Blockdit Logo (Mobile)
Right Style by Bom+
•
8 ธ.ค. เวลา 04:10 • ข่าวรอบโลก

ทรัมป์ขยับแล้วเรื่อง “สงครามกลางเมืองในซีเรีย”

กับท่าทีของอิหร่านที่ “เปลี่ยนไป”
“นี่ไม่ใช่การสู้รบของเรา” โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวว่าสหรัฐฯ ไม่ควรเข้าไปแทรกแซงในซีเรีย ซึ่งกลุ่มต่อต้านในซีเรียกำลังรุกคืบเพื่อล้มอำนาจฝ่ายรัฐบาลของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด
3
ทรัมป์โพสต์บนโซเชียลเน็ตเวิร์ก Truth Social เมื่อ 7 ธันวาคม 2024 ใจความดังนี้ [1]
  • ●
    กลุ่มต่อต้านรัฐบาล (ซีเรีย) ยึดเมืองต่างๆ ได้หลายเมืองแล้วด้วยการโจมตีที่ประสานงานกันเป็นอย่างดี และขณะนี้กำลังอยู่ในเขตชานเมืองของกรุงดามัสกัส โดยดูเหมือนว่ากำลังเตรียมที่จะก้าวไปอีกขั้นเพื่อโค่นล้มอัสซาด
1
  • ●
    ในขณะที่รัสเซียติดหล่มอยู่กับยูเครนอย่างหนักและสูญเสียทหารไปมากกว่า 600,000 นาย และดูเหมือน (กองทัพรัฐบาลกลางซีเรีย) จะไม่สามารถหยุดยั้งกลุ่มต่อต้านไม่ให้รุกคืบเข้าไปในใจกลางเมืองหลวงซีเรีย (ดามัสกัส) ซึ่งซีเรียปกป้องมาได้นานหลายปีแล้ว
  • ●
    ทรัมป์จำได้ว่าในปี 2013 บารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในขณะนั้น ปฏิเสธที่จะแทรกแซงในซีเรีย ซึ่งเชื่อกันว่ามีการใช้ “ซาริน” ซึ่งเป็นอาวุธเคมีในสงคราม “ซีเรียตกนรกทั้งเป็น เมื่อมีรัสเซียเข้ามาแทรกแซง”
1
  • ●
    ขณะนี้กองกำลังรัสเซียและอาจรวมถึงอัสซาดเองด้วยกำลังถูกขับไล่ออกจากซีเรีย และ “นั่นอาจเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่อาจเกิดขึ้นกับพวกเขา” “ส่วนรัสเซียนั้นไม่มีอะไรจะเก็บเกี่ยวได้ประโยชน์มากนักในซีเรีย นอกจากเป็นเครื่องมือทำให้โอบามาดูโง่เขลา”
  • ●
    ซีเรียมีแต่ความยุ่งเหยิงภายใน พวกเขาไม่ใช่พันธมิตรของเรา (สหรัฐ) และสหรัฐฯ ไม่ควรมีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ นี่ไม่ใช่การต่อสู้ของเรา ปล่อยให้มันดำเนินไปตามธรรมชาติ อย่าแทรกแซง! (เอ๊ะ! แต่ในข่าวจากสื่อต่างๆ รวมถึงฝั่งตะวันตกเองด้วยบอกว่ากลุ่มนักรบชาวเคิร์ดที่ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มกบฏเพื่อหวังล้มอำนาจอัสซาดได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ)
ที่มาภาพ: @realDonaldTrump, Truth Social
มาดูกันที่ท่าที่ของ “อิหร่าน” กันบ้าง ซึ่งเป็นหนึ่งในพันธมิตรหลักของประธานาธิบดีอัสซาด เห็นค่อนข้างนิ่งเงียบกับสถานการณ์ในซีเรีย การล่มสลายของการปกครองทางการทหารและการเมืองในซีเรียโดยอัสซาดที่กำลังจะชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ หากเราถือว่าแนวทางปฏิบัติทางยุทธศาสตร์ใหม่ของอิหร่านที่มุ่งลดความตึงเครียดในความสัมพันธ์กับสหรัฐอเมริกาและอิสราเอลมีส่วนทำให้เกิดขึ้น
นักวิเคราะห์จากรัสเซียเชื่อมโยงเหตุการณ์ในอิหร่านและการเปลี่ยนแปลงสำคัญนี้ ไม่เพียงแต่กับการขึ้นสู่อำนาจของประธานาธิบดีคนใหม่ของอิหร่านที่เป็นนักปฏิรูป “เปเซชเคียน” หลังจากการเสียชีวิตของไรอิซี (ปธน. คนก่อนหน้า) ในเหตุการณ์เฮลิคอปเตอร์ตกเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการเลื่อนการลงนามในข้อตกลงหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ที่ครอบคลุมระหว่างอิหร่านและรัสเซียอีกด้วย
