จิตมนุษย์นั้น สำคัญอย่างไร ?

จิตมนุษย์สำคัญและมีความลึกซึ้งมาก ถึงขนาดที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้ายกขึ้นให้เป็นหนึ่งใน 5 หัวเรื่องใหญ่ในพระพุทธศาสนา ที่ครอบคลุมทั้งทางโลกและทางธรรม
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า ทุกอย่างดำเนินไปด้วยกฎระเบียบ ทางพระพุทธศาสนา เรียกว่า “นิยาม” แปลว่า “ระเบียบแบบแผน” มีทั้งหมด 5 เรื่อง ได้แก่
1. อุตุนิยาม คือ กฎธรรมชาติ (Physical laws)
เช่น แรงดึงดูดของโลกที่ทำให้โลกหมุนรอบดวงอาทิตย์ การเกิดฤดูกาลและปรากฎการทางธรรมชาติต่างๆ ที่อยู่รอบตัวมนุษย์ ยิ่งมนุษย์เข้าใจกฎเหล่านี้มากเท่าไร ก็จะสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้มากขึ้นเท่านั้น และส่งผลให้เทคโนโลยีพัฒนาก้าวหน้าขึ้น
แต่ในความเป็นจริงแล้วพระสัมมาสัมพุทธเจ้ารู้ทั้งหมด ทั้งกฎฟิสิกส์เคมีต่างๆ แต่พระองค์ไม่ได้หยิบยกเรื่องเหล่านี้ขึ้นมาชี้สอน แต่พระองค์มุ่งสอนเรื่องที่นำไปสู่การพ้นทุกข์
2. พีชนิยาม คือ กฎชีวภาพหรือกฎของสิ่งมีชีวิต (Biological laws)
ทำไมคนออกลูกเป็นคน ไม่ออกลูกเป็นลิง ทำไมมะม่วงไม่ออกลูกเป็นมะพร้าว ทุกสิ่งอย่างมีกฎควบคุมอยู่ มีดีเอ็นเอ โครโมโซม และยีนส์ต่างๆ ควบคุมอยู่ ทุกอย่างที่ซับซ้อนล้วนยังอยู่ในกฎชีวภาพทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่สุด หรือใหญ่สุดก็ตาม
3. จิตตนิยาม คือ กฎที่ว่าด้วยเรื่องการงานของจิตใจ (Psychic laws)
พระสัมมาสัมพุทธเจ้ายกขึ้นมาเป็นเรื่องใหญ่ว่าใจมนุษย์มีความซับซ้อน การพิจารณาของพระอภิธรรมที่ลึกซึ้งในพระอภิธรรม ความจริงมีอยู่ 3 เรื่อง คือ จิต เจตสิก และนิพพาน จิต คือ เรื่องของดวงจิต เจตสิก คือ การทำหน้าที่ของจิต และนิพพาน เป็นความละเอียดลึกซึ้งของจิต เราจะเห็นได้ว่าเรื่องจิตซับซ้อนมาก
4. กรรมนิยาม คือ กฎแห่งกรรม (Law of karma)
เราคุ้นเคยกันในเรื่องของบุญบาป นรกสวรรค์ โดยพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า เรื่องของกฎแห่งกรรมนั้นเข้าใจได้อยาก เป็นหนึ่งในอจิณไตย เป็นเรื่องที่ไม่ควรคิดเพราะไม่สามารถใช้สมองคิดแบบมนุษย์ทั่วไปได้ ถ้าจะให้เข้าใจต้องนั่งสมาธิไปเห็นเองเท่านั้น
5. ธรรมนิยาม คือ กฎที่ว่าด้วยเรื่อเหตุและผล (law of cause and effect)
หากจะขยายให้กว้างขึ้นจะครอบคลุมทั้ง 4 กฎ ข้างต้นด้วย
เราจะเห็นว่ากฎแห่งกรรมลึกซึ้งมาก รวมทั้งเรื่องของจิตก็เป็น 1 ใน 5 ของนิยาม ดังนั้น จิตจริงๆ แล้วซับซ้อนทีเดียว
จิตดวงกลมๆ ขนาดเท่าไข่แดงของไข่ไก่แต่ซับซ้อนมาก หากฝึกจิตดีๆ ก็จะนำพาเราไปสู่นิพพาน มีความสุขเป็นอนันต์ได้ทุกเมื่อ ในทางตรงกันข้าม ดวงจิตที่ไม่ดีก็จะนำพาเราลงอเวจีมหานรกได้เช่นกัน
จิตดวงน้อยๆ ทำไมถึงลึกซึ้งขนาดนี้ บรรจุหน่วยความจำมากมายยิ่งกว่าซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ เรื่องราวที่เกิดขึ้นในอดีตทั้งหมดถูกบันทึกไว้ในจิต ไม่ว่าจะย้อนกลับไปนานกี่อสงไขยชาติก็ตามจิตจะระลึกได้ ไม่ต้องไปดูที่ไหนไกลเลย ดูในดวงจิตเราจะเห็นทุกอย่าง
เพราะฉะนั้น อย่ามัวแต่เสียเวลาทำความเข้าใจด้วยสมอง ให้รู้เพียงว่าจิตนั้นลึกซึ้ง แล้วนั่งหลับตาทำสมาธิไปดูด้วยดวงตา ใช้ญาณทัศนะด้วยธรรมจักขุอย่างนี้จะเข้าใจได้แจ่มแจ้งชัดเจนขึ้น
ส่วนบางคนถึงแม้จะได้ฟังธรรมะดีๆ แต่ใจชอบคิดว่าตนเองยังทำไม่ได้ มีอุปสรรคเป็นตัวขวาง มีกิเลสเป็นแขกมาเยือน จิตมนุษย์นี้เดิมประภัสสรแต่ถูกกิเลสจรมาบดบังทำให้เสื่อมคุณภาพลง
ดังนั้น หน้าที่ของเรา คือ ทำให้กิเลสอ่อนกำลังลงจนหมดไปในที่สุด ใจเราก็จะสดใสสว่างไสวตามสภาพเดิม แล้วเราจะสามารถทำสิ่งที่ตั้งใจไว้ได้
สรุปว่าการจะทำกิเลสให้หมดไปนั้นต้องประกอบด้วยการให้ทาน รักษาศีล เจริญภาวนา
เจริญพร.
โฆษณา