Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Health Story - เฮ้วนี้มีเรื่อง
•
ติดตาม
9 ธ.ค. 2024 เวลา 07:48 • สุขภาพ
เปิดผลตรวจร้านนวด "ผิง ชญาดา" ยังไม่พบหมอนวดคู่กรณี หมอเตือนหมอนกระดูกคอเสื่อม ห้ามนวดบิดคอ!!
จากกรณี “ผิง ชญาดา” นักร้องสาวเสียชีวิต ซึ่งก่อนหน้านี้มีการโพสต์ว่า ไปใช้บริการนวด มีการนวดบิดคอ ทำให้อาการไม่ดี ป่วยติดเตียง และเสียชีวิต ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่า การนวดมีความเสี่ยงต่อร่างกายหรือไม่ ขณะที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.)อุดรธานี ลงพื้นที่ตรวจสอบร้านนวดที่ผิง ชญาดาไปใช้บริการ และจะแถลงวันที่ 9 ธ.ค. 2567
เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. นพ.สมชายโชติ ปิยวัชร์เวลา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอุดรธานี แถลงข่าวว่า ทีมเจ้าหน้าที่ สสจ.อุดรธานี ได้ร่วมแสดงความเสียใจและพูดคุยกับญาติ ได้รับข้อมูลเพิ่มเติมเป็นไปตามที่สื่อมีการนำเสนอ คือ ผู้ป่วยเข้ารักษาในวันที่ 5 ต.ค. มีอาการเริ่มต้นปวดคอ บ่า ไหล่ ได้ไปนวดที่ร้านหนึ่ง โดยระบุว่ามีการนวดบิดคอ จากนั้นเริ่มปวดท้ายคอ ชาแขน และกลับไปนวดร้านเดิมคนเดิม
ต่อมา 2 สัปดาห์อาการไม่ดีขึ้น และไปนวดร้านเดิม กระทั่งเข้ารับการรักษาตัวที่ รพ.อุดรธานี ได้นอนรพ. แผนกกระดูกและข้อ ระหว่างวันที่ 6-11 พ.ย. โดยแพทย์ตรวจสอบพบว่า แขนขาอ่อนแรง มีการเจาะหลังจนทราบว่า เป็นไขสันหลังอักเสบ ได้ให้ยาตามหลักวิชาชีพ จากนั้นอาการเริ่มดีขึ้น จึงกลับไปพักที่บ้าน แต่วันที่ 18 พ.ย. ญาติพบว่าผู้ป่วยมีอาการเกร็ง กระตุก กระทั่งเข้าไอซียู และเป็นไปตามข่าว ได้เสียชีวิตด้วยการติดเชื้อในกระแสโลหิต
ส่วนเรื่องร้านนวดได้ลงพื้นที่ตรวจสอบร้านนวดต่างๆ มี 14 ร้าน ตั้งอยู่บริเวณสวนสาธารณะหนองประจักษ์ ในอุดรฯ โดยทางเทศบาลเมืองอุดรธานีเป็นผู้ให้เช่า จากการตรวจสอบร้านที่คาดว่าเป็นร้านนวดให้กับผู้ป่วย พบว่า ร้านขึ้นทะเบียนถูกต้อง หมอนวดที่มี 7 คนผ่านการอบรมตามหลักสูตรและได้ใบรับรอง
การนวดมี 2 ประเภท คือ 1.นวดเพื่อสุขภาพ นวดผ่อนคลาย สถานประกอบการสามารถยื่นมาจดแจ้ง เพื่อขึ้นทะเบียนได้ เป็นการนวดทั่วไป ซึ่งต้องผ่านการอบรมหลักสูตรไม่น้อยกว่า 150 ชั่วโมง ซึ่งการนวดเพื่อสุขภาพ ไม่มีการบิดคอ-สะบัดคอในหลักสูตร แต่จะมีการทำนอกเหนือจากที่กำหนดหรือไม่ ต้องตรวจสอบ และผู้ประกอบการต้องกำกับดูแล
