เบื้องหลังความประหยัดน้ำมันของเครื่องยนต์ Hybrid นั้นมีที่มาจาก Engine Operation Chart ตัวนี้
----------------------------------------------------------------------
โดยทั่วไปแล้วเครื่องยนต์เบนซินจะมีลักษณะที่คล้ายๆกันตาม chart นี้โดยค่าประสิทธิภาพการผลิตพลังงานจะคิดจากค่า BSFC (brake specific fuel consumption) ซึ่งคือค่าปริมาณการกินน้ำมัน ต่อ 1 หน่วยกำลังที่ผลิตได้ (วัตต์)
ซึ่งจาก Chart พบว่าประสิทธิภาพเชิงพลังงานจะสูงที่สุดที่รอบเครื่องยนต์ 2,000 ถึง 3,000 rpm (แกน x) ที่ลิ้นเร่งเปิดเกือบสุด 75% ถึง 90 % จะได้แรงบิดที่ 80 ถึง 100 ฟุตปอนด์ (แกน y) ได้กำลังแรงม้าประมาณ 30 ถึง 60 แรงม้า ( กำลังแรงม้าสูงสุดที่เครื่องตัวนี้ทำได้ที่ 124 แรงม้า ที่ลิ้นเร่งเปิดสุด 100% รอบ 5,500 rpm)
รถยนต์ไฮบริดมีความสามารถพิเศษตรงที่สามารถปรับให้เครื่องยนต์รันที่ตำแหน่งที่มีค่าประสิทธิภาพเชิงพลังงานสูงสุดได้ โดยการควบคุมโหลด ( torque load) จาก generator ผลิตพลังงานที่ต่อพ่วงอยู่กับเครื่องยนต์
เท่าที่สังเกตุ power flow monitor ระบบไฮบริดของฮอนด้าจะใช้ Engine maximum efficiency Rule base control คือ เมื่อเครื่องยนต์ติดระบบจะปรับ generator torque load เพื่อให้เครื่องยนต์ทำงานที่ช่วง Peak efficiency ตลอดเวลา (เว้นแต่ช่วงที่มี power demand สูงๆ เช่นการเร่งแซงของคนขับ ที่เครื่องยนต์ต้องปั๊มกำลังที่สูง ที่ rpm สูงทันที)
ในขณะที่เครื่องยนต์ในรถยนต์ปกติไม่สามารถปรับ engine torque load ได้ เพราะ torque load มาจากแหล่งเดียว คือ เพลาขับล้อ………ดังนั้นจาก chart จะพบว่าในสภาวะรถติดหรือเคลื่อนที่ช้า โหลดเพลาขับล้อจะน้อยมาก ซึ่งจาก chart จะพบว่า torque load น้อยๆ จะเป็นช่วงที่เครื่องยนต์มีประสิทธิภาพต่ำมากๆๆ กินน้ำมันแบบโหดๆ
จริงๆแล้วระบบ hybrid ก็ไม่ได้ยากอะไรมากในเชิง concept เป็นระดับ system integrator ที่ต้องเข้าใจเรื่อง power management ในเครื่องยนต์และ electrical machine โดยมี battery ลูกเล็กๆเป็น energy buffer
อยากจะหาแนวร่วมทำวิจัยเรื่องนี้ซะหน่อยแล้ว….
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
