11 ธ.ค. เวลา 03:30 • ธุรกิจ

Live สด น่านน้ำใหม่ ของ Netflix

ปี 2007 ตอนที่ Netflix ได้เปิดแพลตฟอร์มสตรีมมิงภาพยนตร์และซีรีส์ อุตสาหกรรมภาพยนตร์ ก็เริ่มเปลี่ยนไป โดยเฉพาะร้านเช่า DVD ที่ถูกดิสรัปต์ จนหายไปจากตลาด
1
จากนั้น Netflix ก็ยังเติบโตเรื่อยมา
จนตอนนี้ มีจำนวนสมาชิกกว่า 283 ล้านบัญชีทั่วโลก
ซึ่งปัจจุบันราคาหุ้นและมูลค่าบริษัทของ Netflix กำลังทำ All Time High
แม้ดูจากตัวเลขจำนวนสมาชิก เมื่อเทียบกับจำนวนประชากรทั้งโลกแล้ว จะยังเหลือส่วนแบ่งตลาดอีกมากให้กอบโกย แต่ Netflix ก็กำลังไปต่อในสมรภูมิใหม่
นั่นคือการถ่ายทอดสด ที่มีมูลค่าเม็ดเงินมหาศาล และเป็นสิ่งที่ซีรีส์หรือภาพยนตร์ ไม่สามารถทดแทนได้
และ Netflix ก็ได้เปิดตัวด้วยการถ่ายทอดสดการขึ้นชกของนักมวยในตำนานอย่าง ไมค์ ไทสัน ที่ดึงดูดยอดชมผ่าน Netflix ได้กว่า 60 ล้านบัญชีทั่วโลก
ตลาดไลฟ์สด ที่ Netflix กำลังลงสนาม น่าสนใจขนาดไหน ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
ปัจจุบันตลาดวิดีโอสตรีมมิงทั่วโลก มีมูลค่ากว่า 3.73 ล้านล้านบาท ซึ่ง Netflix คือเบอร์หนึ่งของตลาด ที่ครองส่วนแบ่งกว่า 31%
แต่หากลองไปดูมูลค่าสัญญาถ่ายทอดสด 3 ลีกกีฬาที่ได้รับความนิยมสูงสุดในสหรัฐอเมริกา พบว่า
- NFL สัญญา 11 ปี มูลค่า 3.84 ล้านล้านบาท
- NBA สัญญาใหม่ที่จะเริ่มปีหน้า มีระยะเวลา 11 ปี มูลค่า 2.66 ล้านล้านบาท
- MLB สัญญา 7 ปี มูลค่า 0.18 ล้านล้านบาท
แค่สัญญาถ่ายทอดสดของลีกกีฬาในสหรัฐอเมริกา ก็มีมูลค่ามหาศาลหลายแสนล้านบาทต่อปี
ยังไม่นับรวมกีฬาชนิดอื่น ๆ และตลาดอื่นทั่วโลก โดยเฉพาะฟุตบอล ที่เป็นที่นิยมไปทั่วโลก
หาก Netflix แทรกตัวเข้ามากอบโกยส่วนแบ่งตรงนี้ได้บ้าง ก็คงสร้างการเติบโตให้ธุรกิจได้มากพอสมควร
แต่แน่นอนว่าเมื่อเป็นตลาดเก่า และมีมูลค่ามหาศาล จึงมีรายใหญ่ที่อยู่มานาน การเข้าไปเป็นผู้เล่นหน้าใหม่ในธุรกิจนี้จึงไม่ง่าย
ซึ่งสิ่งที่น่าสนใจคือ Netflix ไม่ได้เป็นหน้าใหม่ที่เริ่มจากศูนย์ แต่เข้าไปพร้อมกับจุดแข็งที่คู่แข่งหน้าเก่าไม่มี..
