Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
หนูนิ
•
ติดตาม
4 ธ.ค. เวลา 14:46 • นิยาย เรื่องสั้น
รักย้อนอดีตภาค5 ภัยร้ายจากดาวหางฮัลเลย์
.
บทที่ 11 แดร็กคูลา (Dracula) ตอน 1
.
จู่ๆแสนสุริยาและพันก็มาโผล่ ณ สถานที่แห่งหนึ่ง ที่คุ้นตาเหมือนเคยเห็นในภาพยนตร์แวมไพร์ ถูกแล้ว...ไม่ผิดหรอก
เพราะมิติที่ผิดเพี้ยนนำทั้งคู่มาสู่เรื่องราวที่เขย่าขวัญสั่นประสาท ที่ขาดไม่ได้คือ
การที่คนทั้ง2ต้องต่อสู้กับสิ่งที่เหนือคำอธิบาย
.
เหตุการณ์นี้เป็นคำบอกเล่าของเรนฟิลด์เมื่อถูกดร.แวน เฮลซิ่งสะกดจิต หลังจาก
มีเรื่องวิกฤตเกิดขึ้น
.
ปี 1893 ผมเป็นทนายความชื่อโทมัส เรนฟิลด์ เดินทางจากลอนดอน(ประเทศอังกฤษ)ไปยังปราสาทแห่งหนึ่งในหุบเขาคาร์เพเธียน ที่อยู่ชายแดนของทรานซิลเวเนีย(ประเทศโรมาเนีย ในปัจจุบัน)เพื่อสรุปการซื้อขายกับเค้าท์แดรกคูลา
.
ตอนที่ผมรอคนขับรถม้าไปส่งที่ช่องเขาบอร์โก้ได้ยินคนขับรถพูดกับหญิงชราเจ้าของโรงแรมด้วยคำพูดแปลกๆซ้ำๆกันหลายคำเป็นต้นว่า ซาตาน หรือ นรก
แม่มด หรือ มนุษย์หมาป่า หรือ ผีดูดเลือด
.
หลังจากนั้นจึงออกเดินทาง ครั้นเริ่มมืดคนขับรีบลงแส้ม้าพร้อมทั้งตะโกนเร่งพวก
มันให้วิ่งเร็วขึ้น ไม่นานนักภูเขาก็ดูเหมือนบีบล้อมเข้ามาหา และแล้วท่ามกลาง
เสียงกึกก้องของฝีเท้าม้าและล้อรถ มีรถหรูเทียมม้า 4 ตัว วิ่งคู่มากับรถโดยสาร
.
คนขับเป็นชายร่างสูงมีเคราสีน้ำตาลสวมหมวกใบใหญ่สีดำซ่อนใบหน้าเขาไว้ มองเห็นแต่เพียงประกายตาคู่หนึ่งซึ่งดูเหมือนแสงสีแดงจากตะเกียง
.
กระเป๋าของผมถูกลำเลียงจากรถประจำทางไปยังรถม้าหรูอย่างรวดเร็ว จากนั้นผมจึงย้ายตัวเองตาม แล้วรถทั้งสองก็แยกจากกันโดยรถคันที่ผมนั่งแล่นเข้าสู่ความมืดมิดของช่องเขาบอร์โก้
.
เวลาผ่านไปนานมากราวกับจะไม่มีวันสิ้นสุด ทันใดผมก็ได้สติรู้สึกตัวว่าคนขับกำลังนำรถผ่านเข้าไปในสุสานของปราสาทโทรมๆหลังใหญ่ ต่อมามีเสียงโซ่กระทบกันตามด้วยเสียงดึงกลอนขนาดใหญ่ เสียงไขกุญแจแล้วบานประตูจึงเปิดออก
.
ผมยืนนิ่งอยู่เป็นครู่เพราะภายในมืดมากจนกระทั่งเทียนไขในห้องเพียง2เล่มจุดสว่าง ผมจึงพบว่ามีชายสูงอายุยืนอยู่ หน้าตาเกลี้ยงเกลายกเว้นหนวดยาวสีขาว สวมชุดสีดำตลอดทั้งตัว
.
