5 ธ.ค. เวลา 08:24 • หนังสือ

ความเชื่อ ความรัก ความฝัน และดวงดาว (2)

ท้องฟ้าเป็นจุดหมายปลายทางของมนุษย์มาช้านาน
เป็นบ่อเกิดเห็นความเชื่อ เป็นต้นกำเนิดของพระเจ้า เห็นได้จากการที่มนุษย์ยุคหิน ตีความท้องฟ้า และปรากฎการณ์ต่างๆบนท้องฟ้าว่าเป็นสัญญาณ ว่าเป็นความโกรธเกี้ยวของสิ่งที่เหนือกว่าตนเอง(GOD) เมื่อฝนตก คือ ความมีเมตตาจากพระเจ้าทำให้ต้นไม้ และพืชผักงดงาม เมื่อฟ้าร้อง คือ ความโกรธที่ส่งมาถึงมนุษย์
การตีความสัญญาณจากท้องฟ้านานๆเข้า กลายมาเป็นตัวกำหนดวิธีชีวิต กำหนดประเพณี พิธีกรรมของมนุษย์ การบูชาเทพเจ้าบนท้องฟ้า
เกิดการให้คำนิยามเทพที่มาจากท้องฟ้า
เทพสายฟ้าในตำนานนอร์ท=ธอร์ , เทพสายฟ้าในตำนานญี่ปุ่น=ไรจิน
และเกิดเรื่อวราวขอเทพเจ้าต่างๆตามมา
ต่อมาในยุคของความเจริญรุ่งเรื่องทางอุตสหกรรม วิทยาศาสตร์เข้ามามีบทบาทในสังคม ส่งผลให้ดาราศาสตร์เป็นที่นิยม
มนุษย์เราก็ยังมองท้องฟ้าเป็นหมุดหมายสำคัญ การสำรวจท้องฟ้าด้วยตาเปล่า การสังเกตการเรียงตัวของดวงดาว การศึกษาพระอาทิตย์ การศึกษาลักษณะก้อนเมฆ
ในยุคสมัยของการปฎิวัติอุตสหกรรมนี้ แม้เทพเจ้าจะไม่ปรากฎอยู่บนท้องฟ้า
แต่การศึกษาท้องฟ้าเพื่อนำมากำหนดแนวทางการนำเนินชีวิตก็ไม่เปลื่ยนแปลง ตัวอย่าง การพยากรณ์การเกิดฝนตก พายุ หรือ การกำหนดกิจกรรมต่างๆในเข้ากับท้องฟ้าในแต่ละช่วงเวลา
ท้องฟ้าจึงเป็นแหล่งรวมความรู้...ของมนุษย์
และการศึกษาท้องฟ้าก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะสิ้นสุด....ไม่ว่าจะยุคสมัยไหน
เหมือนกับรูปลักษณของมัน กว้างใหญ่ มันคง และคอยปลอบเราทุกครั้งที่มองขึ้นไป
อ่านดีกว่าไม่อ่าน?
เขียนโดย - สุวิจักร บิ๊ก
เครดิจรูปภาพ : https://pin.it/2BdP4hfpb
โฆษณา