⚠️ ช็อกสหรัฐฯ! ศาลยืนยันแบน TikTok! ทรัมป์รอซ้ำ⁉️
ศาลชั้นสูงในวอชิงตันได้ตัดสินเมื่อวานนี้ให้บังคับใช้กฎหมายที่จะมีผลให้เกิดการแบน TikTok ในช่วงต้นปีหน้า การตัดสินครั้งนี้ถือเป็นการโจมตีบริการวิดีโอครั้งใหญ่ แม้ว่าจะยังไม่ได้หมายความว่า TikTok จะหายไปจากโทรศัพท์ของชาวอเมริกันในเดือนหน้าก็ตาม
คาดว่า TikTok จะต่อสู้คำตัดสิน โดยอาจยื่นอุทธรณ์ต่อศาลสูงสุดของประเทศ โดย Michael Hughes โฆษกของ TikTok กล่าวเมื่อวันศุกร์ว่า “ศาลฎีกามีประวัติที่เป็นที่ยอมรับในการปกป้องสิทธิในการพูดอย่างอิสระของชาวอเมริกัน และเราคาดว่าพวกเขาจะทำเช่นนั้นในประเด็นทางรัฐธรรมนูญที่สำคัญนี้”
ในกรณีนั้น เรื่องราวทางกฎหมายอาจทำให้การปิด TikTok ล่าช้าออกไปนานหลังจากกำหนดเส้นตายเดิมในวันที่ 19 มกราคม แม้ว่าเจ้าของ TikTok ชาวจีนอย่าง ByteDance อาจขายธุรกิจของแอปในสหรัฐฯ ให้กับผู้ซื้อชาวอเมริกันเพื่อแก้ไขปัญหาความมั่นคงของชาติ แต่ว่า ByteDance ชี้แจงชัดเจนว่าสถานการณ์ดังกล่าวไม่น่าจะเกิดขึ้นก็ตาม
อย่างไรก็ตาม ไพ่ใบสำคัญที่สุดในอนาคตของ TikTok อาจเป็นของโดนัลด์ ทรัมป์
เมื่อเดือนที่แล้ว หลังทรัมป์ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดี มีทั้งคนในและนอกบริษัทที่มองโลกในแง่ดีว่าประธานาธิบดีคนใหม่จะเป็นทางรอดของ TikTok แต่ในตอนนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไปแล้ว โดยผู้ใช้งานชาวอเมริกัน 170 ล้านคน และนักลงทุนชาวอเมริกันของ ByteDance เริ่มรู้สึกว่าความหวังลดน้อยลงเรื่อยๆ และสุดท้าย ทรัมป์ นี่แหละอาจเป็นคนที่ทำให้การแบนนี้เกิดขึ้นจริงๆ
แล้วอะไรเปลี่ยนไป?
1️⃣ ทรัมป์กำลังจัดคณะรัฐมนตรีด้วยผู้สนับสนุนที่กล้าพูดมากที่สุดของรัฐบาลในการแบน TikTok ได้แก่ สมาชิกรัฐสภาและเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ที่ผลักดันกฎหมายนี้ให้ผ่านเส้นชัยไปให้ได้
รายชื่อดังกล่าวมีตั้งแต่ มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศที่ทรัมป์เลือกให้เป็นหัวหน้าคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ ซึ่งเป็นผู้โจมตีจีนที่ทุ่มเทและรอบรู้ และเป็นวุฒิสมาชิกชั้นนำในกฎหมายที่ทั้งสองพรรคการเมืองร่วมกันจัดทำเพื่อแบน TikTok
นอกจากนี้ ยังมีนักรณรงค์ต่อต้าน TikTok เช่น ส.ส. ไมค์ วอลทซ์ ซึ่งทรัมป์เลือกให้เป็นที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติ เบรนแดน คาร์ กรรมาธิการ FCC ผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งประธานหน่วยงาน และคริสตี้ โนเอม ผู้ว่าการรัฐเซาท์ดาโกตา ผู้ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งหัวหน้ากระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิอีกเช่นกัน