เขาเอ่ยชื่อผมพลางผายมือนำทาง ภาษาอังกฤษที่เขาพูดดีเยี่ยม ทว่ามีสำเนียงแปร่งๆ "ยินดีต้อนรับสู่บ้านของผม เชิญตามสบายครับ ผมคือแดร็กคูล่า ขอต้อนรับคุณเรนฟิลด์"
.
ผมพบว่าอาหารค่ำได้ถูกตั้งโต๊ะรออยู่แล้ว เจ้าบ้านโบกมือให้ผมนั่ง "ขอเชิญคุณนั่งลงและรับประทานอาหาร ต้องขออภัยที่ผมไม่ร่วมโต๊ะด้วย เนื่องจากผมอิ่มแล้วและผมไม่ทานอาหารค่ำ"
.
คราวนี้มีโอกาสสำรวจเจ้าภาพ ท่าทางเขาแข็งแรง ปากเม้มสนิท ตามีแววเหี้ยม ฟันขาวแต่แหลมอย่างประหลาด และใบหน้าขาวซีด นอกหน้าต่างเล็กๆที่มีอยู่เพียงบานเดียวเห็นแสงจางๆ ดวงอาทิตย์กำลังจะขึ้น
.
เจ้าบ้านลุกขึ้นยืนพลางกล่าวว่า "คุณคงเพลียเป็นแน่ ห้องของคุณจัดไว้พร้อมแล้ว เชิญนอนตามสบาย จะตื่นกี่โมงก็ได้ ผมต้องไปธุระจนถึงค่ำ หวังว่าคุณจะหลับสบายและฝันดี"
.
ท่านเค้าท์เติอนว่าไม่ควรไปเดินเล่นที่อื่นใดยกเว้นอยู่แต่ในห้องของคุณเอง ผมจึงขอตัวกลับห้อง
คืนวันต่อมาหลังอาหารค่ำผมหาได้ทำตามคำเตือนของท่านเค้าท์ไม่ ผมได้ออกไปขึ้นบันไดหินซึ่งนำไปยอดหอคอยที่มองเห็นพื้นที่ทางด้านทิศใต้ ขณะชะโงกหน้าออกไปสายตาผมก็จับได้ภาพอะไรบางอย่าง กำลังเคลื่อนไหวต่ำกว่าที่ผมยืนอยู่ชั้นหนึ่ง
.
สิ่งที่เห็นคือศีรษะของท่านเค้าท์ยื่นออกจากหน้าต่างบานหนึ่ง ความรู้สึกของผมเปลี่ยนเป็นความสยองและหวาดกลัว เมื่อพบว่าร่างของเขาค่อยๆโผล่ออกมา และเริ่มไต่ลงไปตามกำแพงปราสาทด้วยลักษณะที่เหลือเชื่อ
.
เพราะเขาพุ่งศีรษะลงไปก่อนโดยมีเสื้อคลุมแผ่ออกไปราวปีกขนาดใหญ่ พระเจ้าได้ทรงปกป้องสติสัมปชัญญะผมไว้ ทำให้ผมอุทานด้วยความตกใจเบา ๆ หวังว่าท่านเค้าท์คงไม่ได้ยิน(ผมมารู้ในภายหลังว่าท่านมีประสาทหูที่ปราดเปรียวมาก มิเช่นนั้นคงมาช่วยผมไว้จาก3สาวไม่ทัน)
.
แล้วผมก็ไม่ได้อยู่ตามลำพังอีกต่อไป หญิงสาว 3 คนกำลังเดินตรงมาหาผม ท่าทางและการแต่งตัวเป็นกุลสตรี แต่พวกหล่อนไม่มีเงาทาบลงบนพื้น
.
หญิงสาว2คนผิวคล้ำ ส่วนคนที่3ผิวขาวมีผมสีทองหยักเป็นลอนดวงตาสีไพลินอ่อน ทั้ง3คนมีฟันสีขาววาววับ
พวกหล่อนกระซิบกระซาบแล้วพากันหัวเราะราวกับเสียงดนตรีทว่ารุนแรงราวกับไม่ใช่เสียงมนุษย์
.