2.นวดแพทย์แผนไทย มีการอบรมหลักสูตรอย่างน้อย 372 ชั่วโมง ถือเป็นวิชาชีพ ต้องได้รับใบประกอบวิชาชีพจากสภาวิชาชีพแพทย์แผนไทย
กรณีที่ลงไปตรวจสอบเข้าข่ายสถานประกอบการนวดเพื่อสุขภาพหรือนวดผ่อนคลาย ส่วนมีการทำนอกเหนือจากการอบรมตามหลักสูตร เป็นไปตามมาตรฐานหรือไม่ ต้องตรวจสอบอีกครั้ง ขณะนี้ญาติได้แจ้งความแล้วเพื่อพิสูจน์ทราบต่อไปว่าเกี่ยวข้องหรือไม่อย่างไร ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขพร้อมให้ความร่วมมือ ซึ่งทางการแพทย์ หากหาสาเหตุแล้วเป็นที่สงสัยก็ต้องพิสูจน์ ส่วนจะชันสูตรอยู่ที่ญาติในการพิจารณา
นพ.สมชายโชติ ปิยวัชร์เวลา
เมื่อถามว่า การดัดคอ ดัดกระดูก มีข้อห้ามชัดเจนหรือไม่ นพ.สมชายโชติ กล่าวว่า ในหลักสูตรไม่มีการสอนเรื่องนี้ ทั้งนี้ การนวดจะมี นวดราชสำนัก ใช้แค่อุ้งมือ ฝ่ามือ แต่นวดเชลยศักดิ์ จะใช้ศอก เข่า ดัด ซึ่งจะพบในหมอพื้นบ้าน แต่ในหลักสูตรอบอรมที่เป็นข้อกำหนดทางกฎหมายเป็นนวดราชสำนัก อย่างไรก็ตาม ขอฝากประชาชน การเข้ารับการนวดต้องสังเกตว่าเป็นร้านที่ใบจดแจ้ง และหมอนวดต้องผ่านการอบรม ที่สำคัญต้องไม่ให้นวดดัดคอ หรืออย่าไปรีเควสขอนวดดัดเอง เพราะบางคนชอบการนวดแรงๆ
“การดัดกระดูก จะเป็นวิชาชีพเฉพาะ เข้าวิชาชีพ เป็นในส่วนหมอกระดูก ก่อนจะทำต้องให้คนไข้เซ็นยินยอม ซึ่งไม่ใช่ทำกันง่ายๆ แต่สถานประกอบการนวดทั่วไป จะเป็นนวดเพื่อสุขภาพ ไม่สามารถทำแบบนี้ได้ การเรียนมาเท่าไหร่ขอให้ใช้ความรู้ตามที่เรียนมา เพราะมีบางคนเรียนมาเท่านี้ แต่พอมาทำก็อยากลองแบบอื่น ซึ่งตรงนี้อันตราย” นพ.สสจ.อุดรธานี กล่าว
เมื่อถามว่าต้องสั่งปิดร้านนวดชั่วคราวหรือไม่ นพ.สมชายโชติ กล่าวว่า การจะสั่งปิดได้ ต้องหมายถึงไม่ได้มาตรฐาน ไม่ทำตามข้อกำหนด แต่เบื้องต้นที่ไปตรวจสอบร้านนี้ ยังไม่พบประเด็นดังกล่าว แต่ในเรื่องที่เป็นข่าว ก็จะต้องพิสูจน์ทราบต่อไป ซึ่งญาติได้แจ้งความแล้ว หากพิสูจน์ทราบว่าเกี่ยวข้องการนวด ก็อาจต้องผ่าชันสูตรต่อไป
เมื่อถามว่าขณะนี้พบหมอนวดที่นวด ผิง ชญาดา หรือยัง นพ.สมชายโชติ กล่าวว่า ยังไม่ทราบ เหตุการณ์ผ่านมาเกือบ 2 เดือน ข้อมูลที่ไปซักถาม ทางร้านก็ตอบได้ประมาณหนึ่ง และไปๆมาๆ คนนวดสวมหน้ากากอนามัยอีก