เรื่องแรกคือ ฐานผู้ชม
ปัจจุบัน Netflix มีสมาชิกกว่า 283 ล้านบัญชี ซึ่งนอกจากเรื่องจำนวนที่เยอะแล้ว ฐานผู้ชมที่กระจายอยู่ทั่วโลก ถือเป็นแต้มต่อสำคัญที่ทำให้ผู้จัดการแข่งขันกีฬาสนใจ
เพราะ Netflix สามารถเลือกได้เลยว่าจะโปรโมตการแข่งขันและถ่ายทอดสดในพื้นที่ใดบ้าง
ในขณะที่การถ่ายทอดสดแบบเก่า ผู้จัดการแข่งขันอาจต้องเปิดประมูลสิทธิถ่ายทอดสดให้กับตัวแทนแต่ละประเทศ หรือทำตลาดด้วยตัวเองในพื้นที่ต่าง ๆ ซึ่งยุ่งยากซับซ้อนและมีค่าใช้จ่ายสูง
รวมถึง Netflix มีฐานข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับพฤติกรรมของสมาชิกในแต่พื้นที่ เช่น ประเทศไหนนิยมดูฟุตบอล หรือพื้นที่ไหนที่สนใจกีฬาบางประเภทมากเป็นพิเศษ ทำให้สามารถปรับแต่งการตลาดให้ตรงกลุ่มเป้าหมายได้แม่นยำ
เรื่องต่อมาคือ Netflix มีโครงสร้างพื้นฐานที่ดีพร้อมรองรับการถ่ายทอดสดได้ทั่วโลก
เพราะแพลตฟอร์มของ Netflix ทั้งเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน รองรับฐานผู้ใช้งานทั่วโลกอยู่แล้ว การเพิ่มคอนเทนต์ถ่ายทอดสดเข้าไปในแพลตฟอร์มเดิม จึงไม่จำเป็นต้องลงทุนสร้างระบบขึ้นมาใหม่ทั้งหมด
หรือพูดในอีกมุมก็คือ หากเทียบกับคู่แข่งรายเดิมในตลาดแล้ว Netflix มีธุรกิจสตรีมมิงเดิม มาคอยช่วยแบ่งเบาต้นทุนบางส่วนของธุรกิจถ่ายทอดสดให้อยู่
ทำให้เมื่อเทียบกันตรง ๆ กับคู่แข่งแล้ว
ต้นทุนที่ต่ำกว่า ทำให้ Netflix มีแต้มต่อเมื่อต้องไปประมูลซื้อสิทธิในการถ่ายทอดสดจากผู้จัดการแข่งขันนั่นเอง
แล้ว Netflix มีความจำเป็นแค่ไหน ถึงต้องขยายไปยังธุรกิจถ่ายทอดสด ?
แม้หากนับตามจำนวนประชากร เทียบกับจำนวนบัญชีของ Netflix แล้ว จะยังเหลือตลาดอีกมากให้กอบโกย และรายได้ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง
แต่ธุรกิจสตรีมมิง ก็มีคู่แข่งเกิดขึ้นมากมาย ทั้ง Disney+, HBO หรือ Prime Video
การหาคอนเทนต์ใหม่ ๆ ดึงเอนเกจเมนต์ได้สูง ๆ อย่างการถ่ายทอดสด มาช่วยเพิ่ม Value ให้กับธุรกิจ จึงเป็นสิ่งที่จำเป็น
และอย่าลืมว่า เมื่อรวมกับองค์ประกอบต่าง ๆ ของ Netflix ไม่ว่าจะเป็นจำนวนคอนเทนต์ ความพึงพอใจในการใช้งาน รวมถึงภาพยนตร์และซีรีส์หลาย ๆ เรื่อง
ทำให้ Netflix คือตัวอย่างที่ดีของคำว่า “ของมันต้องมี”
ที่คนใช้สตรีมมิงหลายคนต้องได้ใช้บริการ
หรือบางคนก็สมัครไว้ เพื่อความอุ่นใจ แม้จะไม่ค่อยดู ก็มี..
และสิ่งที่ตามมาคือ “เข้าแล้วออกยาก”
จากรายงานในปี 2023 พบว่า Netflix มีอัตราการยกเลิกการเป็นสมาชิกเพียง 3% ซึ่งต่ำที่สุดในตลาดสตรีมมิง ที่มีค่าเฉลี่ยที่ 5.5%
1
ซึ่งหลายคนที่เริ่มต้นใช้งาน Netflix ก็พบว่ายากที่จะยกเลิกการเป็นสมาชิก โดยมาจากหลายเหตุผล เช่น
- คอนเทนต์ที่หลากหลายและอัปเดตตลอดเวลา
- การแนะนำคอนเทนต์ด้วย AI ที่แม่นยำ จนเข้าดูได้อย่างต่อเนื่องทุกวัน
- ระบบการแชร์แอ็กเคานต์ ที่ทำให้นอกจากตัวเราเองแล้ว อาจมีเพื่อน ครอบครัว และคนใกล้ตัวร่วมหารค่าสมาชิกให้ถูกลง
สรุปคือ การนำคอนเทนต์ถ่ายทอดสดเข้ามา
นอกจากจะสามารถเพิ่มรายได้ จากการเก็บค่าบริการเพิ่มสำหรับคอนเทนต์กีฬาแล้ว
ยังเป็นการเพิ่มความน่าสนใจให้กับแพลตฟอร์ม ซึ่งจะช่วยดึงดูดสมาชิกใหม่ให้เพิ่มมากขึ้น
รวมถึงรั้งสมาชิกเก่าให้ติดหนึบอยู่กับแพลตฟอร์ม
เพราะสุดท้ายแล้ว Netflix ก็คือบริการที่หลายคนต้องมี
และ Netflix รู้ดีว่า ใครก็ตามที่ได้เริ่มจ่ายค่าสมาชิกแล้ว ก็อาจจะถอนตัวได้ยากและต้องจ่ายไปตลอด
เพราะเมื่อจะยกเลิกการเป็นสมาชิก ก็จะรู้สึกเสียดายกับคอนเทนต์ต่าง ๆ ที่มีมากมาย และอาจหาไม่ได้จากสตรีมมิงเจ้าอื่น ๆ..
