9 ธ.ค. เวลา 06:32 • ความคิดเห็น
เรื่องของสติ ..มันเป็นเรื่องในตัวตน เรื่องของจิตที่อารมณ์ในตัวตน เรื่องที่เราใช้กายวาจาใจ มีวิญญาณทั้งหก ไปเอาเรื่องข้างนอกมาสู่ข้างในกาย เป็นบุญอารมณ์ต่างๆ มีขันธ์ห้าเปลี่ยนแปลง ..ไปตามอารมณ์ มีความนึกคิดเรื่องต่างเปลี่ยนแปลง สิ่งทั้งหลายที่ไหลเข้า เป็นตัวรู้ที่เกิดขึ้นภายใต้กาย จิตก็ไปยึดหลงใหลตัวรู้ ..เช่น รู้ว่าเจ็บ ก็ยึดตัวรู้นั้น ..ตัวรู้ที่ไหลออกจากจากธาตุทั้งสี่ เป็นอารมณ์กรรม ปรุงแต่งไปทั่วเรื่อนกาย ทั้งสมองและหัวใจ ถูกปกคลุมไปหมด
..แม้แต่สติ ..อารมณ์ก็ยังยึดครองไป หัวใจก็ยังเต้น พรึ่บพับไปตามกระแสอารมณ์ มีหน้ามือตายลาย เลือดลมติดขัดไปทั่วสารพางค์ ..และสตินั้น ก็จมอยู่กับอารมณ์นึกคิด จิตก็หลับไหลไปตามอารมณ์ เห็นคนโกรธ มาว่าเรา เราก็โกรธตอบ ก็หลงเข้าใจว่า มีสติสัมปชัญญะ .. สตินั่นเป็นของอารมณ์หรือของจิต
แต่ก็นั้น แหละ เพื่อจะให้สติขิงเราเข้มแข็งต่ออารมณ์ เค้าจึงว่า มาทางนี้ ฝึกหัดทำกายให้นิ่ง จิตให้นิ่ง เพื่อที่เราจะได้นำไปใช้ ในชีวิตประจำวัน ต้องมีอารมณ์ต่างเกิดขึ้น หากเราฝึกให้กายนิ่งเฉย จิตนิ่งเฉยได้ เมื่อเราประสบกับอารมณ์คนนั้นคนนี้ เราก็หยุดที่กายนิ่งจิตนิ่ง นิ่งเพื่อที่รู้เท่าอารมณ์ตัวเอง แล้วก็ละอารมณ์นั้นออกไป จิตเราก็ไม่เป็นทาสของอารมณ์กรรม
1
เรื่องราวพวกนี้ แล้วพูดมันง่าย แต่ทำจิตทำใจมันยาก ยิ่งไม่เคยสนใจฝึกหัด สร้างบุญกุศลดีๆ..มันก็เป็นไปไม่ที่จิตนั้น จะเข้าไปเรียนรู้จักเรื่องภายในกายที่จิตตนอาศัย ..ขึ้นมาได้ พอนั่งหลับตา ..มันก็มืดตื้อไปหมดแล้ว ..
โฆษณา