4 ธ.ค. เวลา 04:09 • หนังสือ

พรสวรรค์ VS ความพากเพียร อะไรสำคัญกว่ากัน? พบคำตอบที่จะเปลี่ยนชีวิตคุณ

หากจะพูดถึงปัจจัยที่นำไปสู่ความสำเร็จในชีวิต หลายคนอาจนึกถึงพรสวรรค์เป็นอันดับแรก แต่งานวิจัยของ Angela Duckworth นักจิตวิทยาจาก University of Pennsylvania กลับชี้ให้เห็นว่า ความพากเพียรต่างหากที่เป็นกุญแจสำคัญ
ในหนังสือ “Grit: The Power of Passion and Perseverance” Angela ได้ทุ่มเทศึกษาวิจัยเพื่อค้นหาคำตอบของคำถามที่ว่า “อะไรคือปัจจัยที่แท้จริงที่ทำให้คนประสบความสำเร็จ”
โดยเธอได้ศึกษากลุ่มคนที่ประสบความสำเร็จในหลากหลายด้าน ตั้งแต่ผู้ชนะการแข่งขันสะกดคำระดับชาติ ทหารชั้นยอดที่ผ่านการฝึกอันเข้มข้น ไปจนถึงพนักงานขายที่มีผลงานโดดเด่นในองค์กรชั้นนำ
สิ่งที่น่าสนใจคือ แม้สังคมจะปลูกฝังให้เราเชื่อว่าความสำเร็จขึ้นอยู่กับพรสวรรค์ แต่ผลการวิจัยกลับแสดงให้เห็นว่า ในขณะที่พรสวรรค์มีค่าเท่ากับหนึ่ง ความพยายามกลับมีค่าถึงสอง
Angela ได้อธิบายความสัมพันธ์นี้ผ่านสูตรง่ายๆ ที่ว่า พรสวรรค์คูณด้วยความพยายามจะได้ทักษะ และเมื่อนำทักษะมาคูณด้วยความพยายามอีกครั้ง จะได้ผลลัพธ์คือความสำเร็จที่ยั่งยืน
ยกตัวอย่างเช่น Charles Darwin นักวิทยาศาสตร์ผู้ยิ่งใหญ่ เขาเคยยอมรับว่าตัวเองไม่ได้มีสติปัญญาเฉียบแหลมเป็นพิเศษในการค้นพบความลับของธรรมชาติ แต่สิ่งที่ทำให้เขาประสบความสำเร็จคือความหลงใหลและความมุ่งมั่นที่จะค้นหาคำตอบอย่างไม่ลดละ เขาพกพาคำถามติดตัวไปทุกที่ สังเกตทุกสิ่งรอบตัว จนในที่สุดก็ค้นพบทฤษฎีวิวัฒนาการที่เปลี่ยนแปลงโลกวิทยาศาสตร์ไปตลอดกาล
แล้วเราจะสร้างความพากเพียรให้เกิดขึ้นได้อย่างไร? Angela ได้เสนอแนวทางสำคัญ 4 ประการ
ประการแรกคือการค้นหาและพัฒนาความหลงใหลในสิ่งที่ทำ โดยเริ่มจากการสำรวจใน 3 มิติ ได้แก่ ความท้าทายในวัยเยาว์ที่หล่อหลอมตัวตนของเรา ความสนใจที่ลึกซึ้งขึ้นเรื่อยๆ ตามกาลเวลา และบุคคลต้นแบบที่สร้างแรงบันดาลใจให้เรา
ประการที่สองคือการมุ่งมั่นพัฒนาตนเองทุกวัน ดังเช่น Rowdy Gaines นักว่ายน้ำเหรียญทองโอลิมปิก ที่ตั้งเป้าหมายเอาชนะตัวเองในทุกการฝึกซ้อม หรือ Tiger Woods ที่ยอมอุทิศเวลาทั้งวันเพื่อพัฒนาทักษะเพียงด้านเดียวให้ดีขึ้นแม้เพียง 1% การฝึกฝนควรแบ่งเป็นช่วงสั้นๆ ที่เข้มข้น มีเป้าหมายชัดเจน และได้รับข้อมูล feedback ที่รวดเร็วแม่นยำ
ประการที่สามคือการเชื่อมโยงสิ่งที่ทำกับจุดประสงค์ที่ยิ่งใหญ่กว่า จากการสำรวจชาวอเมริกันกว่า 16,000 คน พบว่าผู้ที่มีความพากเพียรสูงมักมองเห็นความเชื่อมโยงระหว่างงานของตนกับการสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อโลกใบนี้ เปรียบเสมือนช่างก่ออิฐที่ไม่ได้เพียงแค่วางอิฐซ้อนกัน แต่กำลังสร้างบ้านของพระเจ้า
ประการสุดท้ายคือการปรับใช้กรอบความคิดแบบเติบโต (Growth Mindset) ดังที่ Bill McNab อดีต CEO ของ Vanguard บริษัทกองทุนรวมยักษ์ใหญ่ของโลก ได้ค้นพบว่าผู้นำที่ประสบความสำเร็จในระยะยาวคือผู้ที่เชื่อในการเรียนรู้และพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่ผู้ที่ยึดติดกับความเชื่อว่าความสามารถของตนเองนั้นตายตัว
ประสาทวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ได้ยืนยันว่า สมองของเรามีความยืดหยุ่นและสามารถพัฒนาได้ตลอดชีวิต แม้แต่ในวัยผู้ใหญ่ ระบบประสาทก็ยังสามารถสร้างการเชื่อมต่อใหม่ๆ และปรับตัวตามประสบการณ์การเรียนรู้ได้อย่างน่าทึ่ง
การพัฒนาความพากเพียรจึงเป็นเหมือนการเดินทางที่ไม่มีจุดสิ้นสุด เราต้องเริ่มจากการยอมรับว่าความพยายามสำคัญกว่าพรสวรรค์ จากนั้นค่อยๆ บ่มเพาะความหลงใหล มุ่งมั่นพัฒนาตนเอง เชื่อมโยงกับจุดประสงค์ที่ยิ่งใหญ่ และเชื่อมั่นในความสามารถที่จะเติบโต ทั้งหมดนี้จะหล่อหลอมให้เกิดพลังแห่งความพากเพียรที่จะนำพาเราไปสู่ความสำเร็จที่ยั่งยืนในที่สุด
References :
หนังสือ Grit: The Power of Passion and Perseverance โดย Angela Duckworth
◤━━━━━━━━━━━━━━━◥
หากคุณชอบคอนเทนต์นี้อย่าลืม 'กดไลก์'
หากคอนเทนต์นี้โดนใจอย่าลืม 'กดแชร์'
คิดเห็นอย่างไรคอมเม้นต์กันได้เลยครับผม
◣━━━━━━━━━━━━━━━◢
The original article appeared here https://www.tharadhol.com/talent-vs-perseverance/
ติดตามสาระดี ๆ อัพเดททุกวันผ่าน Line OA ด.ดล Blog
คลิกเลย --> https://lin.ee/aMEkyNA
รวม Blog Post ที่มีผู้อ่านมากที่สุด
——————————————–
ติดตาม ด.ดล Blog เพิ่มเติมได้ที่
=========================
โฆษณา