[ จะปฏิรูปภาษี เพิ่ม VAT ยังไง ให้เพิ่มสวัสดิการให้คนทุกคนได้ ]
จากที่ รมว.คลัง เปิดลานทัวร์เรื่องจะปฏิรูปภาษี เลยอยากชวนทุกคนคิดตามต่อ เพราะ ผมได้อธิบายไปแล้วว่าต้องเพิ่มภาษีเจ้าสัว เช่น ภาษีที่ดินรวมแปลง และ ขยายฐานภาษีบุคคลธรรมาให้เป็นธรรม เช่น หวยใบเสร็จ คือ สิ่งที่ประเทศไทยจำเป็นมากที่สุด ก่อนถึงจะมาถึงการปฏิรูปภาษีบริโภค หรือ VAT ที่คนทุกคนต้องจ่าย
เพราะ VAT เป็นภาษีที่กระทบคนทุกคน ทำให้มีสองมุมมอง ทั้งที่ว่า คนรายได้มาก บริโภคมาก ก็เสียภาษีมาก ดังนั้นอัตรา VAT ที่สูงก็เหมาะสมแล้ว ในขณะเดียวกัน คนมีรายได้น้อยเสียภาษีบริโภคเป็นสัดส่วนต่อรายได้ที่มากกว่าคนรายได้มาก จึงไม่ควรให้ VAT เป็นภาษีหลัก เพราะจะไม่สามารถลดความเหลื่อมล้ำได้ ซึ่งเป็นข้อถกเถียงและข้อเท็จจริง จากทั้งสองมุมมอง
แต่ถ้าเอาข้อมูลทั่วโลกมาดูก่อนว่า ในประเทศกลุ่มพัฒนาแล้ว (OECD) มีเพียง 2 จาก 38 ประเทศที่ อัตรา VAT น้อยกว่า 10% และ แม้แต่เพื่อนบ้านอาเซียน ที่ VAT น้อยกว่า 10% ก็มีเพียง สิงค์โปร์ (9%), พม่า, บรูไน เท่านั้นที่เก็บ VAT น้อยกว่า 10% ดังนั้น อัตรา VAT ปัจจุบันที่ 7% นั้นต้องถือว่า ต่ำมาก เมื่อเทียบกับมาตรฐานประเทศอื่นๆ ทั่วโลก
ดังนั้นประเด็นที่สำคัญที่สุดจึงอยู่ที่ว่า แล้วถ้ารัฐบาลมีรายได้เพิ่มจาก VAT แล้ว รัฐบาลจะทำอะไรกับรายได้ก้อนนี้ ซึ่งถ้ารัฐบาลต้องมาเพิ่มภาษี VAT เพียงเพราะจะไปลดภาษีนิติบุคคลหรือภาษีบุคคลธรรมดาให้เป็นอัตราเดียว 15% ก็คงเป็นสิ่งที่ ไม่สามารถเพิ่มรายได้รัฐ และมาเพิ่มสวัสดิการประชาชนหรือมาพัฒนาประเทศได้ และจะยิ่งซ้ำเติมความเหลื่อมล้ำให้กับคนไทยส่วนใหญ่
แต่ถ้าเป็นคำสัญญาทางการเมือง หรือ มีกฎหมายระบุไว้ชัดเจนเลยว่า การขึ้น VAT จะกลายมาเป็นสวัสดิการประชาชนอะไรบ้าง เช่น แล้วจะเพิ่มบำนาญผู้สูงอายุ, เบี้ยเลี้ยงเด็ก, ยกระดับคุณภาพการศึกษาหรือสาธารณสุข เท่าไหร่อย่างไร ก็จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนได้ ว่าทำไมรัฐบาลถึงต้องเพิ่ม VAT
แต่แน่นอนว่า การขึ้น VAT ย่อมส่งผลกระทบค่าใช้จ่ายกับทุกคน โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อย นั่นคือสิ่งที่รัฐบาลจะ “ต้อง” มีมาตรการตามมาในการช่วยเหลือผลกระทบจากตรงนี้ ถึงจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนได้ เช่น ต้องให้ประชาชนสามารถได้รับ VAT ส่วนเพิ่มคืนได้ ซึ่งกำหนดเพดานส่วนนี้เป็นรายเดือนได้ ซึ่งจะทำให้ลดผลกระทบของคนส่วนใหญ่จากการขึ้น VAT และ สุดท้ายรัฐบาลก็จะยังได้รายได้มาเพิ่มสำหรับพัฒนาประเทศต่อไปได้ (คล้ายกับที่ธนาคารโลกแนะนำประเทศไทยไว้)
หรือ รัฐบาลจะเดินหน้า ตามนโยบายรัฐบาลที่แถลงต่อรัฐสภาไว้ว่า จะใช้นโยบาย “เงินภาษีคืนแบบขั้นบันได Negative Income Tax” ซึ่งรัฐบาลก็ต้องอธิบายต่อให้ได้ว่า แล้วจะตรวจสอบรายได้ของแต่ละบุคคลยังไงต่อ แต่อย่างไรก็ดี ก็ยังมองได้ว่าเป็นการช่วยเหลือประชาชนรูปแบบหนึ่งได้ จากการได้รับผลกระทบ จากการขึ้นภาษี VAT
สิ่งที่สำคัญที่สุดของการปฏิรูปภาษี คือ การสร้างความเชื่อมั่นของรัฐบาลต่อประชาชน เพราะการเก็บภาษีเพิ่มจะเกิดขึ้นไม่ได้ ถ้าไม่มีเจตจำนงทางการเมืองของรัฐบาล ว่า ได้ทำเต็มที่แล้วในการเพิ่มภาษีเจ้าสัว หรือ จัดเก็บภาษีที่เป็นธรรมสำหรับประชาชนทุกกลุ่มอาชีพ รวมถึง ได้บริหารใช้จ่ายงบประมาณอย่างคุ้มค่าเต็มที่แล้ว และ รัฐบาลจะนำภาษีที่เพิ่มนี้ไปทำอะไรที่เป็นประโยชน์กับประชาชนบ้าง ถ้าไม่พิสูจน์เจตจำนงทางการเมืองเหล่านี้ให้กับประชาชนมาก่อน จะไม่มีรัฐบาลไหนปฏิรูปภาษีสำเร็จได้เลย
#ภาษีเงินได้15 #ภาษี #สสเติ้ล #พรรคประชาชน
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
