ถอดถอน หรือ ลาออก
2 เส้นทางที่เหลืออยู่ของผู้นำเกาหลีใต้
กลายเป็นค่ำคืนแห่งความตื่นเต้นของชาวเกาหลีใต้ จริงๆ เมื่อประธานาธิบดี ยุน ซ็อก-ยอล ได้ออกมาประกาศกฎอัยการศึกอย่างกะทันหัน ท่ามกลางความงุนงงของประชาชนว่าเกิดอะไรขึ้นกับรัฐบาลของพวกเขา
แต่เราก็ได้เห็นการเคลื่อนไหวทางการเมืองอย่างรวดเร็ว เมื่อชาวเกาหลีใต้จำนวนมาก ออกมาแสดงพลังกันที่หน้าอาคารรัฐสภาในกรุงโซล พร้อมการตบเท้าของของผู้แทนราษฎรที่พยายามเข้าไปในสภา เพื่อโหวตคัดค้านการออกกฎอัยการศึกของประธานาธิบดีด้วยมติเป็นเอกฉันท์ จนประธานาธิบดี ยุน ซ็อก-ยอล ต้องออกมายอมรับความพ่ายแพ้ด้วยการยกเลิก หลังจากประกาศใช้กฎอัยการศึกภายในเพียง 3 ชั่วโมง
เกมการเมืองแบบสุดซอยของ ยุน ซ็อก-ยอล อาจจะจบแล้ว แต่ทางลงสุดซอยของเขายังไม่จบ เมื่อสภาผู้แทนราษฎร นำโดยแกนนำพรรคฝ่ายค้าน Democratic Party เรียกร้องให้ประธานาธิบดีลาออก มิฉะนั้นแล้ว เขาจะถูกยื่นมติถอดถอนในสภา โดยให้เหตุผลว่า การประกาศกฎอัยการศึกของประธานาธิบดีเป็นการละเมิดรัฐธรรมนูญเกาหลีใต้อย่างร้ายแรง เทียบเท่ากับการก่อกบฏ ที่เป็นเหตุอันควรในการยืนมติถอดถอน
ที่ตรงตามเงื่อนไขที่มีกำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญเกาหลีใต้ฉบับที่ 10 ปี 1987 ตามมาตรา 65 ข้อ 1 ที่ระบุว่า หากประธานาธิบดี นายกรัฐมนตรี หรือสมาชิกสภาแห่งรัฐอื่นๆ กระทำการฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญหรือกฎหมายอื่นๆ ในขณะที่ดำรงตำแหน่ง ก็สามารถยื่นเรื่องถอดถอนได้
ส่วนขั้นตอนในการถอดถอน ต้องมีการยื่นเรื่องผ่านสภาด้วยเสียงข้างมาก และต้องลงมติด้วยคะแนนเสียง 2 ใน 3 ของสมาชิกในสภา นั่นหมายความว่าลำพังแค่เสียงพรรคฝ่ายค้านไม่สามารถถอดถอนประธานาธิบดีได้ ต้องได้รับเสียงสนับสนุนจากพรรคฝ่ายรัฐบาลด้วย แต่เมื่อดูจากทิศทางการลงมติคัดค้านกฎอัยการศึกด้วยมติเอกฉันท์เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา ก็เชื่อว่าผู้นำเกาหลีใต้ไม่น่ารอดในการลงมติถอดถอน
แต่ขั้นตอนยังไม่จบเพียงเท่านี้ ยังต้องมีการยื่นเรื่องต่อให้ศาลรัฐธรรมนูญเป็นผู้ตัดสินชี้ขาด ภายในระยะเวลา 180 วันหลังการลงมติถอดถอน หากในระหว่างนั้น ตัวประธานาธิบดีลาออกก่อน คดีความก็จะถือเป็นโมฆะ
จึงสรุปได้ว่า ทางลงของ ประธานาธิบดี ยุน ซ็อก-ยอล มีเพียง 2 ทางเท่านั้น คือลาออกเอง หรือจะโดนถอดถอนออกไป
แต่ช้าก่อน!! ใช่ว่าพ้นจากตำแหน่งแล้ว ผู้นำ ยุน สามารถเก็บกลับบ้านได้เลย แบบไม่มีอะไรเกิดขึ้นเพราะเขาอาจต้องเจอคดีความทางการเมืองตามหลังมาอีกมากมาย จากความพยายามยึดอำนาจสภาผ่านกฎอัยการศึก
หากพิจารณากรณี อดีตประธานาธิบดี ปาร์ค กึน-ฮเย ที่ถูกถอดถอนพ้นตำแหน่งไปเมื่อปี 2017 เธอยังถูกดำเนินคดีข้อหาลุแก่อำนาจ และบังคับขู่เข็ญ ที่มีโทษจำคุกนานถึง 24 ปี และปรับเงินอีก 2 หมื่นล้านวอน
ดังนั้น แม้แต่ทางลงของประธานาธิบดี ยุน ซ็อก-ยอล ก็ไม่ใช่งานง่ายเช่นกัน
****************
ติดตามบทความของ "หรรสาระ" เพิ่มเติมได้ที่
Facebook - หรรสาระ By Jeans Aroonrat
Twitter - @HunsaraByJeans
Blockdit - หรรสาระ By Jeans Aroonrat
แพลทฟอร์มคุณภาพ ไม่ปิดกั้นการมองเห็นเนื้อหา
****************
แหล่งข้อมูล
- 40
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
