6 ธ.ค. 2024 เวลา 11:57 • ประวัติศาสตร์

ก้าวสุดท้ายของ “มิยาโกะ ฮิราโอกะ (Miyako Hiraoka)” คดีฆ่าหั่นศพสุดโหดแห่งดินแดนอาทิตย์อุทัย

เมืองฮามาดะ ประเทศญี่ปุ่น วันที่ 6 พฤศจิกายน ค.ศ.2009 (พ.ศ.2552)
คนเก็บเห็ดรายหนึ่งเดินทางออกจากบ้านเพื่อไปเก็บเห็ด ซึ่งระหว่างทางนั้น เขาก็พบกับตำรวจกำลังแจกจ่ายใบปลิวคนหาย
ชายเก็บเห็ดรับมาดูและได้แต่ส่ายหน้า บนใบปลิวนั้นเป็นรายละเอียดของผู้สูญหาย
ผู้สูญหายคือเด็กสาวคนหนึ่ง ชายเก็บเห็ดได้แต่ส่ายหน้าและอวยพรให้เธอปลอดภัย ขอให้หาเธอเจอโดยเร็ว
นอกเมืองไม่กี่กิโลเมตร ขณะที่ชายเก็บเห็ดกำลังหาเห็ดตามรอบๆ เชิงเขา สายตาของเขาก็พบเห็นอะไรบางอย่าง
สิ่งนั้นคือเห็ดขนาดใหญ่ อยู่ใต้กองใบไม้ที่ปิดอยู่
ใจของชายเก็บเห็ดลิงโลด คิดว่าตนนั้นได้โชคก้อนโตแล้ว และรีบตรงเข้าไปหาเห็ดยักษ์นั้นทันที
แต่เมื่อไปถึง ชายเก็บเห็ดถึงกับผงะ และรีบวิ่งหนีไปตามทางลาดลงเขา และโทรศัพท์หาตำรวจทันที
“ผมเจอศีรษะมนุษย์”
ไม่นานหลังจากนั้น ตำรวจรีบมายังที่เกิดเหตุ และพบศีรษะมนุษย์จริงๆ
ศีรษะนั้นเป็นของเด็กสาวบนใบปลิว
“มิยาโกะ ฮิราโอกะ (Miyako Hiraoka)”
“มิยาโกะ ฮิราโอกะ (Miyako Hiraoka)” คือนักศึกษาวัย 19 ปีที่ศึกษาอยู่ในมหาวิทยาลัยรัฐบาลในจังหวัดชิมาเนะ โดยร่างของเธอถูกพบที่แถบภูเขาการิวในฮิโรชิม่าเมื่อเดือนพฤศจิกายน ค.ศ.2009 (พ.ศ.2552)
มิยาโกะ ฮิราโอกะ (Miyako Hiraoka)
ฮิราโอกะหายตัวไปตั้งแต่วันที่ 26 ตุลาคม ค.ศ.2009 (พ.ศ.2552) โดยหลังจากเลิกเรียนในเวลา 16:30 น. ฮิราโอกะก็ได้ไปทำงานพิเศษที่ร้านไอศครีมในห้างที่เมืองฮามาดะ
หลังจากทำงานเสร็จ ภาพจากกล้อง CCTV แสดงให้เห็นว่าเธอกำลังเก็บขยะ ปิดไฟ และตรงไปยังทางออก
นอกห้าง ฮิราโอกะต้องเลือกระหว่างขึ้นรถเมล์ ซึ่งก็ต้องเสียเงิน กับอีกทางคือเดินไปบนทางเดินมืดๆ ที่เธอเคยเดินมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน
โดยปกติแล้วเธอจะกลับบ้านพร้อมเพื่อนร่วมงาน แต่วันนี้เพื่อนร่วมงานของเธอไม่ได้มาทำงาน ทำให้เธอต้องกลับคนเดียว
ภาพจากกล้อง CCTV
ฮิราโอกะเลือกเดินบนทางเดินมืดๆ นั้นโดยไม่รู้เลยว่านี่คือการตัดสินใจที่ผิดพลาดที่สุดในชีวิต
วันต่อมา เจ้าของร้านไอศครีมหงุดหงิดที่ไม่เห็นฮิราโอกะมาทำงาน หากแต่เมื่อเวลาผ่านไปหลายชั่วโมง เจ้าของร้านก็คิดว่าต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลแล้ว และได้โทรหาแม่ของฮิราโอกะ ซึ่งจากการพูดคุย ก็ยิ่งทำให้ความกังวลแผ่ซ่านไปมากขึ้น
