10 ธ.ค. 2024 เวลา 08:36 • ประวัติศาสตร์

คำขอโทษของทหารญี่ปุ่น

วันที่ 19 พฤษภาคม ค.ศ.2005 (พ.ศ.2548) ชายชราผู้หนึ่งเดินขึ้นมาบน “สะพานหลูโกว (Lugou Bridge)” ซึ่งตั้งอยู่ในกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน
เมื่อเดินมาถึงกลางสะพาน ชายชราได้คุกเข่าลง หันหน้าไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ และก้มศีรษะลงอย่างนอบน้อม
1
ชายผู้นี้คือชาวญี่ปุ่นวัย 91 ปีที่ชื่อ “ริทสึทาโร ฮอนดะ (Ritsutaro Honda)” อดีตทหารในกองทัพญี่ปุ่น และมีส่วนร่วมในการรุกรานจีนเมื่อปีค.ศ.1937 (พ.ศ.2480) สังหารทหารฝ่ายจีนไปเป็นจำนวนมาก
1
ชายชราผู้นี้สำนึกในความผิดที่ตนเคยก่อไว้ และต้องการแสดงออกว่าตนนั้นสำนึกผิดจริงๆ ต่อบาปที่เคยก่อไว้เมื่อกว่า 60 ปีก่อน
1
ในเวลานั้น ฮอนดะนั้นชรามากแล้ว ต้องฟอกไตทุกๆ สี่ชั่วโมง หากแต่เขาก็ยังยืนยันว่าต้องมาที่จีนเพื่อทำการขอขมา และครั้งนี้ก็เป็นครั้งที่สี่แล้วที่ชายชรามาขอขมาที่ปักกิ่ง
ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ.1986 (พ.ศ.2529) ฮอนดะได้ควักกระเป๋าตัวเอง ออกเงินค่าใช้จ่ายเพื่อที่ตนจะได้เปิดบรรยายทั่วประเทศญี่ปุ่น โดยตนได้บรรยายถึงความเลวร้ายของกองทัพญี่ปุ่นที่กระทำต่อจีน รวมทั้งสารภาพถึงความผิดบาปที่ตนเคยกระทำด้วย
ตั้งแต่ปีค.ศ.1986 (พ.ศ.2529) ฮอนดะได้ออกบรรยายไปแล้วกว่า 1,000 ครั้ง
หลานชายของฮอนดะก็ไม่เข้าใจว่าทำไมคนหนุ่มสาวชาวจีนจึงแอนตี้คนญี่ปุ่นนักหนา โดยผู้เป็นหลานเคยกล่าวกับฮอนดะว่า
“ความโหดร้ายคือสิ่งที่คนรุ่นคุณปู่ (ฮอนดะ) เคยกระทำ แล้วทำไมพวกเรา คนรุ่นนี้ซึ่งไม่ได้เกี่ยวอะไรด้วยเลยต้องมาแบกรับความผิดบาปนี้ด้วย?“
คำตอบของฮอนดะก็คือ
“ผู้กระทำผิดซึ่งได้สร้างความเจ็บปวดต่อผู้อื่นย่อมสามารถลืมเรื่องในอดีตได้อย่างง่ายดาย แต่เหยื่อนั้นลืมยาก คนหนุ่มสาวควรจะมีความคิด วิเคราะห์ และเข้าใจสถานการณ์จากมุมมองของผู้สูญเสีย และการพยายามสร้างบรรยากาศที่ดีระหว่างเชื้อชาติ คือความรับผิดชอบของคนรุ่นฉันและในฐานะที่ฉันเป็นปู่ของเธอ“
4
ความสำนึกผิดของฮอนดะนั้นเป็นของจริง แต่จะยกโทษให้ได้หรือไม่นั้น มีเพียงผู้สูญเสียเท่านั้นที่จะตอบได้
1
โฆษณา