และยังรวมถึงความเฉยเมยที่ยากจะอธิบายของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเหตุการณ์ที่ทวีความรุนแรงขึ้นในฉนวนกาซาและเลบานอนตอนใต้เมื่อเร็วๆ นี้ด้วย ถึงขนาดยอมรับว่าวิกฤตการณ์ในซีเรียในปัจจุบันอาจเกี่ยวข้องกับการประนีประนอมทางภูมิรัฐศาสตร์บางประการจากฝ่ายเตหะราน เพื่อแลกกับสิทธิพิเศษบางอย่างจากรัฐบาลสหรัฐฯ ชุดใหม่ [2]
1
เครดิตภาพ: Oneindia
โซฮาอิล คาริมี ผู้เชี่ยวชาญชาวอิหร่านด้านกิจการซีเรียได้กล่าวไว้ว่า รัฐบาลของเปเซชเคียนไม่ยอมอนุมัติให้กองทัพอิหร่านสู้รบในเขตปกครองพิเศษ (ซีเรีย) “เราไม่ได้รับอนุญาตให้สู้รบในซีเรีย เราสละชีวิตผู้พลีชีพ 6,000 คนเพื่อต่อสู้กับผู้ก่อการร้ายที่นั่น! การตายของพวกเขาไม่ควรสูญเปล่า...” (โทษประธานาธิบดีอิหร่านว่าไม่ยอมส่งทหารเข้าไปช่วยซีเรีย) [3]
1
จุดที่น่าสังเกตอีกอย่างหนึ่งคือ สื่ออิหร่านแทนที่ใช้คำว่า “ผู้ก่อการร้าย” ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มต่อต้านรัฐบาลในซีเรียตอนนี้ด้วยคำว่า “ฝ่ายกองกำลังต่อต้านติดอาวุธ” ทำไมเมืองอเลปโปซึ่งเป็นเมืองสำคัญที่สุดรองจากดามัสกัสซึ่งอยู่ในเขตรับผิดชอบของอิหร่านในซีเรียจึงยอมจำนนอย่างรวดเร็วต่อกองกำลังที่ตุรกีให้การสนับสนุน รวมถึงการล่าถอยของกองทัพรัฐบาลกลางซีเรียอย่างง่ายดาย (ยอมยกธงขาวง่ายดาย) [4]
1
การสูญเสียตำแหน่งของอิหร่านในซีเรีย ไม่ว่าจะได้รับผลประโยชน์อะไรก็ตามเพื่อแลกเปลี่ยน จะหมายถึงการสูญเสียเส้นทางบกไปยังเลบานอนและการเข้าถึงดินแดนของอิสราเอลโดยตรงผ่านที่ราบสูงโกลันที่ถูกยึดครอง ในกรณีนี้ฮิซบอลเลาะห์จะพบว่าตัวเองถูกโดดเดี่ยว อย่างไรก็ตามก่อนหน้านั้นฮิซบอลเลาะห์เองก็ปล่อยให้ฉนวนกาซาอยู่ตามลำพังกับอิสราเอล โดยตกลงหยุดยิงในเลบานอน ซึ่งไม่มีเงื่อนไขในการยุติการสู้รบในฉนวนกาซา และเจ้าหน้าที่อิหร่านก็อนุมัติเอกสารนี้อย่างเปิดเผย
1
การรุกของกลุ่มกบฏในซีเรียที่สนับสนุนตุรกีเริ่มขึ้นอีกครั้งในวันแรกของข้อตกลงหยุดยิงในเลบานอน ซึ่งก็คือวันที่ 27 พฤศจิกายน 2024 ดูเหมือนจังหวะมันลงตัวกันอย่างน่าทึ่ง อย่างไรก็ตามยังเร็วเกินไปที่จะสรุปเป็นมั่นเป็นเหมาะเกี่ยวกับทางเลือกทางภูมิรัฐศาสตร์ของอิหร่าน อย่างน้อยก็จนกว่าเตหะรานจะยกเลิกปฏิบัติการช่วยเหลือภาคพื้นดินในซีเรียอย่างเป็นทางการและปล่อยให้รัฐบาลอัสซาดเป็นไปตามยถากรรมโดยไม่ดูดาย
1
เครดิตภาพ: OMAR HAJ KADOUR / AFP
โอกาสที่รัสเซียจะเข้าไปยึด “ฐานทัพอากาศคเมมีม” และ “ฐานทัพเรือทาร์ทัส” ได้โดยไม่ต้องปะทะกับฝ่ายต่อต้านรัฐบาลกลางซีเรียนั้นต่ำมาก แม้จะไม่ใช่ศูนย์ก็ตาม แต่ในข้อตกลงเบื้องหลังที่อัสตานา (พฤศจิกายน 2024) ซึ่งรวมถึงแผนร่างใหม่ของภูมิทัศน์ทางการเมืองในตะวันออกกลาง โดยคาดว่าจะมีหน่วยงานของรัฐใหม่มาแทนที่สาธารณรัฐอาหรับซีเรีย แต่ทว่าไม่มีข้อตกลงใดที่คุ้มค่าเลยหากไม่ได้รับการสนับสนุนจากกองกำลังของประเทศที่แท้จริง [5]
1
ในขณะเดียวกันการที่รัสเซียสูญเสียตำแหน่งในเมืองท่าลาตาเกียและทาร์ทัส โดยไม่ได้มาซึ่งผลประโยชน์แลกเปลี่ยนทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เทียบเท่ากันนั้น จะส่งผลกระทบตามาหลายประการในคราวเดียวกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาจส่งผลเชิงลบต่อความสัมพันธ์ของรัสเซียกับซาอุดิอาระเบีย ตามมาด้วยข้อตกลง OPEC+
ทางเพจได้สรุปเหตุการณ์สงครามกลางเมืองในซีเรีย อัพเดทถึง 7 ธันวาคม 2024 สามารถอ่านเพิ่มเติมได้จากลิงก์ด้านล่างนี้
เรียบเรียงโดย Right Style
8th Dec 2024
  • ■
    เชิงอรรถ:
<เครดิตภาพปก: (บน) – Times of India (ล่าง) - ISNA>
โฆษณา