7 ธ.ค. เวลา 06:09 • ประวัติศาสตร์

มิตรภาพระหว่าง “สมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรีย (Queen Victoria)” กับ ”คนรับใช้ชาวอินเดีย“

“สมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรีย (Queen Victoria)” เป็นพระประมุขแห่งสหราชอาณาจักร ทรงครองราชย์ระหว่างค.ศ.1837-1901 (พ.ศ.2380-2444) รวมเป็นเวลากว่า 64 ปี ทำให้พระองค์ทรงเป็นหนึ่งในพระประมุขที่ครองราชย์ยาวนานเป็นลำดับต้นๆ ของสหราชอาณาจักร
แต่มีเสี้ยวหนึ่งของชีวิตพระองค์ที่พระราชวงศ์อังกฤษต่างพยายามปกปิดและลบออกไปจากหน้าประวัติศาสตร์
นั่นคือเรื่องราวมิตรภาพระหว่างพระองค์กับคนรับใช้ชาวอินเดียที่มีนามว่า “อับดุล คาริม (Abdul Karim)”
สมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรีย (Queen Victoria)
เรื่องราวนี้เป็นอย่างไร ผมจะเล่าให้ฟังครับ
“อับดุล คาริม (Abdul Karim)” คือหนุ่มชาวอินเดียผู้มีรูปร่างสูงใหญ่และหล่อเหลา มาจากครอบครัวที่ไม่ได้ร่ำรวยนัก แต่บิดาของคาริมก็ยังสามารถจ้างครูสอนพิเศษมาสอนวิชาความรู้แก่คาริม
หลังจากศึกษาจนรอบรู้ คาริมก็ได้งานเป็นเสมียนในเรือนจำที่เมืองอาครา และขณะทำงานเป็นเสมียนนี้เอง โอกาสครั้งสำคัญในชีวิตก็มาถึงคาริม นั่นคือการย้ายไปยังกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ และทำหน้าที่ถวายงานรับใช้องค์สมเด็จพระราชินีแห่งสหราชอาณาจักร
คาริมเป็นหนึ่งในสองคนที่ถูกเลือกให้ทำหน้าที่ถวายการรับใช้ “สมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรีย (Queen Victoria)” พระประมุขแห่งสหราชอาณาจักร
อับดุล คาริม (Abdul Karim)
ด้วยความที่ต้องย้ายไปทำงานที่อังกฤษ คาริมจึงต้องเรียนภาษาอังกฤษอย่างหนักและเร่งด่วน และเมื่อไปถึง เขาก็สามารถสร้างความประทับใจแก่พระราชินีวิกตอเรีย
ในปีค.ศ.1887 (พ.ศ.2430) คือปีที่มีการจัดงานพระราชพิธีกาญจนาภิเษกครองราชย์ครบ 50 ปีของพระราชินีวิกตอเรีย โดยในงาน คาริมทำหน้าที่เสริ์ฟอาหารและเป็นมหาดเล็กรับใช้พระราชินีวิกตอเรีย
พระราชินีวิกตอเรียทรงโปรดคาริมเป็นอย่างมาก โดยจากจดหมายที่พระองค์ทรงเขียนและหลงเหลือรอดมาถึงปัจจุบัน พระองค์ทรงเขียนถึงคาริมว่ามีลักษณะ “รูปร่างสูงและใบหน้าเคร่งขรึมจริงจัง“
ในเวลานั้น คาริมมีอายุได้ 24 ปี ส่วนพระราชินีวิกตอเรียมีพระชนมายุ 68 พรรษา ซึ่งหลังจากงานพระราชพิธีกาญจนาภิเษก คาริมก็ต้องตามเสด็จพระราชินีวิกตอเรียไปยังไอล์ออฟไวต์ ที่ซึ่งพระราชินีวิกตอเรียทรงมีที่ประทับพักผ่อนพระอิริยาบถ
ในการตามเสด็จนี้ คาริมได้นำเครื่องเทศจากอาคราไปด้วย และได้ทำแกงไก่ถวายพระราชินีวิกตอเรีย ซึ่งปรากฎว่าพระราชินีวิกตอเรียทรงโปรดเป็นอย่างมากจนถึงขนาดให้เพิ่มแกงไก่ในเมนูเครื่องเสวยประจำวันของพระองค์
พระราชินีวิกตอเรียทรงมีความสนพระทัยในวัฒนธรรมอินเดีย และถึงแม้พระองค์จะทรงเป็นจักรพรรดินีแห่งอินเดีย แต่พระองค์ก็ยังไม่เคยเสด็จไปอินเดียเลย ดังนั้นพระองค์จึงมักจะมีรับสั่งถามคาริมหลายๆ เรื่องเกี่ยวกับอินเดีย
