7 ธ.ค. เวลา 13:07 • ข่าวรอบโลก

สรุปสถานการณ์ “สงครามกลางเมืองซีเรีย 2024”

อัพเดทช่วงวันที่ 2 - 7 ธันวาคม 2024
2 ธันวาคม 2024: รัสเซียได้เปิดฉากโจมตีทางอากาศเพื่อสนับสนุนกองทัพรัฐบาลกลางซีเรียของอัสซาด เพื่อพยายามหยุดยั้งการรุกคืบครั้งใหญ่ของกลุ่มกบฏจากตอนเหนือ ซึ่งสร้างความช็อกและเอาชนะกองกำลังของประธานาธิบดีอัสซาดเมื่อปลายสัปดาห์ก่อนหน้านั้น “กลุ่มหมวกขาว” ซึ่งเป็นชื่อเรียกของกลุ่มป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนในซีเรียเปิดเผยว่า มีพลเรือนเสียชีวิตอย่างน้อย 12 รายเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม รวมถึงเด็ก และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 42 ราย - WSJ [1]
1
กลุ่มหมวกขาวในซีเรีย เครดิตภาพ: Reuters
3 ธันวาคม 2024: กองทัพรัสเซียระบุว่าได้ยิงขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงระหว่างการฝึกซ้อมรบทางเรือและทางอากาศในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนตะวันออก ซึ่งเกิดขึ้นในขณะที่รัฐบาลกลางซีเรียซึ่งเป็นพันธมิตรของรัสเซียกำลังเสียพื้นที่ให้กับกลุ่มกบฏ
1
กองทัพรัสเซียระบุว่าจำนวนทหารรัสเซียที่ประจำการในภูมิภาคนี้ “เพิ่มขึ้น” เพื่อเข้าร่วมการฝึกซ้อมรบ รัสเซียได้ดำเนินการโจมตีทางอากาศในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาเพื่อพยายามตอบโต้การโจมตีของกลุ่มกบฏที่ทำให้กองกำลังของอัสซาดต้องสูญเสียเมืองอเลปโปซึ่งเป็นเมืองสำคัญอันดับสอง - MT/AFP [2]
การฝึกซ้อมรบทางเรือและทางอากาศในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนตะวันออกของรัสเซียเมื่อช่วงวันที่ 3 ธันวาคม 2024 เครดิตภาพ: กระทรวงกลาโหมรัสเซีย
3 ธันวาคม 2024: ปูติน และ ปธน.เออร์โดกันของตุรกีได้โทรศัพท์หารือถึงความจำเป็นในการทูตเพื่อคลี่คลายความขัดแย้งในซีเรียตอนเหนือ รัสเซีย-อิหร่าน-ตุรกี มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดเกี่ยวกับความขัดแย้งในซีเรีย ทางรัสเซียประกาศว่ารัฐมนตรีต่างประเทศของรัสเซีย อิหร่าน ตุรกี และกาตาร์น่าจะมีการพบปะพูดคุยกันในสัปดาห์หน้าเพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ที่ตึงเครียดในซีเรีย - MT/AFP, RFE/RL [3][4][5]
1
ในขณะเดียวกันก่อนหน้านั้นเครมลินแสดงความสนใจที่จะใช้ “รูปแบบกระบวนการที่อัสตานา” เพื่อหวังคลี่คลายต่อสถานการณ์ความขัดแย้งในซีเรียดังกล่าว – ISW [6]
1
เครดิตภาพ: Azernews
6 ธันวาคม 2024: มีรายงานว่า “อัสซาดต้องการความช่วยเหลือจากรัสเซียและอิหร่านอย่างเร่งด่วน” เนื่องจากกองกำลังกบฏกำลังเข้าใกล้เมืองโฮมส์ซึ่งเป็นเมืองสำคัญทางยุทธศาสตร์ แต่การที่พันธมิตรของเขาจะช่วยเหลือได้ซ้ำรอยเหมือนในปี 2015 นั้นดูไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ง่ายนัก
หลังจากกลุ่มกบฏยึดเมืองฮามาได้เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พวกเขาอยู่ห่างจากโฮมส์เพียงไม่กี่กิโลเมตร ซึ่งที่นี่เป็นเมืองใหญ่แห่งสุดท้ายในเส้นทางลงใต้ไปยังกรุงดามัสกัส การยึดโฮมส์อาจทำให้เส้นทางบกระหว่างรัฐบาลของอัสซาดและฐานที่มั่นของชุมชนนิกายอลาวีแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียนต้องถูกตัดขาดลง ซึ่งที่นั่นเป็นที่ตั้งของฐานทัพเรือทาร์ทัสของรัสเซียเช่นกันด้วย
ผู้บัญชาการของกลุ่มกบฏผู้หนึ่งกล่าวว่า เราได้เข้ายึดหมู่บ้านที่อยู่ห่างจากโฮมส์ไปทางเหนือ 10 กิโลเมตรแล้ว ขณะที่สื่อที่สนับสนุนกลุ่มกบฏโพสต์วิดีโอที่อ้างว่ากลุ่มกบฏกำลังเข้าไปในเมืองอัลดาร์อัลกาบีรา ซึ่งอยู่ห่างออกไปเพียง 5 กิโลเมตร “หากโฮมส์ถูกตีแตก ผมไม่เห็นว่ารัฐบาลของอัสซาดจะอยู่รอดได้อย่างไร” เจอโรม เดรวอน นักวิเคราะห์อาวุโสด้านความขัดแย้งสมัยใหม่จากกลุ่มอินเตอร์เนชั่นแนลไครซิสกรุ๊ปกล่าว
