4 ธ.ค. เวลา 06:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ

‘โครงสร้างพื้นฐาน - ตราสารหนี้’ 2 ธีมการลงทุนเด่นช่วงดอกเบี้ยขาลง

การปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในการประชุมรอบเดือนกันยายนและพฤศจิกายนที่ผ่านมา เป็นเครื่องยืนยันว่าเฟดได้ปรับเปลี่ยนการดำเนินนโยบายการเงินให้มีความผ่อนคลายมากขึ้น เพื่อต่อสู้อัตราเงินเฟ้อที่แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และประคับประคองเศรษฐกิจสหรัฐฯ ให้เกิดการชะลอตัวลงแบบ Soft Landing
แล้วโอกาสการลงทุนในช่วงดอกเบี้ยขาลงจะเป็นไปในทิศทางไหน BBLAM มองว่ามี 2 ธีมที่น่าสนใจ โดยลำดับแรกคือ ‘โครงสร้างพื้นฐาน’ โดยการลงทุนในธีมนี้ถือว่าเป็นเกราะป้องกันความผันผวนที่ดีให้กับพอร์ตลงทุน เนื่องจากมีความต้องการใช้งานอยู่เสมอ และทุกรัฐบาลมักเป็นผู้ลงทุนรายใหญ่ในการพัฒนา ไม่ว่าจะเป็นระบบขนส่ง เช่น ถนนและท่าเรือ ระบบสาธารณูปโภค เช่น ประปา ไฟฟ้า การบำบัดน้ำเสีย และการกำจัดขยะ
ขณะเดียวกัน โครงสร้างพื้นฐานก็ต้องมีการซ่อมบำรุงและเปลี่ยนแปลงไปตามความต้องการของโลก เราจึงเห็นการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานทดแทน เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม ระบบกักเก็บพลังงาน อาคารและเมืองอัจฉริยะ ไปจนถึงการขนส่งสีเขียว เพื่อตอบสนองเทรนด์ของโลกในการมุ่งไปสู่ความยั่งยืน
และแน่นอนว่าความต้องการบริโภคเทคโนโลยีที่แข็งแกร่ง ย่อมนำมาสู่การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็นเครือข่ายโทรศัพท์ สัญญาณอินเตอร์เน็ต ศูนย์ข้อมูล การรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ โครงข่ายภายในอาคารและพื้นที่สาธารณะ เพื่อรองรับอุปกรณ์ IoTs ซึ่งหุ้นของบริษัทเหล่านี้นับเป็นทางเลือกที่น่าสนใจในการลงทุนด้านเทคโนโลยี นอกเหนือไปจาก The Magnificent Seven หรือหุ้น 7 ตัวของบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ในสหรัฐฯ
ดังนั้นการลงทุนในระยะข้างหน้า นักลงทุนยังคงมีโอกาสเห็นการเติบโตของ The Magnificent Seven อยู่ ตามความต้องการบริโภคเทคโนโลยีที่แข็งแกร่ง แต่ก็จะเห็นบริษัทเทคโนโลยีอื่น ๆ รวมถึงบริษัทที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลเติบโตตามไปด้วย ซึ่งการกระจายตัวที่มากขึ้นนี้ จะทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ มีความสมดุลมากขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงเวลาก่อนหน้า
โดย BBLAM ขอแนะนำกองทุนรวมที่เหมาะสมกับธีมนี้คือ ‘B-GLOB-INFRA’ ที่มีนโยบายลงทุนใน FTGF ClearBridge Global Infrastructure Income Fund (กองทุนหลัก) ซึ่งเน้นลงทุนในหุ้นของบริษัทที่เกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานในกลุ่มประเทศ G7
ธีมถัดมาคือ ‘ตราสารหนี้’ แม้ว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายแล้ว แต่การจัดพอร์ตลงทุนที่เหมาะสมควรคำนึงถึงการสร้างสมดุลระหว่างโอกาสและความเสี่ยง โดย ‘ตราสารหนี้’ นับเป็นทางเลือกการลงทุนสำหรับนักลงทุนที่ยอมรับความเสี่ยงได้ในระดับต่ำถึงปานกลาง จึงมีความน่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่ต้องการมองหาสินทรัพย์ลงทุนอื่น ๆ นอกเหนือจากหุ้น
การลงทุนในตราสารหนี้ ณ ช่วงเวลานี้ BBLAM มองว่ามีความน่าสนใจ เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยนโยบายยังอยู่ในระดับสูง และเริ่มกลับตัวเป็นขาลงแล้ว จึงเป็นโอกาสในการลงทุนตราสารหนี้ระยะกลางถึงระยะยาว เพื่อโอกาสรับผลตอบแทนจากราคาตราสารหนี้ที่เพิ่มสูงขึ้นในอนาคต
โดย BBLAM ขอแนะนำกองทุนรวมที่เหมาะสมกับธีมนี้คือ ‘B-DYNAMIC BOND’ กองทุนที่มีกลยุทธ์การลงทุนแบบ Core-Satellite and Completion Portfolio ปัจจุบัน Core ของกองทุนนี้คือกอง PIMCO GIS Global Bond ที่มีนโยบายกระจายการลงทุนตราสารหนี้ทั่วโลก ส่วนที่เหลือเป็นการลงทุนเพื่อเพิ่มผลตอบแทน และกลยุทธ์ Completion Portfolio เป็นการบริหาร Duration Port ให้มีความเหมาะสม
สำหรับนักลงทุนที่สนใจ กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นโกลบอล อินฟราสตรัคเจอร์ (B-GLOB-INFRA) และกองทุนเปิดบัวหลวง ไดนามิก บอนด์ (B-DYNAMIC BOND) สามารถเลือกลงทุนได้ด้วยเงินลงทุนเริ่มต้น 500 บาท
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ BBLAM
• โทร. 0 2674 6488 กด 8
• เว็บไซต์ BBLAM
• ลงทุนด้วยตนเองง่าย ๆ ผ่านโมบายแบงก์กิ้งธนาคารกรุงเทพ หรือ แอป BF Fund Trading จาก BBLAM
คำเตือน : การลงทุนมิใช่การฝากเงินและมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจไม่ได้รับเงินลงทุนคืนเต็มจำนวนเมื่อไถ่ถอน (ไม่คุ้มครองเงินต้น) / ผู้ลงทุนต้องศึกษาและทำความเข้าใจลักษณะสินค้า ข้อมูลสำคัญ นโยบายการลงทุน เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนการตัดสินใจลงทุน / กองทุนที่มีการลงทุนในต่างประเทศมิได้มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งหมดหรือเกือบทั้งหมด
ทั้งนี้ อยู่ในดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน ดังนั้น ผู้ลงทุนอาจขาดทุนหรือได้กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจากการลงทุนในกองทุนดังกล่าว หรืออาจได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้
#BBLAM #กองทุนบัวหลวง #BFFundTrading #MobileBanking #ธนาคารกรุงเทพ
โฆษณา