4 ธ.ค. เวลา 17:18 • หุ้น & เศรษฐกิจ
นาน ๆ ผมจะเข้ามาดูพอร์ตหุ้นทีนึง ซึ่งกำหนดให้ตัวเองดูแค่เดือนละ 1 ครั้งพอ จะได้ไม่ต้องมาเห็นราคาหุ้นแล้ว ต้องรู้สึกว่า กูต้องทำอะไรซักอย่าง
แต่มันก็เลี่ยงไม่ได้ที่ต้องเปิดดูข้อมูลตามเว็บ ทำให้ได้เห็นราคาหุ้นอยู่ตลอด แต่ผมจะไม่เปิดพอร์ตตัวเองดูเลย เพราะอยากบังคับให้ตัวเองปรับพอร์ตช้า ๆ
2
ผมตั้งใจไว้แบบนี้ว่า หุ้นแต่ละตัวที่ผมจะซื้อ ผมจะต้องคิดแล้วคิดอีก ผมยอมมาซื้อมันช้าหน่อยก็ได้ แต่ต้องเอาชัวร์ไว้ก่อน และทุกตัวที่จะมาอยู่ในพอร์ตผม จะเป็นหุ้นของบริษัทที่ ผมรู้สึกว่า อยากจะถือมันไปเป็น 10 ปีเลย ผมไม่เก่งในการคาดการณ์ระยะสั้น ผมว่ามันยากมาก ๆ
การลงทุนสำหรับผม มันคือการเก็บสะสมทรัพย์สินดี ๆ ที่มีโอกาสจะเพิ่มมูลค่า หรือสร้างผลตอบแทนในรูปของ Yield ให้ผมได้มากขึ้นเรื่อย ๆ ต่อไป ซึ่งผมก็อยากสะสมทรัพย์สินดี ๆ เหล่านี้ ไปตลอดชีวิต
พอผมมีทัศนคติในการลงทุนแบบนี้ การเหวี่ยงขึ้นลงของราคาในบางระยะ ๆ จึงเป็นโอกาสให้ผมได้ซื้อสะสมของดี ๆ ที่ผมทำการบ้านเตรียมไว้แล้ว ในตอนที่ราคามันถูก
แต่แน่นอน บางครั้งผมก็ต้องยอมขายขาดทุนหนัก ๆ ในหุ้นบางตัว ที่ผมคิดผิดไป ซึ่งผมก็ผิดบ่อย ๆ แต่โชคดีที่พวกนั้น ไม่ได้มีนัยกับพอร์ตเท่าไร บางครั้งผมดันถูกชะตากับเจ้าของ ก็เลยซื้อไป เรื่องนี้สอนให้ผมต้องบังคับตัวเองให้ประวิงเวลาในการซื้อหุ้นแต่ละตัวออกไปให้นานที่สุด จนกว่าจะชัวร์กับภาพของธุรกิจในระยะยาวจริง ๆ อย่าให้ความน่าคบหาของเจ้าของมาลวงเราได้ 5555
วันนี้ลองเข้ามาดูพอร์ตนิดหน่อย เพราะอยากรู้ว่า Salesforce ช่วย Contribute กับพอร์ตหุ้นต่างประเทศของผมอย่างไรบ้าง
แล้วก็ได้เห็นว่า อ่อ ตอนนี้ META ในพอร์ต บวกมาประมาณ 6 เด้งแล้วแฮะ
ผมรู้สึกโชคดีนะ ที่มีการแบ่งเงินไปลงทุนหุ้นต่างประเทศไว้บ้าง ในช่วงที่สภาพตลาดหุ้นไทย ซึมมาเกือบ 3 ปีแล้ว แต่ก็ยังโชคดี ที่หุ้นต่างประเทศ รวมถึงหุ้นไทยบางตัว บวกชดเชยต้นทุนค่าเสียโอกาสไปเยอะเลย
พอมีหุ้นอยู่หลายตลาด มันก็ช่วยสร้างโอกาสให้ผมมีผลตอบแทนที่ดีขึ้นพอสมควร
1
ผมมานั่งคิดนะ หุ้นเหล่านี้ หลาย ๆ ตัวที่ผมหามันมาได้ ราคามันก็บวกแรง ๆ ผมก็อาศัยการอ่าน การคิด แค่นี้เอง ไม่เคยต้องลงแรง ถ่อไป Company Visit หรือต้องเสียเวลาไป Discuss กับใครเลย
1
มันก็ยังทำผลตอบแทนได้ค่อนข้างดี จริง ๆ ต้องบอกว่า ดีเกินกว่าที่คิด ชนะตลาดอย่างขาดลอยด้วยซ้ำ
สำหรับผม การลงทุนเปรียบเสมือนการละเล่นทางเชาว์ปัญญาอย่างหนึ่ง ที่ผมสามารถเล่นมันแค่เพียงคนเดียวก็พอแล้ว ไม่จำเป็นต้องไปประลองปัญญากับใคร ไม่จำเป็นต้องไปฟังความคิดเห็นของใครสักเท่าไรเลย
มันเป็นเกมที่ ผมสามารถจมลึกเข้าไปในจินตนาการของตัวเองได้ และตัด Noise คือเสียงรบกวนจากภายนอก เช่นความคิดเห็นของคนอื่น ออกไปได้เลย
แล้วหลักการขบคิดทางเชาว์ปัญญาแบบสนุก ๆ นี้ ผมว่ามันก็ง่ายกว่าตอนผมเรียนวิศวะไฟฟ้าอีก ผมว่าไอ้ตอนเรียนพวกวงจรไฟฟ้า แม่งยากกว่าการลงทุนอีก
แต่ผมก็ไม่ได้บอกว่าการลงทุนมันง่ายนะ หลักการลงทุนแบบปัจจัยพื้นฐาน มันดูเรียบง่ายจริงแหละ แต่ไอ้ตอนปฏิบัติที่ต้องเจอกับเหตุปัจจัยภายนอกที่ควบคุมไม่ได้ กับปัจจัยภายในที่มันกรีดร้องเป็นช่วง ๆ ตอนที่สิ่งต่าง ๆ ไม่ได้ดั่งใจ มันเป็นความท้าทายของชีวิต ที่เราจะต้องเอาชนะมันให้ได้ ซึ่งมันก็ไม่ได้ง่ายเลย
โฆษณา