สาวผิวขาวโน้มตัวเข้าใกล้จนผมได้ยินเสียงขยับลิ้นเลียฟันกับริมฝีปากและลมหาย
ใจอุ่นๆบนซอกคอของเขา ริมฝีปากของหล่อนจรดลงมาที่คอผม ตามด้วยฟันแหลมคม 2 ซี่
.
ทันใดนั้นผมก็ได้สติเมื่อท่านเค้าท์โผล่เข้ามาพร้อมกับความโกรธ "พวกแกกล้าดียังไงถึงมาแตะต้องเขา ถอยไป ข้าขอบอกเจ้าทุกคนไว้ว่า ชายคนนี้เป็นของข้า อย่ามาวุ่นวายกับเขาอีก มิเช่นนั้นจะเจอดี"
.
เช้าวันต่อมาผมตื่นขึ้นบนเตียงนอนของตัวเอง ขณะมองไปรอบๆผมรู้สึกว่าห้องนี้เป็นเหมือนที่หลบภัย เพราะไม่มีอะไรน่ากลัวเกินกว่าสามสาวท่าทางประหลาดนั้น พวกหล่อนกำลังคอยจะดูดเลือดผม
.
ผมรู้สึกชื่นชมที่ได้พบหนังสือภาษาอังกฤษจำนวนมากมายในห้อง อาหารเช้าจัดเตรียมไว้พร้อม
ทว่าประตูห้องถูกล็อคจากด้านนอก แต่ทันทีที่พระอาทิตย์ตกดินประตูได้ถูกเปิดออกแลัวท่านเค้าท์เดินเข้ามา
.
เขาขอโทษขอโพยที่ต้องขังผมเพื่อความปลอดภัยของผมเอง และขอฟังรายงานทุกอย่างเกี่ยวกับทรัพย์สินของเขาในลอนดอน
เราคุยกันเรื่องธุรกิจการซื้อขายทื่ดินชื่อ คาร์แฟกซ์ ซึ่งมีคฤหาสน์โบราณใหญ่มากอยู่ในที่นี้ มันปลูกติดกับโบสถเก่าๆ แถวนั้นมีบ้านเพียงไม่กี่หลัง และ มีโรงพยาบาลโรคจิตของเอกชนอยู่ชิดด้านหนึ่งของคฤหาสน์แต่มีกำแพงสูงกั้นไว้
.
หลังอาหารค่ำและหมดธุระกับท่านเค้าท์ ผมก็ต้องกลับเข้าไปอยู่ภายในห้องและถูกขังไว้อีก ผมจะทำอย่างไรได้เล่าครับเพื่อความปลอดภัยของผมเอง
.
เช้าวันต่อมาผมจึงพบว่าห้องไม่ได้ถูกล็อคอีก ผมออกเดินสำรวจปราสาท มันตั้งอยู่บนขอบหน้าผาสูงชันน่าหวาดเสียว
ทุกๆแห่งมีแต่ประตู ประตู และ ประตู ซึ่งทุกบานใส่กุญแจและกลอนอย่างแน่นหนา
กำแพงหนาทึบมีเพียงช่องหน้าต่างเล็ก ๆ
จะว่าไปที่จริงแล้วปราสาทก็เหมือนคุกโดยมีตัวผมเป็นนักโทษ และภาวนาว่าผมคงปลอดภัยกลับไป ที่จริงผมไม่ควรมาที่นี่เลย
.
ผมมาอยู่หลายวันแล้ว แต่ยังไม่เคยพบท่านเค้าท์ในเวลากลางวันนับแต่มาที่นี่ เป็นไปได้ไหมว่าเขานอนในเวลาที่คนอื่นตื่นและตื่นเวลาที่คนอื่นหลับ ผมคงรู้คำตอบหากเข้าไปในห้องเขาได้
.