1
แม่ของฮิราโอกะกล่าวว่าฮิราโอกะได้พูดคุยกับเธอเมื่อคืนก่อน และบอกว่าเธอหวาดกลัวการเดินบนทางเดินมืดๆ นั้นมาก และหากเธอกลับถึงหอพักแล้ว เธอจะโทรหาแม่
หากแต่ไม่มีโทรศัพท์ติดต่อมาจากฮิราโอกะเลย
แม่ของฮิราโอกะได้แจ้งตำรวจ ซึ่งตำรวจก็ลงมือสอบสวนและตามหาเด็กสาวทันที โดยจากกล้อง CCTV พบว่าเธอออกไปจากร้านเมื่อราวๆ 21:15 น. แต่หลักฐานที่เหลือนั้นไม่มีเลย
บริเวณที่ฮิราโอกะเดินไปนั้นเป็นทางเดินมืดๆ เปลี่ยวๆ ปราศจากกล้องวงจรปิด ดังนั้นจึงไม่มีใครทราบเลยว่าเกิดอะไรขึ้นหลังจากที่เธอออกไปจากร้านแล้ว
ข่าวการหายตัวไปของฮิราโอกะกลายเป็นข่าวใหญ่ในเมืองฮามาดะ มีการปิดป้ายรูปภาพของฮิราโอกะทั่วเมือง ผู้คนต่างหวาดกลัวเนื่องจากที่ผ่านมา ยังไม่เคยมีเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้นในเมืองมาก่อน ทำให้เกิดกระแสความตื่นกลัวจนทางการท้องถิ่นต้องประกาศเคอร์ฟิวในพื้นที่
เส้นทางที่ฮิราโอกะเดินทางกลับหอกลายเป็นเส้นทางที่ผู้คนหวาดกลัว อีกทั้งยังเปลี่ยว ต้องเดินผ่านป่าทึบข้างทาง
กว่าจะพบเจอร่างของฮิราโอกะก็คือในอีก 11 วันต่อมา โดยผู้พบคือชายเก็บเห็ดที่บังเอิญเจอชิ้นส่วนของฮิราโอกะ โดยศีรษะของฮิราโอกะนั้นถูกซ้อมจนเละ ทำให้ตำรวจทราบว่านี่คือการฆาตกรรม ไม่ได้ถูกสัตว์ป่าทำร้ายเป็นแน่
ตำรวจทำการสำรวจป่ารอบๆ จนพบชิ้นส่วนทั้งหมดของฮิราโอกะ และจากการตรวจสอบ ก็พบว่าฮิราโอกะถูกบีบคอจนเสียชีวิต ก่อนที่ร่างจะถูกนำไปเผาและแยกชิ้นส่วน ก่อนจะปล่อยให้เน่าสลายในป่านี้
คดีนี้ไม่ง่ายเนื่องจากแทบจะไม่มีหลักฐานอะไรที่ชี้ชัดว่าฆาตกรเป็นใคร ทราบแต่เพียงว่าฆาตกรน่าจะเป็นชายอายุระหว่าง 20-40 ปี และไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับฮิราโอกะ
1
แต่ข้อมูลแค่นี้ไม่ทำให้ปิดคดีได้
ในไม่ช้า ข่าวของฮิราโอกะก็โด่งดังไปทั่วประเทศ นักข่าวต่างสนใจและทำข่าวนี้มากมาย และเริ่มมีเสียงซุบซิบถึงอาถรรพ์ เรื่องการพบเห็นวิญญาณของฮิราโอกะบนทางเดินที่เธอจบชีวิต
เรื่องของวิญญาณนั้นยังไม่มีใครให้ความสนใจมากนัก จนกระทั่งการรายงานข่าวครั้งหนึ่ง ที่ปรากฎเหมือนเสียงหญิงสาวติดเข้ามาในคลิป
ขณะที่ผู้สื่อข่าวกำลังรายงานข่าวจากหน้าทางเดินที่ฮิราโอกะจบชีวิต ก็ปรากฎเสียงหญิงสาวแทรกเข้ามาขณะกำลังรายงานข่าว ซึ่งถึงแม้จะฟังไม่ชัดเจน แต่ก็มีคนนำไปถอดเสียง และได้ความว่า
“เจ็บปวดมาก ทำไมถึงต้องเป็นฉัน?”
