อาหารแห้งมอบให้ชาวเกาะสะท้อน จ.นราธิวาส
รองผู้บังคับการตำรวจน้ำฝ่ากระแสน้ำซับน้ำตาชาวเกาะ ที่อดอาหารนานกว่าสัปดาห์ พร้อมรับคนไทยตกค้างในมาเลย์
สำหรับความคืบหน้าเกี่ยวกับสภาวะน้ำท่วมจากพื้นที่ จ.นราธิวาส แจ้งว่า หลังจากที่ พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รองผู้บังคับการตำรวจน้ำ ปฏิบัติหน้าที่รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจน้ำ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ปรเมษฐ โพยนอก ผู้กำกกับการ 7 กองบังคับการตำรวจน้ำ และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำจำนวนหนึ่ง
ได้นำข้าวสาร อาหารแห้งและน้ำดื่ม ลงเรือไปให้การช่วยเหลือชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ 3 หมู่บ้าน คือ บ้านตะเหลียง ม.4 บ้านจาแบปะ ม.7 และบ้านราญอ ม.8 ต.เกาะสะท้อน อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ได้รับแจ้งจากชาวบ้าน จำนวน 1,600 ครัวเรือน รวม 8,000 คน ได้รับความเดือดร้อนจากการขาดแคลนอาหารบริโภค โดยเฉพาะชาวบ้านตะหลียง ซึ่งขณะนี้มีสภาพเป็นเกาะล้อมรอบไปด้วยปริมาณน้ำท่วมขังถนน ซึ่งมีความสูงโดยประมาณกว่า 1 เมตร. ที่ชาวบ้านไม่สามารถสัญจรไปมาสู่โลกภายนอกได้ และเริ่มขาดแคลนอาหารบริโภคประทังชีวิตมานานเกือบ 1 สัปดาห์แล้ว
ซึ่งการเดินทางของ พ.ต.อ.พรศักดิ์ รองผู้บังคับการตำรวจน้ำ ปฏิบัติหน้าที่รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจน้ำ พร้อมพวกยังถือโอกาสนำเครื่องอุปโภคบริโภคและน้ำดื่มจำนวนหนึ่ง ไปแจกจ่ายให้กับประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วม ที่ อาศัยอยู่ภายในศูนย์พักพิงชั่วคราว ของศูนย์การศึกษาอิสลาม ประจำมัสยิดตาดีกานูรุลญาดีดในครั้งนี้ด้วย
และก่อนที่จะนั่งเรือกลับที่ตั้ง ได้รับประสานการขอความช่วยเหลือ จากเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองด่านเปิงการังกูโบว์ อ.ตุมปัต รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย เพื่อขอสนับสนุนมารับคนไทย จำนวน 7 ราย ที่ตกค้างไม่สามารถเดินทางกลับประเทศไทยได้ เนื่องจากกระแสน้ำเชี่ยวกรากจนเรือโดยสารรับจ้างงดออกให้บริการวิ่งรับส่งผู้โดยสาร โดยที่คนไทยทั้ง 7 คน จำเป็นต้องนอนพักค้างแรมที่ด่านเป็นเวลานานกว่า 3 วันแล้ว
พ.ต.อ.พรศักดิ์ รองผู้บังคับการตำรวจน้ำ ปฏิบัติหน้าที่รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจน้ำ จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ไปรับคนไทยทั้ง 7 คน กลับมายังฝั่งไทย เพื่อจ๊อบพาสปอร์ตก่อนที่จะเดินทางกลับภูมิลำเนาด้วยความดีอกดีใจ
แต่ถึงอย่างไรก็ตามจากสถานการณ์น้ำท่วมขังในครั้งนี้ ได้มีชาวบ้านจำนวนหลายร้อยครัวเรือน ได้อพยพมาอาศัยอยู่ชั่วคราวในเต็นท์ที่ริมถนนสายสุไหงโก-ลก ตากใบ ซึ่งมีระยะทางยาวกว่า 3 ก.ม. แถมยังสัตว์เลี้ยง จำพวก วัว และควาย จำนวนหลายร้อยตัว มาอาศัยอยู่ที่บริเวณใกล้เคียง เจ้าหน้าที่จึงได้ฝากเตือนประชาชนที่ใช้รถใช้ถนนสายดังกล่าว ให้เพิ่มความระมัดระวังโดยเฉพาะเวลากลางคืน อาจเกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้นได้
ภาพสุดประทับใจชาวไทยมาเลเซียช่วยเหลือทารกน้อย
เจ้าหน้าที่เผยว่า น้ำท่วมครั้งใหญ่ที่เกิดจากฝนตกหนักในมาเลเซียและประเทศเพื่อนบ้านอย่างไทย ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 12 ราย
BBC รายงานว่า ประชาชนมากกว่า 122,000 คนถูกบังคับให้ออกจากบ้านเรือนในภาคเหนือของมาเลเซีย ขณะที่ทางภาคใต้ของไทยมีผู้ต้องอพยพอีกราว 13,000 คนเช่นกัน
มีการคาดการณ์ว่าจำนวนผู้ประสบภัยอาจเพิ่มขึ้น เนื่องจากยังคงมีการเตือนภัยฝนตกหนักและพายุ
เจ้าหน้าที่บริการฉุกเฉินได้ถูกส่งไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ติดค้างและกำลังจัดหาที่พักพิง
น้ำท่วมซึ่งเริ่มขึ้นเมื่อต้นสัปดาห์ทำให้ประชาชนหลายพันคนในทั้งสองประเทศต้องอพยพ
วิดีโอบนโซเชียลมีเดียและข่าวท้องถิ่นแสดงให้เห็นรถยนต์และบ้านเรือนจมอยู่ใต้น้ำ และผู้คนต้องลุยน้ำที่ลึกถึงเอว
วิดีโอหนึ่งซึ่งถ่ายทำในอำเภอสะเตงนอกของไทย แสดงให้เห็นเจ้าหน้าที่กู้ภัยอุ้มเด็กทารกออกมาจากหลังคาบ้านที่ถูกน้ำท่วม
เจ้าหน้าที่กู้ภัยเผยว่า น้ำท่วมส่งผลกระทบต่อครัวเรือนเกือบ 534,000 หลังคาเรือนในภาคใต้ของประเทศไทย และโรงพยาบาล 2 แห่งต้องปิดให้บริการเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำท่วมสร้างความเสียหายต่อสถานพยาบาล
มี 6 จังหวัดประกาศเป็นภัยพิบัติจากน้ำท่วม
รัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณ 50 ล้านบาท (1.7 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 1.3 ล้านปอนด์) เพื่อบรรเทาทุกข์จากน้ำท่วมสำหรับแต่ละจังหวัด โดยนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร กล่าวว่าเป้าหมายคือ “ฟื้นฟูสภาพปกติให้เร็วที่สุด”
ในมาเลเซีย น้ำท่วมส่วนใหญ่เกิดขึ้นในรัฐกลันตันทางตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งติดกับประเทศไทย
สำนักงานจัดการภัยพิบัติแห่งชาติระบุว่า ผู้อพยพคิดเป็น 63% ของจำนวนทั้งหมด
ผู้อยู่อาศัยรายหนึ่งในเมืองปาซีร์ปูเตห์ รัฐกลันตัน กล่าวว่าพื้นที่ของเธอถูกน้ำท่วมตั้งแต่วันพุธ
“น้ำได้ท่วมบริเวณทางเดินบ้านของฉันแล้ว และเหลือเพียง 2 นิ้วเท่านั้นที่จะเข้ามาข้างในบ้าน” ซามราห์ มาจิด กล่าวกับสำนักข่าวเอเอฟพี
ชาวเมืองเดียวกันอีกรายหนึ่งกล่าวว่าเขาและครอบครัวถูกแยกจากกันเนื่องจากน้ำท่วม
“ไม่มีทางเข้าหรือออกสำหรับยานพาหนะใดๆ ที่จะเข้ามาในละแวกบ้านของผม” มูฮัมหมัด ซุลการ์ไนน์ กล่าวกับเอเอฟพี
รัฐอื่นๆ อีกแปดแห่งในมาเลเซียได้รับผลกระทบเช่นกัน
จนถึงขณะนี้ จำนวนผู้พลัดถิ่นฐานสูงกว่าปี 2014 ซึ่งเกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในประเทศ
สำนักงานนายกรัฐมนตรีระบุว่าได้ส่งข้อกำหนดสำหรับการจัดการภัยพิบัติไปยังรัฐบาลรัฐตรังกานูและกลันตันแล้ว
เมื่อวันศุกร์ เขาได้ห้ามสมาชิกคณะรัฐมนตรีลาออกเพื่อให้พวกเขาสามารถมุ่งความสนใจไปที่ภัยพิบัติได้
กรมอุตุนิยมวิทยามาเลเซียเตือนว่าจะมีฝนตกหนักต่อเนื่องไปจนถึงวันอาทิตย์ในบางรัฐ ในขณะที่กรมอุตุนิยมวิทยาของไทยเตือนว่า “ฝนตกหนักมาก” อาจต่อเนื่องไปจนถึงสัปดาห์หน้า
ทั้งสองประเทศประสบกับฝนมรสุมในช่วงเวลานี้ของปี และน้ำท่วมก็ไม่ใช่เรื่องแปลก
ในปี 2021 มาเลเซียต้องเผชิญกับอุทกภัยครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบหลายทศวรรษ ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไปอย่างน้อย 14 ราย
ก่อนหน้านี้ 10 ปี ในปี 2011(2554) อุทกภัยครั้งใหญ่ทั่วไทยคร่าชีวิตผู้คนไปอย่างน้อย 500 ราย และสร้างความเสียหายให้กับบ้านเรือนหลายล้านหลัง
#นราธิวาส #ยะลา #ปัตตานี #สามจังหวัดภาคใต้ #น้ำท่วม #น้ำใจคนไทย
เรียบเรียงโดย อาจารย์ต้นสัก สนิทนาม
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
