พญ.ศรัญญา ยุทธโกวิท นายแพทย์ชำนาญการพิเศษ สถาบันประสาทวิทยา กรมการแพทย์ กล่าวว่า ต้นคอเป็นศูนย์รวมของอวัยวะสำคัญ มีเส้นเลือดใหญ่เลี้ยงสมองส่วนหน้า กระดูกต้นคอจึงมีความสำคัญมาก แม้แต่การกายภาพบำบัดที่บริเวณต้นคอ ต้องอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของแพทย์ ต้องมีการประเมินเป็นระยะ เพราะหากมีการจับกด หรือใช้แรง อาจกระทบต่อหลอดเลือดได้ การนวดที่บริเวณต้นคอ หากผิดพลาด หรือแรงไป อาจส่งผลให้หลอดเลือดบริเวณต้นคอฉีกขาด กลายเป็นอัมพฤกษ์ อัมพาตได้ เหตุการณ์พบได้ในคนที่มีอายุน้อย 20-30 ปี ก็เคยพบมาแล้ว และเป็นข่าวที่สถาบันประสาทฯ ต้องออกมาเตือนถึงการนวด
ส่วนกรณีรายที่เสียชีวิตนั้น จากการดูฟิล์มเอกซเรย์ของผู้เสียชีวิตจากข่าว คาดว่ามีภาวะหมอนรองกระดูกคอเสื่อมอยู่ก่อนแล้ว และภาวะหมอนรองกระดูกคอเสื่อมยังพบได้ในคนอายุ 40-50 ปีขึ้นไป ยิ่งเมื่อมีการนวดมาประกอบกันกับภาวะความเสื่อมของหมอนรองกระดูกคอ อาจกดทับเส้นประสาทที่มีการเชื่อมต่อ ส่งผลไปไขสันหลัง
พญ.ศรัญญา กล่าวอีกว่า ความเสื่อมของหมอนรองกระดูกคอ เป็นไปตามวัย เกิดจากการก้มเงย ใช้คอบ่อย เมื่อมีภาวะเสื่อม มีอาการปวดเมื่อย แต่ไม่แนะนำให้การนวดหรือบิดคอ เพราะโดยปกติ คอของคนเรา มีข้อกระดูก 7 ข้อ และมีแค่ข้อที่ 1-2 ที่สามารถหมุนได้ 150 องศา ส่วนข้ออื่นๆ ของกระดูกต้นตอ 50-60 องศา เท่านั้น ฉะนั้นไม่ควรบิดหรือหมุนอย่างเด็ดขาด มิเช่นนั้นอาจเสี่ยงได้รับผลกระทบถึงแก่ชีวิตได้
ด้าน ทพ.อาคม ประดิษฐ์สุวรรณ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กล่าวว่า เพิ่งทราบข่าวเรื่องการนวดที่มีคนเสียชีวิต ขณะนี้อยู่ระหว่างให้เจ้าหน้าที่ของกรมฯ ตรวจสอบว่า ร้านนวดดังกล่าวมีการขออนุญาตถูกต้องหรือไม่ โดยปกติ ร้านนวดแพทย์แผนไทย อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกรม สบส. แต่ใช้กฎหมายของ พ.ร.บ.สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ โดยในพื้นที่ต่างจังหวัด ต้องมีการขออนุญาตกับทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด
สำหรับสิ่งที่จะมีการตรวจสอบ คือ การนวดที่เกิดขึ้นถูกต้องตามแบบแผนการนวดหรือไม่ เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบันมักมีการประยุกต์นวดในรูปแบบที่หลากหลาย ไม่ได้เป็นไปตามมาตรฐาน หรือการนวดทำให้ผู้รับบริการได้รับบาดเจ็บหรือไม่