คลิปวีดีโอนี้กลายเป็นไวรัล โด่งดังไปทั่วญี่ปุ่น
นี่คือคลิปนี้ครับ ซึ่งอยู่ในช่วงนาทีที่ 1:38-2:00
หลังจากเวลาผ่านไปเป็นปี เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ค้นพบข้อมูลบางอย่างที่เคยมองข้ามไป หากแต่อาจจะสำคัญมากกับคดีนี้ โดยข้อมูลนั้นนำไปสู่ชายที่ชื่อ “โยชิฮารุ ยาโนะ (Yoshiharu Yano)”
1
ยาโนะเคยถูกจับกุมในปีค.ศ.2004 (พ.ศ.2547) ด้วยข้อหาล่วงละเมิดทางเพศและถูกตัดสินจำคุกเป็นเวลาสามปีครึ่ง โดยยาโนะมักจะใช้มีดขู่เหยื่อก่อนจะโจมตี โดยมักจะลงมือในโตเกียว ก่อนจะย้ายไปยังเมืองฮามาดะในช่วงเวลาเดียวกับที่เกิดคดีฆาตกรรมฮิราโอกะ
1
และจากการตรวจสอบภาพในกล้อง CCTV พบว่าในคืนที่ฮิราโอกะหายตัวไป รถของยาโนะได้ขับมาวนรอบๆ ป่าที่พบร่างของฮิราโอกะในเวลาต่อมา
ด้วยหลักฐานใหม่นี้ ทำให้ตำรวจขอหมายค้นบ้านของยาโนะทันที
เมื่อทำการค้นบ้านของยาโนะ ตำรวจก็พบว่าพวกตนนั้นคิดถูกแล้ว
สิ่งที่พบคืออุปกรณ์บันทึกภาพที่บันทึกภาพอนาจารของฮิราโอกะกว่า 40 ภาพ จับภาพช่วงเวลาที่เธอถูกทำร้าย
หากแต่สิ่งที่น่าขนลุกที่สุดก็คือ ยาโนะนั้นเสียชีวิตไปแล้ว และเสียชีวิตแบบผิดธรรมชาติอีกด้วย
หลังจากมีการพบร่างของฮิราโอกะเพียงสองวัน ยาโนะและผู้เป็นแม่ก็ได้เสียชีวิตในอุบัติเหตุทางรถยนต์ขณะกำลังเดินทางกลับจากการไปเยี่ยมหลุมศพพ่อของยาโนะ
พยานที่เห็นเหตุการณ์เล่าว่าอยู่ๆ รถยนต์ของยาโนะก็พุ่งลงข้างทางโดยไม่มีปี่มีขลุ่ย ทัศนวิสัยก็ปกติ อากาศแจ่มใส และรถก็เกิดเพลิงลุกไหม้ เผาทั้งยาโนะและผู้เป็นแม่ทั้งเป็น
ในทีแรกทุกคนก็คิดว่านี่คืออุบัติเหตุธรรมดา แต่เมื่อตำรวจพบความจริงที่ว่ายาโนะคือฆาตกร ทำให้หลายคนนำสองเหตุการณ์นี้มาเชื่อมโยงกัน
พยานในที่เกิดเหตุก็กล่าวว่ารถยนต์ที่ยาโนะนั่งมานั้นดูราวกับถูกบางอย่างควบคุม ไม่สามารถควบคุมได้ พุ่งชนอย่างแรงจนคนบนรถเสียชีวิต
หรือว่านี่จะเป็นการแก้แค้นของฮิราโอกะ?
คงต้องขึ้นกับความเชื่อของแต่ละคน
โฆษณา