2️⃣ ในไม่ช้านี้ ทรัมป์จะได้รับข้อมูลลับที่เขาไม่เคยมีมาก่อน
โดยข้อมูลดังกล่าวเพียงพอที่จะโน้มน้าวใจรัฐสภาและฝ่ายบริหารชุดปัจจุบัน (ไบเดน) ว่า TikTok จะต้องหายไป ผู้เชี่ยวชาญบางคนคาดว่าการเข้าถึงข้อมูลข่าวกรองดังกล่าวในเร็วๆ นี้ของทรัมป์ ซึ่งเป็นข้อมูลที่เขาไม่มีในขณะที่หาเสียงภายนอกทำเนียบขาวในฐานะผู้สมัครและประชาชนทั่วไป อาจทำให้เขาตัดสินใจแบน TikTok ในที่สุด
3️⃣ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ผู้ซึ่งน่าจะได้รับประโยชน์จากการแบน TikTok กำลังกลับมาเป็นคนโปรดของทรัมป์อีกครั้ง
ทรัมป์กล่าวระหว่างหาเสียงว่า “หากไม่มี TikTok คุณก็จะทำให้ Facebook ยิ่งใหญ่ขึ้น และผมถือว่า Facebook เป็นศัตรูของประชาชน”
แต่ในขณะที่เราทุกคนกำลังเตรียมฉลองวันขอบคุณพระเจ้า ทรัมป์กำลังรับประทานอาหารค่ำกับซักเคอร์เบิร์ก ซึ่งเป็นซีอีโอของ Meta Platforms ที่ Mar-a-Lago ในฟลอริดา นอกจากนี้ซักเคอร์เบิร์กยังได้พูดคุยกับทรัมป์ทางโทรศัพท์ในฤดูใบไม้ร่วงนี้ และกล่าวว่าปฏิกิริยาของทรัมป์ต่อความพยายามลอบสังหารนั้น “โคตรเท่ห์”
ดังนั้นหากทรัมป์สามารถลืมการตัดสินใจของ Facebook ที่แบนเขาหลังจากการโจมตีอาคารรัฐสภาสหรัฐเมื่อวันที่ 6 มกราคม และความสัมพันธ์ของเขากับซักเคอร์เบิร์กดีขึ้นเรื่อยๆ สิ่งนี้อาจส่งผลต่อความคิดของทรัมป์ต่อการแบน TikTok
4️⃣ ทรัมป์ต้องการเข้มงวดกับจีน
ไม่ต้องมองไปไกลกว่าคำสัญญาของเขาที่จะประกาศอัตราภาษีเพิ่มเติมอีก 10% สำหรับสินค้าที่นำเข้าจากจีนอย่างรวดเร็ว การทำตามคำสั่งแบน TikTok ดูเหมือนจะสอดคล้องกับจุดยืนที่แข็งกร้าวต่อจีน หากเปลี่ยนจุดยืนก็ดูจะไม่ถูกต้อง ไม่ต้องพูดถึงการเปลี่ยนจุดยืนอย่างสิ้นเชิงในความพยายาม (ที่ไม่ประสบความสำเร็จ) ของเขาที่จะแบน TikTok ในปี 2020 เลยด้วยซ้ำ
5️⃣ ทรัมป์ชนะการเลือกตั้งไปแล้ว
ต้องอย่าลืมว่าทรัมป์เข้าข้าง TikTok เพื่อเข้าถึงผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ดังนั้นเมื่อเหลือผลประโยชน์ทางการเมืองเพียงเล็กน้อยในตอนนี้ คำถามคือเขายังต้องการมันอีกหรือไม่
ความเห็นในแคมเปญหาเสียงเกี่ยวกับการปกป้อง TikTok เป็นสิ่งหนึ่ง แต่สิ่งที่เกิดขึ้นจริงนั้นอาจเป็นอีกสิ่งหนึ่ง ดังที่คนในวอชิงตันบอกไว้ว่า “กฎหมายก็คือกฎหมาย” ไม่ว่าทรัมป์จะชอบหรือไม่ก็ตาม และศาลอุทธรณ์ได้ยืนยันความชอบธรรมของกฎหมายดังกล่าว
- 8
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
