคที่ไม่เหมือนใคร ทั้งการใช้เสียงดิสทอร์ชัน, วาห์เพดัล และสวิตช์สลับเสียง รวมถึงฝีมืออันคล่องแคล่วบนเฟรตบอร์ด
ไม่เพียงสร้างริฟฟ์อันทรงพลัง แต่ยังทำให้การแสดงสดเต็มไปด้วยความตื่นตาตื่นใจ เขาเหมือนโจมตีกีตาร์ด้วยสไตล์ที่ผสมผสานแนวดนตรีต่าง ๆ เพื่อดึงความดุดันออกมาสไตล์การเล่นที่กระเด้งกระดอนและขับเคลื่อนด้วยจังหวะของเขาทำให้ มอเรลโล กลายเป็นหนึ่งในมือกีตาร์ที่ทรงอิทธิพลที่สุดในยุคนั้น
ขอบคุณข่าวจาก Chad Childers, Loudwire
ขอบคุณรูปภาพจาก Getty Images
สามารถอ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ https://loudwire.com/big-4-90s-guitarists/
โฆษณา