5 ธ.ค. 2024 เวลา 03:12 • ความคิดเห็น
ชีวิตนั้น มีกายเคลื่อนไหวเปลื่ยนตลอดเวลา มีกระลมพัดเข้าออกในกายที่อาศัย .มีขันธ์ห้าเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงไม่คงที่ มีอารมณ์ต่างมากมายก่ายกอง ที่เป็นน้ำหนัก กดทับจิตให้เคลื่อนไหว ..บังคับจิตให้ไหล..เคลื่อนที่ไปตามอารมณ์..จิตมันอ่อนไหว ..ไหวไปไหวมาจนเราก็สังเกตจิตตัวเองไม่ทัน สติเราก็ไม่รับรู้ก็ไหวไปตามอารมณ์ ..ตามกรรมที่สะสมมาก ที่จิตแต่ละดวงก็สะสมมาไม่เหมือนกัน
เค้าจึงแนะนำว่า ให้มาทางนี้ เดินนำกายนำจิต ..มานั่งนิ่งๆ ทำจิตนิ่งเฉยๆ เป็นมัชฌิมา กายก็นิางเฉย ทำเป็นตุ๊กตา ..นั่งเป็นตุ๊กตานิ่งๆ แล้วก็นำจิต ..มาดูที่ลมเข้าออก ..นั่งไป ..ไม่ต้องนึกคิดอะไร..เพราะสิ่งที่นึกคิด นั่นก็คืออารมณ์ที่ไม่เที่ยงๆ พอนั่งไปอารมณ์ก็มาอีก ..ยิ่งนั่งพับเพียบนี้ดีจัง ..พอมันเจ็บปวด ..นั่นก็อารมณ์ไม่เที่ยงอีกละ ..ความเที่ยงของอารมณ์ มันมีพิษ..มันมีน้ำหนัก
..เราทนนั่งไป ..กายนิ่ง จิตเฉย ..ให้มีสติสัมปชัญญะ อยู่ที่ลมเข้าออก ..ลมไม่มีตัวตน ..ความเจ็บปวดก็ไม่มีตัวตน ..ก็นั่งนิ่งๆ จิตเฉยๆ ไปยึดมัน ..มันเป็นอารมณ์ เป็นทุกข์ที่ไม่เที่ยง มันเกิดในกายนี้
แล้วเราไปยึดสิ่งที่ไม่เที่ยง มันก็เลยทุกข์ เป็นเช่นนี้กันทุกคนที่มาอาศัยกายที่มีกรรม เพราะจิตเรามันยึดกาย ..ยึดอารมณ์ ..มันจึงทุกข์ จึงต้องเคลื่อนไหวไป มีกายกรรม วาจาใจที่เป็นกรรม เนื่องด้วยอารมณ์ ..ที่ไม่เที่ยง ไม่มีตัวตน จับต้องอารมณ์ก็ไม่ได้ ..เสียด้วย ..จิตต้องฝึกหัด..ให้รู้จักจิต ..จิตที่ยึดในสิ่งไม่เที่ยง ..ไปยึดเค้าเอง .จิตมันก็เลยมีทุกข์ .ไปยึดทุกข์จนเคยชิน..ก็ยึดสิ่งไม่เที่ยงอารมณ์ที่ไม่เที่ยง มันก็เลยทุกข์ ..จิตก็ไม่รู้จักทุกข์ ทุกข์ที่ไม่เที่ยงไม่มีตัวตนอยู่ในกาย .นี้แหละ
สิ่งที่พระอัชสชิ บอกพระสารีบุตร สั้นๆ เพียงว่า สิ่งต่างๆไหลมาแต่เหตุ ก็ดับเหตุนั้นเสีย ..พระสารีบุตร ท่านสะสมปัญญาธรรม มามาก ท่านฟังเพียงแค่นี้ ท่านก็เข้าใจ ถามว่าใครเป็นอาจารย์ของท่าน ..แล้วท่านก็ได้ไปพบพระบรมครู .ทีชี้ทาง..ดับเหตุ นั้นให้หมดทุกข์ ให้จิตพ้นทุกข์ ..พ้นคำว่า เกิดแก่เจ็บตาย ..ยุติการเกิด ..เกิดที่ไหร่ก็ต้องมีกายที่เป็นทุกข์ .
มีพระสอนเราง่ายๆ ..ให้ทำกายนิ่ง จิตนิ่ง ฝึกหัดทำให้ได้ นี่ก็หัดมานาน..แต่ทำไม่ได้ . กับของง่ายๆ ที่ท่านบอกมา ..ท่านบอกว่า ใครทำได้ กายนิ่ง จิตนิ่ง ..จะเกิดปัญญาธรรม .เป็นปัจจัตตังของจิตดวงนั้น…พอละ ..จิตจะเป็นพระเกิดขึ้น..
โฆษณา