7 ธ.ค. เวลา 13:31 • ท่องเที่ยว

โค้งสุดท้ายเชียงใหม่เร่งเครื่องขับเคลื่อนเป็นเมืองมรดกทางวัฒนธรรมของ UNESCO

นับตั้งแต่เมืองเชียงใหม่ ศูนย์กลางแห่งอารยธรรมล้านนาได้ขึ้นแท่นพิจารณาขึ้นบัญชีเบื้องต้น (Tentative List) ตามอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลกของ องค์การศึกษา วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO)เมื่อห้วงเดือนกุมภาพันธ์ 2558 และจะครบรอบทศวรรษในต้นปีหน้า ประเด็นสำคัญในแต่ละปีประเทศไทยสามารถส่งรายชื่อเพียงแห่งเดียว
โดยสถานการณ์ล่าสุดไทยมีแหล่งมรดกทางวัฒนธรรมและธรรมชาติของไทยที่อยู่ในบัญชีรายชื่อเบื้องต้นของศูนย์มรดกโลก คือ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จ.นครศรีธรรมราช พระธาตุพนม, ปราสาทพนมรุ้ง พื้นที่แหล่งอนุรักษ์ทะเลอันดามัน ครอบคลุม 3 จังหวัด คือ ระนอง พังงา ภูเก็ต และ ชุมชนที่อยู่ริมทะเลสาบสงขลา ไม่รวมถึงพื้นที่เมืองน่านที่กำลังแต่งตัวเสนอเช่นกัน
จุดเริ่มต้นก่อนที่จะขึ้นบัญชีเบื้องต้น ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์ เกษม วัฒนชัย องคมนตรี ได้มอบนโยบายให้จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีจังหวัดเชียงใหม่ร่วมกับเทศบาล องค์การบริหารจังหวัดเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และหน่วยงานต่างๆ ดำเนินการเพื่อปกปักรักษาเมืองเชียงใหม่ ที่กำลังเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงของเนื้อเมือง ซึ่งจะส่งผลทางการท่องเที่ยว เศรษฐกิจ ธรรมชาติและวัฒนธรรม
อนุสนธิครั้งนั้นได้มีการเสนอให้เชียงใหม่ เป็นมรดกโลก หรือ World Heritage Site ผ่านที่ประชุมระดับชาติ โดยมี พลเอก ประวิตร วงศ์สุวรรณเป็นประธานคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลกในขณะนั้น จัดส่งเอกสารนำเสนอ ไปยังองค์การ UNESCO ที่กรุงปารีส และได้รับการพิจารณา
แนวทางปฏิบัติขององค์การUNESCO ชัดเจนคือ ให้เตรียมคน เตรียมเมือง เตรียมแผนบริหารจัดการให้พร้อม
หลังจากนั้น เชียงใหม่ได้ส่งเอกสารไปยังกระทรวงวัฒนธรรมในปี 2564 และได้รับข้อแนะนำจากคณะกรรมการระดับชาติให้ปรับแก้ เช่น การลดจำนวนแหล่งมรดกที่สำคัญ ซึ่งจะต้องมีการปรับปรุงเอกสารเพิ่มเติม ซึ่งถือว่ายังไม่นิ่ง เพราะความสมบูรณ์ของเอกสารอยู่ที่เพียง 70-80 % โดยเฉพาะการเติมแผนบริหารจัดการของจังหวัดเชียงใหม่ และองค์กรหรือวิธีการดูแลแหล่งมรดกต่างๆ ที่มีอายุนาน รวมถึงแนวทางการจัดตั้งองค์กรเฉพาะในการรับผิดชอบดูแล
ขณะที่ภาคเอกชนโดยหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ ได้นำเสนอผ่านผลักดันผ่านเวทีคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) และเวทีคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจ (กรอ.) ในเดือนพฤศจิกายน 2565 และเสนอการเร่งรัดและให้มีการตั้งคณะกรรมการอำนวยการเฉพาะ และได้นำเสนอคณะจัดทำเอกสารข้อเสนอฯ ได้เข้าพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เพื่อหารือถึงแนวทางการดำเนินงานจัดทำเอกสารข้อเสนอฯ ของจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2565
ในปี 2566 จังหวัดเชียงใหม่ โดยนายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้นั่งเป็นประธานประชุมขับเคลื่อนเมืองเชียงใหม่สู่เมืองมรดกโลกทางวัฒนธรรมขององค์การยูเนสโก