ขณะที่ นพ.เทวัญ ธานีรัตน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า การนวดไทยเป็นกระบวนการดูแลสุขภาพ ที่ต้องมีหลักการหรือองค์ความรู้ในการนวดตามแนวเส้นประธานสิบ ซึ่งจะช่วยให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย บรรเทาอาการปวดเมื่อย สำหรับการนวดไทย แบ่งออกเป็น 2 ระดับ คือ การนวดเพื่อผ่อนคลาย หรือนวดเพื่อสุขภาพ และ การนวดเพื่อการรักษา ประกอบด้วย
1.หลักสูตรนวดเพื่อสุขภาพ 150 ชั่วโมง กลุ่มนี้จะไม่มีการบิด ดัด เป็นการนวด คอ บ่า แขน ขา สะบักและหลัง วัตถุประสงค์เพื่อบรรเทาอาการปวดเมื่อยและผ่อนคลายกล้ามเนื้อ
2. หลักสูตรการนวดเพื่อการรักษา เป็นหลักสูตรการเรียนตั้งแต่ 330 ชั่วโมง 372 ชั่วโมง 800 ชั่วโมง และ 1,300 ชั่วโมง เพื่อบำบัดรักษาแต่ละกลุ่มอาการ เช่น กลุ่มปวดกล้ามเนื้อ นิ้วล๊อค หัวไหล่ติด เข่าเสื่อม อัมพฤกษ์ อัมพาต เป็นต้น
ผู้ให้บริการด้านการนวดมี 3 ประเภท คือ
1) ให้บริการนวดเพื่อสุขภาพ (หมอนวด) เรียน 150 ชั่วโมง อยู่ในกำกับของกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) และผ่านพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ปฏิบัติงานในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ร้านนวดเพื่อสุขภาพ และสปา
นพ.เทวัญ ธานีรัตน์
2) ผู้ช่วยแพทย์แผนไทย เรียนตั้งแต่ 330 ชั่วโมง 372 ชั่วโมง 800 ชั่วโมง และ 1,300 ชั่วโมง อยู่ในกำกับของสภาการแพทย์แผนไทย ปฏิบัติงานในโรงพยาบาล และคลินิก ทั้งภาครัฐและเอกชน
3) แพทย์แผนไทย/แพทย์แผนไทยประยุกต์ ที่มีใบประกอบวิชาชีพ จากสภาการแพทย์แผนไทย ปฏิบัติงานในโรงพยาบาล และคลินิกทั้งภาครัฐและเอกชน
ข้อห้ามและข้อควรระวังในผู้ให้บริการ คือ
ข้อห้าม ได้แก่ 1.ห้ามนวดบริเวณที่เป็นมะเร็ง 2.ผู้ที่มีไข้สูงเกิน 38.5 องศา 3.บริเวณที่มีอาการอักเสบ บวม แดง ร้อน 4. ผู้ที่มีภาวะการแข็งตัวของเลือดผิดปกติ 5.กระดูกแตก หัก ปริ ร้าว ที่ยังไม่หายดี และ 6. โรคติดเชื้อทางผิวหนังทุกชนิด
ข้อควรระวัง ได้แก่ 1.สตรีมีครรภ์ 2.ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง 3.ใส่อวัยวะเทียมหลังผ่าตัดกระดูก 4.ผู้ที่มีภาวะกระดูกพรุน กระดูกบาง และ 5.ผู้ที่เพิ่งรับประทานอาหารอิ่มใหม่ ๆ (ไม่เกิน 30 นาที) และก่อนให้บริการนวดไทย
