เวียดนามเร่งระบบรางและเรือ
นิติการุณย์
มิ่งรุจิราลัย
หวู่ ฮง แท็ง ประธานคณะกรรมการเศรษฐกิจประจำสภาแห่งชาติเวียดนามชุดที่ 15 ออกมาเล่าแจ้งแถลงว่า
เมื่อ 30 พฤศจิกายน 2024 สภาแห่งชาติเวียดนามได้ลงมติผ่านนโยบายการลงทุนโครงสร้างรถไฟความเร็วสูงสายเหนือ-ใต้ มูลค่า 1.7 พันล้านล้านดองหรือ 2.3 ล้านล้านบาท
“นโยบายการลงทุนโครงการรถไฟความเร็วสูงสายเหนือ-ใต้ของเวียดนามแบ่งงบประมาณออกเป็น 3 รอบ
รอบที่ 1 ค.ศ.2021-2025
รอบที่ 2 ค.ศ.2026-2030
และรอบที่ 3 ค.ศ.2031-2035
มีระยะทางรวม 1,541 กิโลเมตร เริ่มต้นจากสถานีหง่อกโห่ยในกรุงฮานอย
ทางรถไฟจะตัดผ่าน 20 เมืองและจังหวัด ไปสิ้นสุดที่สถานีถูเตี๊ยมในนครโฮจิมินห์ซิตี้”
หวู่ ฮง แท็ง ประธานฯ บอกต่อว่า “เวียดนามเตรียมงานและศึกษาต้นแบบรถไฟความเร็วสูงทั่วโลกมานานกว่า 18 ปี ก่อนที่จะมีมติผ่านนโยบายลงทุนในโครงสร้างทางรถไฟสายเหนือ–ใต้”
รถไฟความเร็วสูงที่เวียดนามจะสร้างนี้จะมีความเร็ว 350 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีสถานีขนส่งผู้โดยสาร 23 แห่ง และมีสถานีขนส่งสินค้า 5 แห่ง
ทั้ง 5 แห่งนี้จะเชื่อมต่อศูนย์กลางขนส่งสินค้าที่สำคัญของประเทศ รถไฟความเร็วสูงสายเหนือ-ใต้ของเวียดนาม
กำหนดก่อสร้างแล้วเสร็จใน ค.ศ.2035 หรืออีก 11 ปีข้างหน้า
การนั่งรถไฟจากนครโฮจิมินห์ซิตี้ไปยังกรุงฮานอยใช้เวลานาน 32-37 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับขบวนรถไฟที่เลือก
ถ้าใช้ขบวนรถ SE2 ใช้เวลา 31 ชั่วโมง 35 นาที ขบวน SE4 ใช้เวลา 33 ชั่วโมง 25 นาที ฯลฯ
หลังจากโครงการรถไฟความเร็วสูงสายเหนือ-ใต้สร้างเสร็จ จะใช้เวลาเดินทางลดลงเหลือเพียง 4 ชั่วโมง เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการเดินทางและส่งเสริมการท่องเที่ยว
รัฐบาลต้องการใช้โครงการการลงทุนโครงการรถไฟความเร็วสูงสายเหนือ-ใต้กระตุ้นการลงทุน การสร้างงาน และเพิ่มขีดความสามารถของเวียดนามในการแข่งขันในภูมิภาค
ตอนนี้รัฐบาลเวียดนามยังไม่ได้ตัดสินใจเลือกประเทศหรือบริษัทเป็นผู้ให้บริการเทคโนโลยี อาจจะเป็น TGV ของฝรั่งเศส หรือ ICE ของเยอรมนี
เงื่อนไขที่สำคัญในการพิจารณาก็คือ ไม่ว่าใครจะมาเป็นผู้ให้บริการ จะต้องถ่ายทอดเทคโนโลยีให้เวียดนามสามารถพัฒนาและบำรุงรักษาระบบได้ด้วยตัวเอง
เวียดนามยอมรับว่าประเทศของตนเองมีปัญหามาจากระบบรางที่ล้าสมัย ส่วนใหญ่เป็นรางเดี่ยวที่ต้องรอสับหลีกขบวนรถสวน ขนาดรางก็แคบ ไม่เหมาะสำหรับการขนส่งสินค้า
สะพานรถไฟข้ามแม่น้ำมักไม่แข็งแรง ความเร็วและประสิทธิภาพยังแย่ มีความเร็วเฉลี่ยเพียง 33 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งต่ำกว่ามาตรฐานสากล
ความใฝ่ฝันปรารถนาของเวียดนามก็คือ พัฒนารถไฟของตนให้ไปเชื่อมกับเครือข่ายรถไฟ China-Europe Railway Express ที่เชื่อมจีนกับเอเชียและยุโรป
เวียดนามต้องการเข้าร่วมเครือข่ายรถไฟสายนี้ก็เพราะต้องการขนส่งสินค้าและผู้คนผ่านเส้นทางสายไหมยุคใหม่ไปยังเอเชียกลางอย่างคาซัคสถานและอุซเบกิสถาน ต่อไปยังเยอรมนีและโปแลนด์
สิ่งที่เวียดนามต้องการเป็นที่สุดก็คือการขนส่งที่สนับสนุนการค้าระหว่างประเทศ
โครงการรถไฟความเร็วสูงสายเหนือ-ใต้ของเวียดนามมูลค่า 2.3 ล้านล้านบาท
เวียดนามไม่ต้องการกู้ยืมเงินจากต่างประเทศ แต่มีแผนการลงทุนที่พึ่งพางบประมาณของรัฐบาลและแหล่งเงินทุนภายในเวียดนามเท่านั้น
เวียดนามเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากการศึกษาอย่างละเอียดพบว่า
เวียดนามมีความสามารถในการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ 2.3 ล้านล้านบาท โดยไม่ต้องกู้ยืมจากต่างประเทศ เพราะเวียดนามมีความมั่นคงทางการเงินเพียงพอ
นอกจากโครงการรถไฟความเร็วสูงแล้ว เวียดนามยังอนุมัติแผนพัฒนาถนนแห่งชาติ ค.ศ.2021–2030 กระทรวงคมนาคมเวียดนามมีเป้าหมายสร้างทางด่วนมากกว่า 9,000 กิโลเมตร
โดยให้ 5,000 กิโลเมตร แล้วเสร็จใน ค.ศ.2030 ส่วนอีก 4,000 กิโลเมตร จะต้องเสร็จภายใน ค.ศ.2050
ที่น่าสนใจอีกเรื่องหนึ่งก็คือ แผนแม่บทการพัฒนาระบบท่าเรือแห่งชาติที่อนุมัติสร้างท่าเรือทั่วประเทศ ด้วยงบลงทุนมโหฬาร
เวียดนามเป็นประเทศผู้ผลิต ผลิตแล้วต้องขายถึงจะได้เงิน จะขายได้ก็ต้องขนส่งไปถึงปลายทาง การขนส่งที่ต้นทุนต่ำที่สุดก็คือการขนส่งทางรางและทางเรือ
นี่เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้คณะผู้นำเวียดนามต้องมาชุมนุมสุมหัวคุยกันเรื่องการขนส่ง
และมีข่าวการอนุมัติการสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งออกมาให้ประชาชนคนทั้งประเทศได้รับรู้อยู่เป็นประจำ.
- 7
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