1
อ้างอิง: [7][8][9]
เครดิตภาพ: BBC
6 ธันวาคม 2024: กองกำลังพันธมิตรที่ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ ซึ่งนำโดย “นักรบชาวเคิร์ด” สามารถยึดเมืองหลักในซีเรียตะวันออกและจุดผ่านแดนหลักที่ติดกับอิรักได้สำเร็จ โดยบุกยึดดินแดนทะเลทรายทางตะวันออกอันกว้างใหญ่ของซีเรียได้สำเร็จในการเคลื่อนพลเร็ว 2 รอบ
แหล่งข่าวความมั่นคง 2 รายในซีเรียตะวันออกเปิดเผยว่าในช่วงบ่ายของวันที่ 6 ธันวาคมที่ผ่านมา กองกำลังพันธมิตรที่รู้จักกันในชื่อ Syrian Democratic Forces (SDF) สามารถยึดเมืองเดียร์เอลซอร์ได้สำเร็จ ซึ่งเป็นเมืองที่ 3 ที่หลุดพ้นจากการควบคุมของอัสซาดภายใน 1 สัปดาห์ [10]
กองกำลังชาวเคิร์ดที่ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ ในซีเรียยึดเดย์อัลซอร์ได้สำเร็จ เมื่อ 6 ธันวาคม 2024 เครดิตภาพ: DELIL SOULEIMAN / AFP via Getty Images
6 ธันวาคม 2024: เครื่องบินรบของซีเรียและรัสเซียโจมตีกลุ่มกบฏทั้งทางเหนือและใต้ของเมืองฮามา กองทัพซีเรียกล่าวอ้างว่าได้สังหารนักรบกบฏไปแล้วหลายสิบคน รายงานระบุว่าการโจมตีทางอากาศของรัสเซียพยายามชะลอการรุกคืบของกลุ่มกบฏโดยโจมตีสะพานอัล-ราสตัน ซึ่งตั้งอยู่บนถนนที่เชื่อมระหว่างโฮมส์-ฮามา [8]
1
ในขณะที่สถานทูตรัสเซียในกรุงดามัสกัสได้เตือนพลเมืองของตนว่าให้เตรียมความพร้อมเพราะอาจจำเป็นต้องอพยพออกจากซีเรีย เนื่องจากกองกำลังกบฏกำลังเข้าใกล้เมืองโฮมส์แล้ว [8]
2
มีรายงานว่ารัสเซียไม่มีแผนในการช่วยเหลือคุ้มครองความปลอดภัยให้กับตัวอัสซาด และยังไม่เห็นแผนดังกล่าวเกิดขึ้น ตราบใดที่กองทัพของประธานาธิบดีซีเรียยังคงละทิ้งหน้าที่ไม่ทำหน้าที่รักษาฐานที่มั่นของตน ตามคำบอกเล่าของบุคคลใกล้ชิดกับเครมลิน [11]
2
แหล่งข่าวของวอลล์สตรีทเจอร์นัลรายงานว่า เจ้าหน้าที่ทางการของอียิปต์และจอร์แดนเรียกร้องให้อัสซาดออกจากประเทศและจัดตั้งสภาชั่วคราวที่มีฝ่ายค้านเข้าร่วมด้วย ตามรายงานอัสซาดส่งลูกๆ และภรรยาไปรัสเซียแล้ว แต่ตัวเขาเองยังคงอยู่ในซีเรีย [9]
1
เครดิตภาพ: MIRROR NOW
7 ธันวาคม 2024: เจ้าหน้าที่ทูตและทหารอิหร่านเริ่มอพยพออกจากซีเรียท่ามกลางการรุกคืบของกลุ่มกบฏ ตามรายงานของนิวยอร์กไทมส์ระบุว่าผู้บัญชาการกองกำลังคุดส์ ซึ่งเป็นหน่วยหนึ่งของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลาม (IRGC) ได้เดินทางหนีออกจากซีเรียแล้ว ก่อนหน้านี้อิหร่านให้การสนับสนุนประธานาธิบดีอัสซาดของซีเรียมาหลายปีแล้ว ซึ่งรวมถึงการส่งที่ปรึกษาทางทหารเข้ามาด้วย [12]
แหล่งข่าวนิวยอร์กไทมส์รายงานว่า นักการทูตบางส่วนกำลังเดินทางออกจากซีเรียเช่นกัน ชาวอิหร่านกำลังเดินทางออกจากซีเรียโดยเครื่องบินไปยังเตหะราน และผ่านทางชายแดนทางบกกับเลบานอนและอิรัก รวมถึงทางทะเลผ่านท่าเรือลาตาเกีย เมห์ดี ราห์มัต นักวิเคราะห์ชาวอิหร่าน กล่าวกับนิวยอร์กไทมส์ว่า กองทัพอิหร่านไม่สามารถให้ความช่วยเหลือกองทัพซีเรียต่อไปได้ “เพราะไม่ต้องการสู้รบอะไรตอนนี้” [12]
2
อย่างที่รู้กันพันธมิตรหลักทั้งสามของอัสซาด คือ อิหร่าน รัสเซีย และกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน กำลังเผชิญกับความท้าทายของตนเองอยู่ อิหร่านและกลุ่มฮิซบอลเลาะห์มุ่งเน้นกับการเผชิญหน้ากับอิสราเอล ในขณะที่รัสเซียต้องทุ่มทรัพยากรส่วนใหญ่ให้กับสงครามในยูเครนก่อน
อ่านบทความเพิ่มเติมของทางเพจก่อนหน้าเกี่ยวกับ “สงครามกลางเมืองซีเรีย 2024” ได้จากลิงก์ด้านล่างนี้
เรียบเรียงโดย Right Style
7th Dec 2024
  • เชิงอรรถ:
<เครดิตภาพปก: DD India>
โฆษณา