—--------
Netflix เป็น 1 ใน 30 บริษัทที่จะอยู่ใน MEGAWORLD30
เปิดจอง IPO กองทุน MEGAWORLD30 วันที่ 11-17 ธ.ค. 2567 นี้
- ร่วมเป็นเจ้าของ 30 บริษัทชั้นนำระดับโลก MEGAWORLD30 เสนอขาย 2 ชนิด ได้แก่ ชนิดสะสมมูลค่า ( MEGAWORLD30-A) และชนิดเพื่อการออม ( MEGAWORLD30-SSF)
MEGAWORLD30 เป็นกองทุนที่จะเข้าไปลงทุนในตราสารทุนของบริษัทที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ ดังนี้
-ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (New York Stock Exchange: NYSE) หรือ
-ตลาดหลักทรัพย์แนสแด็ก (Nasdaq Stock Market: NASDAQ) หรือ
-ตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง (Hong Kong Stock Exchange: HKEx) หรือ
-ตลาดหลักทรัพย์โตเกียว (Tokyo Stock Exchange: TSE) หรือ
-ตลาดหลักทรัพย์ของประเทศในกลุ่มยูโรโซน (Eurozone) เฉพาะหลักทรัพย์ที่เป็นส่วนประกอบในดัชนี EURO STOXX 50
กองทุนมีการบริหารแบบ Rules based Approach โดยพิจารณาลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Capitalization) สูงสุด และมีสภาพคล่อง
รวมถึงปัจจัยที่ผู้จัดการกองทุนพิจารณาเพิ่มเติม เช่น คัดเลือกจากอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) และ/หรือ อัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) ตามเกณฑ์ขั้นต่ำที่ผู้จัดการกองทุนกำหนด เป็นต้น จำนวน 30 บริษัท เช่น Nvidia, Apple, Microsoft, Meta, ASML, TSMC, Novo Nordisk, Tencent, Netflix, LVMH และ Hermès*
โดยกองทุนจะมีการลงทุนที่ส่งผลให้มี Net Exposure ในตราสารทุนข้างต้นโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน
ทั้งนี้ กองทุนจะลงทุนในรูปของสกุลเงินดอลล่าร์สหรัฐ ยูโร ฮ่องกงดอลล่าร์ และ/หรือ เยน ตามรอบการปรับสมดุลของสัดส่วนน้ำหนักการลงทุน (Rebalance) และการปรับรายชื่อหลักทรัพย์
กองทุนรวมนี้ มีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ
*บริษัทดังกล่าวสามารถปรับเปลี่ยนได้ ตามเกณฑ์การลงทุนและสภาวะการณ์การลงทุน ณ ขณะนั้น
สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถศึกษารายละเอียดและเริ่มต้นลงทุนได้ที่ บลจ.ทาลิส 02-0150215, 02-0150216, 02-0150222 หรือ www.talisam.co.th และผู้สนับสนุนการขายหลายราย
คำเตือน: กองทุนรวมนี้มีลักษณะเฉพาะและความเสี่ยงเฉพาะ ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะ เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงของกองทุนรวมก่อนตัดสินใจลงทุน และควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ระบุไว้ในคู่มือการลงทุนของกองทุน SSF กรณีไม่ได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขทางภาษี จะไม่ได้สิทธิประโยชน์ตามเงื่อนไขของกรมสรรพากร และการลงทุนในกองทุนรวมตราสารแห่งทุนอาจมีความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาหลักทรัพย์
โฆษณา