11 ธ.ค. เวลา 05:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ

เปิดจักรวาลหุ้นเทคโนโลยี ธีมการลงทุนที่มีมากกว่าชิปและเอไอ

NVIDIA บริษัทชิปยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 3 ประจำปีงบประมาณ 2025 ซึ่งสิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม ปี 2024 โดยบริษัทสามารถทำรายได้สูงเป็นประวัติการณ์ที่ระดับ 35,082 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็นการเพิ่มขึ้น 94% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน และเพิ่มขึ้น 17% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า รายงานของ NVIDIA ระบุว่ารายได้ส่วนใหญ่ของบริษัทมาจากกลุ่มธุรกิจศูนย์ข้อมูล (Data Center) และชิปประมวลผล ซึ่งมีส่วนสำคัญในการรองรับความต้องการใช้เทคโนโลยี ที่เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
จากข้อมูลดังกล่าว แสดงให้เห็นว่าการลงทุนในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีจะยังมีโอกาสเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะ The Magnificent Seven หรือหุ้น 7 ตัวของบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ในสหรัฐฯ แต่ด้วยการเติบโตแบบก้าวกระโดดที่ผ่านมา ช่องว่างในการเติบโตอาจลดลงจากช่วงก่อนหน้าบ้าง ทำให้บริษัทเหล่านี้อาจจะต้องงัดผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ ๆ มาสร้างสีสันให้กับผลประกอบการ
ยกตัวอย่าง Amazon บริษัทอีคอมเมิร์ซและเทคโนโลยีชั้นนำที่ให้บริการแพลตฟอร์มชอปปิงออนไลน์ และคลาวด์คอมพิวติงผ่าน Amazon Web Services (AWS) ก็หันมาลงทุนในบริการสตรีมมิงของตนเองมากขึ้น ขณะที่ Microsoft บริษัทพัฒนาซอฟต์แวร์และบริการคลาวด์อย่าง Azure ที่โดดเด่นมาก ๆ กับการลงทุนใน OpenAI ก็หันมาจริงจังมากขึ้นกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ฮาร์ดแวร์ เช่น Xbox เครื่องเล่นเกมที่บริษัทพยายามจะพัฒนาเพื่อจะเอาชนะ Sony
1
สำหรับบริษัทเทคโนโลยีที่อยู่นอกกลุ่ม The Magnificent Seven ต้องบอกว่าไม่ใช่ทุกเทคโนโลยีของทุกบริษัทจะเติบโตได้ดีตามความต้องการบริโภคที่เพิ่มมากขึ้น โดยบริษัทที่จะได้ประโยชน์จากเทรนด์นี้ มักจะเกี่ยวข้องกับโครงสร้างพื้นฐานสำหรับเทคโนโลยี เช่น Ericsson บริษัทโทรคมนาคมจากประเทศสวีเดน ที่มุ่งเน้นการพัฒนาและจำหน่ายโครงข่าย โซลูชันสื่อสารไร้สาย รวมถึงเทคโนโลยี 5G ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการสื่อสารในระดับโลก
ขณะที่ห่วงโซ่อุปทานของการพัฒนาเทคโนโลยีขั้นสูงก็มี 2 บริษัทดาวเด่น ได้แก่ TSMC บริษัทผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์รายใหญ่ที่สุดในไต้หวัน ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในการผลิตชิ้นส่วนชิปที่มีความซับซ้อนสูง และ Samsung Electronics บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำจากเกาหลีใต้ที่มีชื่อเสียงในด้านการผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และเทคโนโลยีสารสนเทศ โดยมีผลิตภัณฑ์เด่นอย่างชิปเซมิคอนดักเตอร์ ไปจนถึงสมาร์ตโฟน ทีวี และอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน
อีกหนึ่งกลุ่มในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีที่มองข้ามไม่ได้ คือ Media and Entertainment เช่น Sony Group บริษัทเทคโนโลยีและสื่อบันเทิงระดับโลกจากญี่ปุ่นที่มีความหลากหลายในการดำเนินธุรกิจ รวมถึงการผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น ทีวีและเครื่องเสียง เกมและความบันเทิง โดยมีผลิตภัณฑ์เด่นคือ PlayStation เครื่องเล่นเกมที่ขายดีที่สุดในโลก
และอีกหนึ่งบริษัทที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือ Tencent Holdings บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำในประเทศจีนที่ดำเนินธุรกิจหลากหลาย เช่น บริการการชำระเงินดิจิทัล แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอย่าง WeChat และการพัฒนาเกมออนไลน์
จะเห็นได้ว่าการลงทุนในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีนอกจากจะมีความหลากหลายของธุรกิจและผลิตภัณฑ์แล้ว ยังมีการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งมีความต้องการใช้งานอยู่เสมอไม่ว่าสภาพเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไร ขณะเดียวกันก็มีการกระจายตัวในเชิงภูมิศาสตร์ ช่วยลดความเสี่ยงของการลงทุนแบบกระจุกตัวในประเทศใดประเทศหนึ่งมากเกินไปอีกด้วย
สำหรับนักลงทุนที่สนใจการลงทุนในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี BBLAM ขอแนะนำ 2 กองทุนเด่น ได้แก่ ‘กองทุนเปิดบัวหลวงโกลบอลอินโนเวชั่นและเทคโนโลยี’ หรือ B-INNOTECH และกองทุนลดหย่อนภาษี B-INNOTECHRMF และ B-INNOTECHSSF สำหรับอุตสาหกรรมเทคโนโลยีทั่วโลก โดยเฉพาะในสหรัฐฯ และ ‘กองทุนเปิดบัวหลวงเอเชียเทคโนโลยี’ หรือ B-ASIATECH และกองทุนลดหย่อนภาษี B-ASIATECHRMF สำหรับอุตสาหกรรมเทคโนโลยีในเอเชีย ซึ่งสามารถเลือกลงทุนได้ด้วยเงินลงทุนเริ่มต้น 500 บาท
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ BBLAM
• โทร. 0 2674 6488 กด 8
• เว็บไซต์ BBLAM
• ลงทุนด้วยตนเองง่าย ๆ ผ่านโมบายแบงก์กิ้งธนาคารกรุงเทพ หรือแอป BF Fund Trading จาก BBLAM
คำเตือน : การลงทุนมิใช่การฝากเงินและมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจไม่ได้รับเงินลงทุนคืนเต็มจำนวนเมื่อไถ่ถอน (ไม่คุ้มครองเงินต้น) / ผู้ลงทุนต้องศึกษาและทำความเข้าใจลักษณะสินค้า ข้อมูลสำคัญ นโยบายการลงทุน เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ระบุในคู่มือการลงทุนในกองทุน RMF/SSF ก่อนการตัดสินใจลงทุน / กองทุนที่มีการลงทุนในต่างประเทศมิได้มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งหมดหรือเกือบทั้งหมด
ทั้งนี้ อยู่ในดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน ดังนั้น ผู้ลงทุนอาจขาดทุนหรือได้กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจากการลงทุนในกองทุนดังกล่าว หรืออาจได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้
#BBLAM #กองทุนบัวหลวง #BFFundTrading #MobileBanking #ธนาคารกรุงเทพ
โฆษณา