7 ธ.ค. เวลา 23:30 • ครอบครัว & เด็ก

โลกที่เห็นเป็นเพียงเงาของความจริง

มัทธิว 15:1-9 KJV
[1] ครั้งนั้น พวกธรรมาจารย์และพวกฟาริ​สี ซึ่งมาจากกรุงเยรูซาเล็ม มาทูลถามพระเยซู​ว่า [2] “ทำไมพวกสาวกของท่านจึงละเมิดประเพณีสืบทอดมาจากบรรพบุรุษ ด้วยว่าเขามิ​ได้​ล้างมือเมื่อเขารับประทานอาหาร” [3] แต่​พระองค์​ได้​ตรัสตอบเขาว่า “​เหตุ​ไฉนพวกท่านจึงละเมิดพระบัญญั​ติ​ของพระเจ้าด้วยประเพณีของพวกท่านด้วยเล่า
[4] เพราะว่าพระเจ้าได้ทรงบัญญั​ติ​ไว้​ว่า ‘จงให้​เกียรติ​แก่​บิ​ดามารดาของตน’ และ ‘​ผู้​ใดด่าแช่​งบ​ิดามารดาของตน ผู้​นั้นต้องถูกปรับโทษถึงตาย’ [5] แต่​พวกท่านกลับสอนว่า ‘​ผู้​ใดจะกล่าวแก่​บิ​ดามารดาว่า “​สิ​่งใดของข้าพเจ้าซึ่งอาจเป็นประโยชน์​แก่​ท่าน สิ​่งนั้นเป็นของถวายแล้ว” [6] ผู้​นั้นจึงไม่ต้องให้​เกียรติ​บิ​ดามารดาของตน’ อย่างนั้นแหละท่านทั้งหลายทำให้พระบัญญั​ติ​ของพระเจ้าเป็นหมันไปเพราะเห็นแก่​ประเพณี​ของพวกท่าน
[7] ท่านคนหน้าซื่อใจคด อิสยาห์​ได้​พยากรณ์​ถึงพวกท่านถูกแล้​วว​่า [8] ‘ประชาชนนี้​เข​้ามาใกล้เราด้วยปากของเขา และให้​เกียรติ​เราด้วยริมฝีปากของเขา แต่​ใจของเขาห่างไกลจากเรา [9] เขานมัสการเราโดยหาประโยชน์​มิได้ ด้วยเอาบทบัญญั​ติ​ของมนุษย์มาอวดอ้างว่า เป็นพระดำรัสสอน’”
ภาพที่นำมาลงเป็นภาพที่ได้รับรางวัลของNational Geographic ให้ซูมภาพเข้าไปดูใกล้ๆนะครับ ตอนผมเห็นแวบแรกก็เข้าใจว่าเป็นภาพลาเดินตามกัน ก็ไม่เข้าใจว่าภาพถ่ายนี้ได้รางวัลมาเพราะอะไร ดูมันธรรมดามาก แต่พอซูมเข้าไปดูใกล้ๆ ถึงรู้ว่าไอ้ที่ตาเรามองเห็นชัดอยู่นั้นเป็นแค่เงาของม้าลายครับ
เช่นกัน เพราะกำลังติดตามสถานการณ์ที่ตาเห็นหรือความคิด ไม่ตามพระคำความจริงของพระเจ้าจึงทำให้เป็นทุกข์หรือหวาดกลัวครับ
กับสิ่งอื่นที่ไม่ใช่พระเจ้า ไม่สามารถมาช่วยให้รอดปลอดภัยได้ ซึ่งมารซาตานก็ใช้ล่อลวงผู้คนให้วางใจกับสิ่งเหล่านั้นแทนพระเจ้าครับ
อย่างฟาริสีที่ไม่สามารถเชื่อวางใจกับพระเยซูได้เพราะถูกมารซาตานหลอกให้เชื่อว่าสามารถทำความดีตามพระบัญญัติได้ แล้วก็เลยดูหมิ่นกับคนที่ไม่ถือไม่เคร่งครับ ทั้งๆที่ตัวเองทำแค่บางข้อบางเวลา ซึ่งอย่างนั้นคือทำไม่ได้ ทำได้นั้นคือทำทุกข้อทุกเวลาต่างหากครับ ซึ่งมนุษย์ไม่มีใครสักคนสามารถทำได้เลยครับ
ตอนที่วางใจพระเจ้าไม่ได้ชีวิตมันก็จะมีแต่ความทุกข์ทรมานเข้ามาเรื่อยๆ กับความพยายามจะทำตามให้ได้นี้ครับ ยกตัวอย่างเรื่องของน้องคนหนึ่งชื่อเพชร ตอนนี้เป็นนักเรียนลินคอร์น ตลอดมาเขาเชื่อมาโดยตลอดว่าตัวเองเป็นไบโพลาร์ตามที่ย่าบอกมา ตอนโกรธขึ้นมาก็จะโมโหร้ายควบคุมยาก ทำร้ายคนอื่นง่ายๆ พอมาอยู่ที่โรงเรียนลินคอร์นวันหนึ่งก็มีเรื่องและกำลังจะทำร้ายเพื่อนรุ่นพี่คนนึง ครูก็เลยเรียกมาคุยพอฟังเหตุผลของเขาบอกแนวไม่ตรงกัน และเขาเป็นไบโพลาร์ควบคุมอารมณ์ไม่ได้