โดยจะได้นำเสนอคุณค่าของเมืองใน 3 ด้าน ประกอบด้วย ด้านผังเมือง ด้านมรดกวัฒนธรรม และด้านสถาปัตยกรรมและศิลปกรรม ภายใต้แหล่งมีมรดก 4 พื้นที่ 10 แหล่ง 2 กลุ่ม คือ แหล่งมรดกที่แสดงถึงสัณฐานและการวางแผนเมืองโบราณ ประกอบด้วย กำแพงเมือง 5 ประตู 4 แจ่ง และคูเมือง ประกอบด้วย กำแพงเมืองชั้นในและแนวคูเมือง ส่วนอีกกลุ่ม คือ แหล่งมรดกที่แสดงออกถึงคุณค่าโดดเด่นอันเป็นสากลของงานสถาปัตยกรรมศิลปกรรมล้านนา จำนวน 8 แหล่ง
ในระยะเวลาใกล้งวด ในช่วงเดือนกันยายน 2567 ที่ผ่านมา นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วย นายวีรพงศ์ ฤทธิ์รอด รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ได้ประชุม ร่วมกับคณะผู้เชี่ยวชาญเรื่องมรดกโลก มติการประชุมครั้งนี้ได้แต่งตั้งคณะทำงานเร่งรัดการขับเคลื่อนนำเสนอแหล่งมรดกทางวัฒนธรรมเมืองเชียงใหม่
โดยองค์คณะจะมี นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นที่ปรึกษาของคณะทำงาน และบูรณาการหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องมาร่วมเป็นคณะทำงาน และได้ส่งเทียบเชิญ นายบวรเวท รุ่งรุจี ผู้เชี่ยวชาญเรื่องมรดกโลก มาเป็นประธานคณะทำงาน และเคยเป็นผู้นำขับเคลื่อนการนำเสนอแหล่งมรดกทางวัฒนะรรมอุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพและภูพระบาท จนได้รับการประกาศเป็นมรดกโลกมาแล้วในปี 2566 และ 2567 ที่ผ่านมา
สำหรับคณะทำงานเร่งรัดการขับเคลื่อนนำเสนอแหล่งมรดกทางวัฒนธรรมเมืองเชียงใหม่ จะมีหน้าที่ในการกำหนดแนวทางและแผนงาน พร้อมทั้งจัดทำร่างเอกสารต่างๆ เพื่อขอนำเสนอแหล่งมรดกทางวัฒนธรรมเมืองเชียงใหม่ขึ้นบัญชีเป็นแหล่งมรดกโลกให้มีความถูกต้องตามหลักข้อบัญญัติการเข้าร่วมเป็นภาคีฯ ประสานงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญ ส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อขับเคลื่อนเมืองเชียงใหม่ให้เป็นเมืองมรดกทางวัฒนธรรมของยูเนสโกให้ได้ในที่สุด
การขยับของคณะกรรมการชุดนี้จึงเป็นเรื่องสำคัญในโค้งสุดท้ายที่เป็นจุดเปลี่ยนของเชียงใหม่ว่าจะเดินหน้าต่อไปเช่นไรในระยะยาวหรือจะเป็นการละทิ้งโอกาสสำคัญที่คงอัตลักษณ์ของวัฒนธรรมล้านนาที่สุ่มเสี่ยง
วันที่ 13 ธันวาคม 2567 จึงเป็นหมุดเวลาใหม่ที่คณะทำงานเร่งรัดการขับเคลื่อนนำเสนอแหล่งมรดกทางวัฒนธรรมเมืองเชียงใหม่เป็นมรดกโลกจะได้ประชุมครั้งแรก ณ ท้องเธียเตอร์ อาคารรวงผึ้ง ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานานาชาติเชียงใหม่ ที่จะเป็นเวทีที่จะกระชับพื้นที่ การวางแผนเร่งรัดผลักดัน รวมถึงการให้ความรู้และชั้นตอนเกี่ยวกับการนำเสนอแหล่งมรดกทางวัฒนธรรมเป็นมรดกโลก
โดยนายบวรเวท รุ่งรุจี ประธานสมาคมอีโคโมสไทย และประธานคณะทำงานรวมถึงหัวข้อแนวความคิดการนำเสนอเมืองเชียงใหม่เป็นมรดกโลกโดย นางรวีวรรณ ภูริเดช ผู้อำนวยการคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติและรองประธานคณะทำงานฯ
การเคลื่อนตัวครั้งนี้จึงน่าจับตายิ่งในเนื้อหา วิธีการเร่งรัด รวมถึงการลงลึกในปัจจัยความสำเร็จของมรดกโลกเชียงใหม่ให้ได้รับการอนุมัติภายในปี 2569 ที่จะครบรอบ 730 ปีของเมืองแห่งวัฒนธรรมศูนย์กลางล้านนาที่ทรงคุณค่ายิ่งในการหวงแหนปกป้องการเป็นมรดกของโลกต่อไป
โฆษณา