5 ธ.ค. เวลา 14:21 • ธุรกิจ

ภาษีเพิ่มขึ้น จาก 7% เป็น 15% แล้วเกิดอะไรขึ้นบ้าง

ภาษีมูลค่าเพิ่ม (Value Added Tax) เป็นการเก็บภาษีจากการขายสินค้า หรือการให้บริการในแต่ละขั้นตอนการผลิต และ จำหน่ายสินค้าหรือบริการ ทั้งที่ผลิตภายในประเทศและนำเข้าจากต่างประเทศ
แม้ว่า VAT 7% ของประเทศไทยจะต่ำกว่าประเทศอื่น ๆ ที่อยู่ในค่าเฉลี่ยที่ 15 - 25% แต่อีกมุมมอง รัฐบาลจะมีงบประมาณในการบริหารโครงการต่าง ๆ หรือ เพิ่มศักยภาพในการพัฒนาระบบส่วนกลางให้แก่ประชาชนรวมไปถึงการช่วยเหลือคนจนมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามการเพิ่มขึ้นของ VAT ยังคงส่งผลต่อทุกระดับรายได้ในเรื่องของ ค่าใช้จ่ายทั่วไปของผู้บริโภค และ ต้นทุนของผู้ผลิต ในเนื้อหาโพสนี้จะสรุปสาระสำคัญของการเพิ่มขึ้นของ ภาษีมูลค่าเพิ่ม (Value Added Tax , VAT)
1.สถานะปัจจุบันของ VAT ในไทย
-อัตรา VAT อยู่ที่ 7% มาตั้งแต่วิกฤตเศรษฐกิจปี 1997 (วิกฤตต้มยำกุ้ง) ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยโลกที่ 15%-25%.
2.เหตุผลในการเพิ่ม VAT
-เพื่อเพิ่มรายได้รัฐบาลสำหรับการลงทุนพัฒนาประเทศ ลดความเหลื่อมล้ำ และช่วยเหลือกลุ่มรายได้น้อย.
3.เป้าหมายของการเพิ่ม VAT
-เพิ่มรายได้เข้ากองทุนรัฐเพื่อใช้ในโครงการสาธารณูปโภค เช่น การศึกษาและสาธารณสุข.
-ลดช่องว่างความเหลื่อมล้ำระหว่างคนรวยและคนจน.
4.ผลกระทบต่อประชาชน
-กลุ่มรายได้น้อยได้รับผลกระทบหนัก เนื่องจากต้องเสียภาษีสัดส่วนที่สูงขึ้นเมื่อเทียบกับรายได้.
5.ผลกระทบต่อธุรกิจ
-ต้นทุนการดำเนินงานของธุรกิจเพิ่มขึ้น ซึ่งอาจผลักไปที่ผู้บริโภคในรูปของราคาสินค้าและบริการที่แพงขึ้น.
6.มาตรการลดผลกระทบ
-ใช้แนวทางนวัตกรรม เช่น การตั้งกองทุนช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง หรือการจัดเก็บ VAT แตกต่างกันตามประเภทสินค้า.
7.ข้อดีของการเพิ่ม VAT
-เพิ่มความสามารถในการแข่งขันของไทยในเวทีโลก โดยสร้างรายได้มากขึ้นสำหรับโครงสร้างพื้นฐาน.
8.ความท้าทายทางการเมือง
-การเพิ่มภาษีเป็นเรื่องละเอียดอ่อนในเชิงการเมือง เพราะอาจกระทบต่อความนิยมของรัฐบาล.
9.ข้อเสนอเพิ่มเติม
-ขยายฐานภาษีให้ครอบคลุมกลุ่มเศรษฐกิจนอกระบบ.
-ปรับปรุงการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างให้มีประสิทธิภาพ.
10.ผลกระทบทางเศรษฐกิจโดยรวม
-อาจลดกำลังซื้อและการบริโภคในระยะสั้น แต่เพิ่มเสถียรภาพทางการคลังและศักยภาพการพัฒนาในระยะยาว
ขอขอบคุณ The Standard Wealth ที่โพส content ดี ๆ และ DALL E
ถ้ามีอะไรผิดพลาดสามารถให้คำแนะนำได้ และ ขอบคุณที่ติดตามครับ
โฆษณา