ก็เลยคุยเรื่องแนวผ่านเรื่องฟาริสี เป็นศัตรูกับพระเยซูเพราะเชื่อว่าตัวเองสามารถทำตามพระบัญญัติได้จึงเกลียดโกรธตอนที่พระเยซูมาตำหนิพวกเขา เพื่อจะให้ได้รู้สึกตัวว่ากำลังเข้าใจผิดอยู่ เพราะมนุษย์ไม่มีใครสามารถจะถือรักษาทำตามพระบัญญัติได้เลย ทุกคนล้วนอยู่ใต้บาป ชั่วร้ายและพร้อมจะมุ่งไปสู่ทางพินาศ จำเป็นต้องมีคนของพระเจ้ามาคอยดูแลจูงนำชีวิตจึงจะอยู่รอดปลอดภัยครับ
ส่วนเรื่องไบโพลาร์ก็เป็นคำโกหกของมารซาตานที่ทำงานผ่านทางย่า แต่ความจริงคือพระเยซูได้มาเอาไปทั้งหมดแล้วกับความบาปความป่วยไข้ของมนุษย์ครับ หลังจากที่เพชรเขาได้ฟังกับเรื่องนี้ เขาเปลี่ยนเลยครับ จากที่เคยเรียกฟิล์มว่าไอ้ฟิล์มก็เริ่มเรียกพี่ฟิล์มได้ครับ
ปัญหาจริงๆของหลายคนตอนนี้ก็เหมือนกับเพชรหรือฟาริสีนี้ครับ คือหลงเชื่อกับคำโกหกของมารซาตานมาโดยตลอดจึงออกจากความทุกข์ยากไม่ได้ แต่ตอนที่กลับมาสู่ความจริงหรือพระคำพระเจ้า ตอนนั้นมันก็สามารถจะเป็นอิสรหรือพักผ่อนได้ครับ
ผมเองวันก่อนก็ได้พบกับคนๆหนึ่งฟังเรื่องของเขาแล้วก็ได้คิดครับ ทุกวันพ่อของทุกปี เขาจะเก็บตัวในห้องร้องไห้คิดถึงพ่อ ไม่ยอมเจอหน้าใคร พ่อถูกฆ่าตายตั้งแต่อายุ17 ปัจจุบันเขาอายุน่าจะเกือบห้าสิบ และเคยเป็นซึมเศร้าอย่างหนักแต่ดีขึ้นแล้ว แต่เก็บตัวร้องไห้ในห้องทุกวันพ่อเรื่องนี้ยังไม่หลุด
ผมฟังแล้วก็ได้คิดครับว่า กับเรื่องนี้ที่ได้เกิดขึ้นทั้งพ่อที่ถูกฆ่ากับน้องเขยฆาตกรทั้งคู่ต่างก็เป็นเหยื่อตกอยู่ใต้อำนาจบาป ถูกมารซาตานควบคุมให้ฆ่าทำลายกันครับ
ในส่วนของลูกก็ตกเป็นเหยื่อด้วยเช่นกัน ถ้าไม่รู้ความจริงก็ได้แต่จมอยู่กับความเจ็บปวดที่สูญเสียพ่อและอาฆาตแค้นกับอาเขยผู้ฆ่า
แต่ตอนได้รู้ความจริงว่ามันเป็นผลของบาปผู้ร้ายตัวจริงคือมารซาตานผู้ชักใยอยู่เบื้องหลัง ทุกคนคือเหยื่อ ตอนนั้นมันสามารถทิ้งความเกลียดโกรธพวกเขาและกลับมาสงสารที่ต้องเป็นเหยื่อครับ
กับความเสียใจที่สูญเสียพ่อ แต่ความจริงได้เห็นว่าพ่อที่แท้จริงของเราคือพระเจ้า พ่อมนุษย์เป็นเพียงเงาที่พระเจ้าให้มาเพื่อจะได้สัมผัสกับความรักของพระเจ้าได้บ้าง แต่จะสามารถสัมผัสได้อย่างสมบูรณ์โดยผ่านทางพระเยซูนี้ครับ
ใช่ครับมันดูเหมือนสูญเสียพ่อแต่กับการได้กลับมารู้ความจริงได้พบกับพ่อที่แท้จริงคือพระเจ้า นี่จึงไม่ใช่การสูญเสีย พ่อมนุษย์เป็นเพียงผู้ดูแลชั่วคราวรอจนกว่าพ่อตัวจริงจะมา ซึ่งตอนนี้ก็มาแล้วในโลกก็คือพระเยซูนี้ครับ
กาลาเทีย 3:23-24 KJV
[23] แต่​ก่อนที่​ความเชื่อมานั้น เราถูกพระราชบัญญั​ติ​กักตัวไว้ ถู​กก​ั้นเขตไว้จนความเชื่อจะปรากฏภายหลัง [24] เพราะฉะนั้น พระราชบัญญัติ​จึงเป็​นคร​ูของเราซึ่งนำเรามาถึงพระคริสต์ เพื่อเราจะได้เป็นคนชอบธรรมโดยความเชื่อ
เหมือนที่พระเจ้าให้ธรรมบัญญัติกับมนุษย์ก่อนให้พระเยซู ก็เพื่อให้รู้ว่าความสมบูรณ์แบบนั้นมีอยู่ แต่ไม่ได้มาจากความพยายามตั้งใจของมนุษย์เอง แต่ได้มาโดยทางพระเยซูผู้มาทำให้มนุษย์เรากลายมาเป็นสมบูรณ์แบบครับ
ทุกสิ่งอื่นนั้นมีขีดจำกัด เราไม่สามารถไปฝากชีวิตได้ เป็นเพียงเงาของสิ่งที่ไม่มีขีดจำกัด หมายถึงพระเจ้าผู้ให้พ่อที่เป็นมนุษย์กับเรามาก่อนเพื่อจะสอนนำให้เราได้รู้จักกับความรักของพระเจ้า ผ่านทางพ่อที่เป็นมนุษย์นี้ครับ
โฆษณา