คาริมได้ถวายการสอนภาษาอูรดูแก่พระราชินีวิกตอเรีย ซึ่งพระราชินีวิกตอเรียก็ทรงสนพระทัยที่จะเรียน พระองค์ทรงคิดว่าการได้เรียนรู้ภาษานี้จะทำให้พระองค์ใกล้ชิดกับประชาชนและเข้าพระทัยในวัฒนธรรมอินเดียมากขึ้น
ในไม่ช้า คาริมก็ต้องถวายการสอนแก่พระราชินีวิกตอเรียในทุกๆ เย็น ส่วนพระราชินีวิกตอเรียก็ทรงมีรับสั่งให้เพิ่มการสอนภาษาอังกฤษให้คาริมเป็นสองเท่า
สาเหตุที่พระราชินีวิกตอเรียทรงมีรับสั่งให้เพิ่มการสอนภาษาอังกฤษให้คาริม ก็เนื่องจากพระองค์ทรงต้องการทำลายกำแพงภาษาที่กั้นพระองค์กับคาริม ซึ่งภายในเวลาเพียงสองเดือน พระราชินีวิกตอเรียก็สามารถสื่อสารกับคาริมได้โดยตรงโดยไม่ต้องผ่านล่าม
ในไม่ช้า พระราชินีวิกตอเรียและคาริมก็ทรงสนิทสนมใกล้ชิด มีการแลกเปลี่ยนจดหมายกันเสมอๆ โดยพระราชินีวิกตอเรียจะพระราชทานคำแนะนำเรื่องต่างๆ แก่คาริม และมักจะจบท้ายจดหมายด้วยคำที่สะท้อนได้ชัดเจนว่าพระองค์ทรงเอ็นดูคาริมจากใจจริง โดยคำต่างๆ ที่พระองค์ทรงลงท้ายในจดหมายที่พระราชทานแก่คาริมก็เช่น
“เพื่อนที่ใกล้ชิดสนิทสนมที่สุดของเธอ”
“เพื่อนแท้ของเธอ”
“แม่ผู้รักและหวังดีต่อเธอ”
พระราชินีวิกตอเรียไม่ได้มองคาริมเป็นเพียงคนรับใช้ หากแต่ทรงมองคาริมเสมือนเพื่อน เหมือนลูกของพระองค์คนหนึ่ง แม้แต่ในเวลาที่ราชสำนักเหยียดหยาม ดูถูกคาริมที่เป็นเพียงคนรับใช้และเป็นชาวอินเดีย พระราชินีวิกตอเรียก็จะทรงปกป้องคาริมเสมอ
ในขณะเดียวกัน คาริมก็เป็นเพียงคนเดียวที่มองพระราชินีวิกตอเรียว่าคือมนุษย์คนหนึ่ง ไม่ใช่พระราชินีผู้สูงศักดิ์ที่แตะต้องไม่ได้ ทำให้พระราชินีวิกตอเรียทรงไว้วางพระทัยในตัวคาริม และทรงมีรับสั่งเล่าเรื่องต่างๆ แก่คาริมโดยไม่ปิดบัง
คาริมได้ถวายงานรับใช้และตามเสด็จพระราชินีวิกตอเรียไปยังที่ต่างๆ เป็นเวลาเกือบ 14 ปี จนพระราชินีวิกตอเรียสวรรคตในปีค.ศ.1901 (พ.ศ.2444)
ด้วยความที่เป็นคนที่องค์พระประมุขทรงโปรด ทำให้คาริมได้รับลาภยศต่างๆ มากมาย ได้เลื่อนขั้นในราชสำนักอย่างรวดเร็ว ได้รับการยกเว้นไม่ต้องทำงานบ้านหรืองานทั่วๆ ไปในวัง ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้ช่วยองค์ราชินีโดยตรง ได้รับการยกย่องเป็นพระอาจารย์ของพระราชินีวิกตอเรีย และเมื่อคาริมบอกว่าคิดถึงภรรยาที่อินเดียและอยากจะกลับไปอินเดีย พระราชินีวิกตอเรียก็ทรงเอาใจคาริมถึงขนาดพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้คาริมพาภรรยาและครอบครัวทั้งหมดมาอังกฤษได้ และจัดที่พักอย่างดีให้ในวังต่างๆ ของพระองค์
เท่านั้นยังไม่พอ พระราชินีวิกตอเรียยังพระราชทานที่ดินในอาคราแก่คาริม และมีรับสั่งให้วาดภาพเหมือนคาริม ในการแสดงโอเปร่า คาริมก็ได้ที่นั่งที่ดีที่สุด มีรถม้าส่วนตัว อีกทั้งบิดาของคาริมยังได้รับเงินบำเหน็จอีกด้วย
เรียกได้ว่าพระราชินีวิกตอเรียทรงโปรดและเอาใจคาริมอย่างที่สุด