ด้าน ผศ.นพ.ปิลันธน์ ใจปัญญา แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมออร์โธปิดิกส์ โรคกระดูกคอและสันหลัง ศูนย์รักษาโรคกระดูกและข้อแบบองค์รวม โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ (PRINCE OF BONES) กล่าวว่า แม้ตอนนี้จะยังไม่สรุปสาเหตุที่แน่ชัด แต่กรณีการนวดบิดหรือสะบัดคอโดยคนอื่นที่ไม่ใช่ตัวเรามีโอกาสที่จะใช้แรงมากกว่าปกติ และส่งผลให้กระดูกคอมีโอกาสเคลื่อนได้
มีความเป็นไปได้ว่า กระดูกคอที่เคลื่อนจะนำไปสู่ ภาวะกดทับเส้นประสาท ในกระดูกคอที่ 3 ถึง 5 (C3-C5) หากกระทบกระเทือนรุนแรง เช่น ในเคสผู้ป่วยอุบัติเหตุ อาจผลต่อการหายใจที่ผิดปกติ กระทบต่อการควบคุมการหายใจส่วนกระบังลม เช่น เหนื่อย หายใจได้ไม่เต็มที่ หรือหายใจด้วยตัวเองไม่ได้ และหากมีอาการแทรกซ้อนร่วมด้วย มีโอกาสรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต
บริเวณต้นคอ ถือเป็นศูนย์รวมของอวัยวะสำคัญ มีเส้นเลือดและเส้นประสาทที่มีความสำคัญ หากมีอาการเจ็บปวด หรือปวดเมื่อย การส่งต่อไปกายภาพบำบัดก็ต้องอยู่ภายใต้กำกับดูแลของแพทย์และบุคลากรการแพทย์ ซึ่งการบิดคอ หรือสะบัดคอโดยตัวเราเอง ร่างกายของเราจะรู้ลิมิต
ผศ.นพ.ปิลันธน์ ใจปัญญา
แต่เมื่อไรก็ตามการบิดคอหรือสะบัดคอจากบุคคลอื่น แรงที่กดอาจจะมีความแตกต่างกัน แต่ถ้ามีการจับกดหรือใช้แรงมากจนกระดูกเคลื่อนหรือมีภาวะอาการแทรกซ้อน อาจส่งผลต่อระบบประสาท ส่งผลไปยังการควบคุมภาวะการหายใจหรือกล้ามเนื้อส่วนอื่นๆ อาจกลายเป็นอัมพฤกษ์ อัมพาตได้
ผศ.นพ.ปิลันธน์ กล่าวว่า ในกรณีผู้ป่วยที่มีอาการปวดเมื่อยคอ แล้วใช้วิธีทางเลือก เช่น นวดบิดหรือสะบัดคอ ต้องระมัดระวังโดยเฉพาะในเคสที่มีภาวะเสื่อมของหมอนรองกระดูกคอ ซึ่งเกิดได้ตามวัยทั้งจากการก้มเงยคอบ่อย เมื่อมีภาวะเสื่อมมีอาการปวดเมื่อย ไม่แนะนำให้นวดหรือบิดคอ
เพราะโดยปกติคอของคนเรามีข้อกระดูก 7 ข้อ โดยข้อที่ 1-2 ที่สามารถหมุนได้เยอะกว่า ส่วนข้ออื่นๆหมุนได้ในองศาน้อยกว่า จึงไม่ควรบิดหรือหมุนโดยเฉพาะจากบุคคลอื่นอย่างเด็ดขาด แล้วยิ่งในกรณีที่มีความเสื่อมของหมอนรองกระดูกคอด้วยแล้ว ยิ่งเสี่ยงได้รับผลกระทบถึงแก่ชีวิตได้
#นวดบิดคอ #สะบัดคอ #นวดหักคอ #ผิงชญาดา
สุขภาพ
ไลฟ์สไตล์
ข่าว
บันทึก
3
3
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย