10 ธ.ค. เวลา 07:17 • ข่าวรอบโลก

"Disease X" ระบาดคองโก น่ากังวลแค่ไหน

สำนักข่าว Bloomberg รายงานการระบาดของโรคที่ยังระบุไม่ได้ในคองโก โดยมีชื่อเล่น ณ ขณะนี้ว่า Disease X โดยเบื้องต้นคาดว่า เป็นเชื้อในกลุ่ม respiratory RNA virus แต่ยังไม่สามารถระบุชนิดที่จำเพาะได้
3
จากการเก็บข้อมูลในประเทศ Democratic Republic of the Congo ตั้งแต่วันที่
24 ตุลาคม - 5 ธันวาคม 2024 พบจำนวนผู้ป่วยทั้งสิ้น 406 มีผู้เสียชีวิตจำนวน 31 ราย มีอัตราการเสียชีวิต (Case Fatality Ratio : CFR) อยู่ที่ 7.6-10 %
2
ตัวเลขนี้น่าสนใจตรงที่ เมื่อเทียบกับโควิด 19 ที่มีการระบาดในช่วงที่ผ่านมา โควิดมีค่า CFR อยู่ที่ประมาณ 1% ในขณะที่โรคระบาดในระบบทางเดินหายใจอื่นๆอย่าง ไข้หวัดใหญ่ มีค่าอยู่ที่ 0.48% มันแสดงว่า เจ้า Disease X ดังกล่าว มีอัตราการตายมากกว่าโควิด 10 เท่า และมากกว่าไข้หวัดใหญ่ 20.8 เท่าเลยทีเดียว
1
อาการส่วนใหญ่ของผู้ป่วยคืออาการด้านระบบทางเดินหายใจ เช่น ไข้ ปวดศีรษะ น้ำมูก ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ และเนื่องจากมีอาการทางระบบทางเดินหายใจเป็นหลัก น่าจะมีการระบาดได้ง่ายและมีรายงานการแพร่กระจายโรคในครอบครัว
Disease X มีอัตราการเสียชีวิตสูงในกลุ่มผู้ป่วยเด็ก โดยเฉพาะเด็กที่มีสภาวะขาดอาหาร ที่น่าจะเสียชีวิตง่ายอยู่แล้ว ทั้งนี้ก็เนื่องมาจากสถานการณ์ในคองโกเอง
หลังผ่านสงครามกลางเมือง 2 ครั้ง คองโกแทบกลายเป็นรัฐล้มละลาย ภัยพิบัติด้านสิทธิมนุษยชน ความอดอยาก กระจายไปทั่ว ซากสัตว์ตายเพราะอดอาหารและน้ำ เป็นสิ่งที่พบเห็นได้ทั่วไป
แม้ผ่านความขัดแย้งใหญ่มาได้ คองโกก็ต้องเผชิญกับสงครามครั้งใหม่โดยกลุ่มกบถ M23 ซึ่งเป็นกบถชาวทุซซี ที่ฝ่ายรัฐบาลคองโกอ้างว่าได้รับการสนับสนุนจากกประเทศคู่ขัดแย้งจากสงครามครั้งก่อนอย่างยูกันดา
1
การต่อสู้ที่ยาวนานยืดเยื้อ ทำให้ชาวคองโกขาดแคลนปัจจัยพื้นฐานในการดำรงชีวิต ภาพเด็กพุงโลก้นป่องเพราะขาดสารอาหารเป็นภาพที่ชินตาบนเวทีโลก นั่นทำให้เมื่อเกิดโรคระบาดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นในอดีตอย่าง มาลาเรีย ไทฟอยด์ โควิด รวมถึงล่าสุดอย่าง Disease X ทำให้ชาวคองโก แทบไม่มีความสามารถในการต้านทานต่อโรคระบาดเหล่านี้เลย
สิ่งนี้จะยิ่งเป็นผลเสีย เพราะหาก Disease X สามารถแพร่ระบาดในวงกว้างได้จริง ภูมิภาคดังกล่าวจะไม่ต่างอะไรจากแหล่งเพาะเชื้อ อันเนื่องจากระบบสาธารณสุขที่ล้มเหลว เหมือนที่เคยเกิดขึ้นกับโควิด 19 ที่การกลายพันธุ์ของเชื้อมักเกิดขึ้นในภูมิภาคนี้ เนื่อจากเชื้อเข้าไปสู่โฮสต์ที่มีโรคแทรกซ้อนอื่นๆ เช่น HIV เป็นต้น
4
อีกหนึ่งความน่าขนลุกคือ หากย้อนไปเมื่อช่วงเดือนธันวาคม 5 ปีก่อน ใครที่พอจำกันได้น่าจะทราบว่า ช่วงเวลานี้คือครั้งแรกที่โลกได้รู้จักโรคระบาดประหลาด ที่ต่อมาจะกลายเป็น "Covid-19" โดยเริ่มมาจากข่าวที่บอกว่าพบชายคนนึงมีอาการป่วยเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ก่อนที่ภายหลังจะมีการยืนยันว่านั่นคือเคสแรกที่ติดเชื้อ ก่อนที่ภายหลังจะแพร่กระจายไปทั่วโลกอย่างรวดเร็ว มีคนติดเชื้อหลายล้านคน และก็ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงมากมายหลายอย่าง
และในตอนนั้น โควิดก็ยังเป็น unknown respiratory disease เหมือนกันกับ Disease X อีกด้วย
อ้างอิง
โฆษณา