วันนี้ เวลา 06:38 • หุ้น & เศรษฐกิจ

เฮ! ‘ต้มยำกุ้ง’ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกวัฒนธรรมฯ โดยยูเนสโก

ภูมิปัญญาไทยที่สะท้อนถึงอารยธรรมและความยั่งยืน
‘ต้มยำกุ้ง’ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ โดยยูเนสโก รากเหง้าอารยธรรมการกินของภาคกลาง เต็มไปด้วยภูมิปัญญาพื้นบ้านที่นำสมุนไพรมาปรุงเป็นอาหาร โด่งดังทั่วโลกนับตั้งแต่ทศวรรษที่ 1980เป็นส่วนหนึ่งของ Soft Power ไทย สร้างความมั่นคงด้านอาหาร สู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์และการพัฒนาอย่างยั่งยืน
องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก ได้ประกาศรับรองให้ “ต้มยำกุ้ง” ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ ตามที่ประเทศไทยเสนอ และถือเป็นมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้รายการที่ 5 ของไทย
ที่ประชุมคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลเพื่อการสงวนรักษามรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ ครั้งที่ 19 (The nineteenth session of the Intergovernmental Committee for the Safeguarding of the Intangible Cultural Heritage) ขององค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม ณ กรุงอะซุนซิออน สาธารณรัฐปารากวัย
หรือตรงกับวันที่ 4 ธันวาคม เวลาประมาณ 02.10 น. ตามเวลาประเทศไทย มีมติรับรองให้ "ต้มยำกุ้ง" ขึ้นทะเบียนเป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ (Representative List of the Intangible Cultural Heritage of Humanity)
ประวัติต้มยำกุ้ง
ต้มยำกุ้ง เป็นหนึ่งในอาหารไทยที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก และถือเป็นสัญลักษณ์ของอาหารไทยในด้านรสชาติที่เข้มข้นและจัดจ้าน ต้มยำกุ้งเป็นซุปที่มีรสเปรี้ยว เผ็ด และกลมกล่อม โดยมี 'กุ้ง' เป็นวัตถุดิบหลัก รวมกับสมุนไพรและเครื่องเทศต่าง ๆ ที่มอบรสชาติและกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์
ต้มยำกุ้งมีมาตั้งแต่สมัยโบราณของประเทศไทย โดยมีการปรุงอาหารแบบต้มที่ใช้สมุนไพรไทย เช่น ตะไคร้, ใบมะกรูด, ข่า, พริก, และมะนาว เพื่อเพิ่มรสชาติและประโยชน์ทางสุขภาพ
ตามประวัติศาสตร์อาหารไทย ต้มยำกุ้งมีต้นกำเนิดมาจากอาหารพื้นบ้านของชาวไทยในแถบภาคกลาง โดยเป็นอาหารที่ทำง่ายและใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติในการปรุง เช่น กุ้งที่หาง่ายในแม่น้ำและทะเล รวมถึงสมุนไพรที่ปลูกตามบ้านเรือน
การปรับปรุงและการเผยแพร่
ในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา ต้มยำกุ้งได้รับความนิยมมากขึ้นและได้มีการพัฒนารสชาติให้หลากหลาย ทั้งการปรับรสชาติเพื่อรองรับผู้ทานต่างชาติ และการสร้างเวอร์ชั่นที่มีความเข้มข้นหรือเปลี่ยนแปลงส่วนผสม เช่น การเติมกะทิลงไปเพื่อเพิ่มความมันและกลมกล่อม หรือการทำเป็นต้มยำกุ้งน้ำข้น
ต้มยำกุ้งได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในอาหารที่แสดงถึงเอกลักษณ์ของวัฒนธรรมการกินของไทยและได้ถูกนำไปเผยแพร่ทั่วโลก ตั้งแต่ในร้านอาหารหรูหราจนถึงร้านอาหารตามท้องถนนทั่วประเทศ
ความสำคัญทางวัฒนธรรม
ต้มยำกุ้งไม่เพียงแต่เป็นอาหารที่มีรสชาติเฉพาะตัวและได้รับความนิยมในต่างประเทศเท่านั้น แต่ยังเป็นตัวแทนของการใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติในอาหารไทย การผสมผสานของสมุนไพรที่มีคุณสมบัติทางยา เช่น ข่า, ตะไคร้, และใบมะกรูด ยังสะท้อนให้เห็นถึงภูมิปัญญาการกินที่ใช้ในการดูแลสุขภาพของคนไทยในอดีต
ต้มยำกุ้งจึงไม่เพียงแต่เป็นอาหารที่อร่อยเท่านั้น แต่ยังมีความสำคัญทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่ช่วยส่งเสริมความเข้าใจเกี่ยวกับอาหารไทยในมุมมองต่างๆ ทั้งในแง่รสชาติและประโยชน์ต่อร่างกาย
ติดตามอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่ลิงก์
โฆษณา