แต่ถึงแม้พระราชินีวิกตอเรียจะทรงโปรดคาริมเป็นอย่างมาก แต่ดูเหมือนคนอื่นๆ ในราชสำนักจะไม่มีใครชื่นชอบคาริมเลย
ภาพจากภาพยนตร์ Victoria & Abdul
หลายคนหมั่นใส้และคิดว่าคาริมนั้นใช้ความที่เป็นคนโปรดของพระราชินีวิกตอเรียหาประโยชน์แก่ตนเอง หลายคนก็รู้สึกรับไม่ได้ที่คนที่พระราชินีทรงโปรดคือคนรับใช้ที่เป็นชาวมุสลิมและอินเดีย
หลายคนมองว่าคาริมเป็นคนต่ำต้อย ไม่คู่ควรที่พระราชินีจะให้ความใกล้ชิดขนาดนี้
พระราชินีวิกตอเรียก็ทรงทราบว่าราชสำนักต่างไม่มีใครชอบคาริม คนที่เอ็นดูคาริมก็มีแค่พระองค์คนเดียว ทำให้ในช่วงที่พระราชินีวิกตอเรียยังดำรงพระชนม์ชีพ พระองค์ทรงปกป้องและออกหน้าแทนคาริมเสมอๆ
แต่เมื่อพระราชินีวิกตอเรียสวรรคต คาริมก็หมดที่พึ่ง
ก่อนจะสวรรคต พระราชินีวิกตอเรียทรงมีรับสั่งให้คาริมเป็นหนึ่งในผู้เข้าร่วมไว้ทุกข์และเป็นบุคคลหลักในการทำพิธีพระบรมศพ และองค์รัชทายาทและกษัตริย์องค์ต่อมา นั่นคือ “สมเด็จพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 7 แห่งสหราชอาณาจักร (Edward VII)” พระราชโอรสในพระราชินีวิกตอเรียซึ่งทรงหมั่นใส้คาริมมานานแล้ว ก็ทรงยินยอมตามคำสั่ง แต่หลังจากงานพระราชพิธีพระบรมศพ พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 7 ก็ทรงจัดการคาริมทันที
พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 7 ทรงส่งทหารไปยังกระท่อมที่คาริมพักอาศัยอยู่กับภรรยา และบังคับให้ส่งจดหมายที่พระราชินีวิกตอเรียเคยพระราชทานให้คาริมมา จากนั้นทหารก็นำจดหมายเหล่านั้นไปเผาทิ้ง
1
หลังจากนั้น คาริมก็ถูกไล่ออกจากราชสำนักและบังคับให้กลับไปอินเดีย และ “เจ้าหญิงเบียทริซแห่งสหราชอาณาจักร (Princess Beatrice of the United Kingdom)” พระราชธิดาองค์เล็กในพระราชินีวิกตอเรีย ก็ทรงใช้เวลาทั้งวันทั้งคืนในการอ่านบันทึกส่วนพระองค์ของพระราชมารดา และแก้ไขข้อความต่างๆ ที่พระราชินีวิกตอเรียทรงเอ่ยถึงคาริม
สมเด็จพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 7 แห่งสหราชอาณาจักร (Edward VII)
เรียกได้ว่าลูกหลานของพระราชินีวิกตอเรียต่างรังเกียจคาริมและต้องการจะลบเขาออกจากหน้าประวัติศาสตร์ชนิดไม่ให้หลงเหลือ
แต่แล้วในปีค.ศ.2003 (พ.ศ.2546) นักข่าวและนักประวัติศาสตร์จากอินเดีย ก็ค้นพบภาพวาดคาริมที่อังกฤษ ทำให้เกิดการศึกษาค้นคว้าเรื่องราวของคาริมจนพบบันทึกของคาริม และทำให้โลกทราบถึงมิตรภาพระหว่างคาริมกับพระราชินีวิกตอเรีย
ในเวลาต่อมา เรื่องราวมิตรภาพของคนทั้งสองซึ่งต่างศักดิ์กันนี้ ได้ถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์เรื่อง “Victoria & Abdul” ซึ่งออกฉายในปีค.ศ.2017 (พ.ศ.2560) นำแสดงโดย “จูดี้ เดนช์ (Judi Dench)” อดีต M หัวหน้าของ “เจมส์ บอนด์ (James Bond)” แสดงเป็นพระราชินีวิกตอเรีย และ “อาลี ฟาซาล (Ali Fazal)” แสดงเป็นคาริม
นี่ก็คือเรื่องราวมิตรภาพที่บางคนมองว่าน่ารักและซาบซึ้ง แต่ก็มีอีกหลายๆ คนที่เห็นว่ามิตรภาพนี้ไม่บังควรเลย
โฆษณา