ห้องของท่านเค้าท์อยู่คนด้านกับที่ผมอยู่ ห้องของผมมีเพียงช่องหน้าต่างเล็กๆตัวผมลอดผ่านได้ มีประตูที่เดินไปได้เพียง2ทางคือขึ้นไปที่หอคอยและออกไปตามทางที่เข้ามาจากช่องเขา
แต่...ใช่แล้วมีอยู่หนทางหนึ่ง ผมเคยเห็นท่านเค้าท์ไต่กำแพงออกจากห้อง ทำไมไม่เลียนแบบเขาบ้าง
.
ต่อมาในวันเดียวกัน ผมลองพยายามดูและไต่เข้ามาในห้องท่านเค้าท์โดยปลอดภัย ตรงมุมหนึ่งของห้องท่านเค้าท์มีประตูบานใหญ่เปิดไปสู่ทางเดินปูด้วยหิน ซึ่งนำไป
สู่บันไดเวียนมันนำไปสู่โรงสวดเก่าๆและผุพัง เห็นได้ชัดว่ามันถูกใช้เป็นสุสาน มีโลงศพตั้งเรียงรายเต็มไปหมดนับได้ 50 ใบ
.
ในจำนวนนี้มีอยู่ใบหนึ่งที่ใหม่และดูดีมากมีตัวท่านเค้าท์นอนอยู่ เขาตายแล้วหรือหลับกันแน่ เนื่องจากดวงตาเบิกโพลง แก้มแม้ซีดขาวแต่ยังดูมีชีวิต ทันใดนั้นเอง
ดวงตาของเขาก็เปิดขึ้นแล้วจ้องมองผมอย่างมีอำนาจ
.
ผมกลายเป็นนักโทษของเค้าท์แดร็กคูล่าในบัดนั้น หายนะกำลังเกิดขึ้นกับผมอย่างมิอาจหลีกเลี่ยงได้ ผมขอฝากชะตาชีวิตไว้กับพระเมตตาของพระเป็นเจ้า
.
ผมโดนสะกดจิตให้เป็นทาสรับใช้ท่านเค้าท์ที่ต้องการขยายอาณาจักรแวมไพร์โดยเริ่มที่ประเทศอังกฤษ ท่านเค้าท์ให้ผมเรียกเขาว่า "เจ้านาย"
.
จบตอน 11/1 ภาพปกจากสรรหามาให้ดู ภูเขาอดัมส์ ภูเขาฮูด และ ภูเขาเรนเนียร์ ในภาพเดียว ที่ซีแอตเทิล สหรัฐอเมริกา
.
หมายเหตุ! แปลและดัดแปลงจากหนังสืออ่านนอกเวลาของLongman แดร็กคูลา(Dracula) บทประพันธ์ของบราม สโตกเกอร์ นักเขียนชาวอังกฤษ
.
ความที่ในวัยเด็กเขาเป็นคนขี้โรคอ่อนแอ ทำให้เขาเกิดความคิดเขียนเรื่องน่ากลัวสยดสยองอันเป็นที่มาของ แดร็กคูลา ก่อนจะเขียนเรื่องนี้บรามค้นข้อมูลตำนานเกี่ยวกับแวมไพร์เป็นเวลา 7 ปี
.
ตัวละครเค้าท์แดร็กคูล่ามาจากเจ้าชายแห่งโรมาเนียที่ชื่อว่า 'เจ้าชายวลาดที่ 3' แห่งแคว้นวาลาเคีย (Wallachia) ทรานซิลเวเนีย ที่ขึ้นชื่อว่าพระองค์โหดร้ายมากกับเหยื่อ
.
แถมยังกล่าวถึงสถานที่ต่างๆในโรมาเนียประกอบเหตุการณ์ในเนื้อเรื่อง ทั้งที่เจ้าตัวคนเขียนไม่เคยเดินทางไปโรมาเนียมาก่อนด้วยซ้ำ แต่กลับทำให้คนอ่านเชื่ออย่างสนิทใจ(วิกิพีเดีย)
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย