เหล่าผู้บริหารในสหรัฐฯ กำลังขายหุ้นในระดับที่สูงเป็นประวัติการณ์
ปัจจุบัน อัตราส่วนระหว่างการขายหุ้นของผู้บริหาร (insider sellers) ต่อการซื้อหุ้น (insider buyers) พุ่งขึ้นเกือบ 6 เท่า ซึ่งถือว่าสูงที่สุดในรอบสองทศวรรษที่ผ่านมา (ขายเยอะกว่าซื้อ 6 เท่า)
ตัวเลขนี้มากกว่า สองเท่า ของค่าเฉลี่ยในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา และยังทะลุสถิติเดิมที่เคยสูงสุดที่ 5 เท่า ในปี 2021 ซึ่งเป็นช่วงก่อนตลาดหมี (bear market) จะเริ่มต้น
หลังจากที่ตลาดหุ้นได้พุ่งขึ้นอย่างมหาศาลในช่วงที่ผ่านมา ผู้บริหารในบริษัทต่างๆ กำลังใช้โอกาสนี้ในการทำกำไรจากหุ้นของตัวเอง
ทำไมผู้บริหารถึงขายหุ้นมากขนาดนี้? (วิเคราะห์ความเป็นไปได้ตามทฤษฎี)
1. ตลาดหุ้นแตะจุดสูงสุด
หลังจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ผู้บริหารอาจมองว่าราคาหุ้นของบริษัทตัวเองใกล้ถึงจุดสูงสุด จึงเลือกที่จะขายเพื่อล็อกกำไร
2. ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ
ด้วยปัจจัยทางเศรษฐกิจและการคาดการณ์ที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ผู้บริหารอาจมองเห็นความเสี่ยงในอนาคตและตัดสินใจลดการถือครอง
3. การปรับสมดุลพอร์ตการลงทุนส่วนตัว
ผู้บริหารบางคนอาจต้องการกระจายความเสี่ยงหรือใช้เงินที่ได้จากการขายหุ้นเพื่อลงทุนในสินทรัพย์อื่น
4. มูลค่าหุ้นถูกประเมินไว้สูงเกินไป (Price Valuation Too High)
ผู้บริหารอาจมองว่าราคาหุ้นของบริษัทถูกประเมินค่าสูงเกินกว่ามูลค่าที่แท้จริง (overvalued) เมื่อเทียบกับปัจจัยพื้นฐาน เช่น กำไรสุทธิ การเติบโตในอนาคต หรือสภาพเศรษฐกิจโดยรวม จึงเลือกขายเพื่อลดความเสี่ยงหากราคาหุ้นปรับตัวลงในอนาคต
การขายหุ้นในระดับสูงจากผู้บริหารไม่ได้แปลว่าพวกเขาไม่เชื่อมั่นในบริษัทของตัวเองเสมอไป แต่เป็นกลยุทธ์ทางการเงินที่ขึ้นอยู่กับการประเมินความเสี่ยงและโอกาสในตลาด ณ ช่วงเวลานั้น
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนทั่วไปควรจับตาดูพฤติกรรมของ insider selling อย่างใกล้ชิด เพราะมันอาจเป็นสัญญาณสำคัญถึงการเปลี่ยนแปลงในทิศทางของตลาดในอนาคต
- 13
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
