11 ธ.ค. เวลา 04:25 • ข่าวรอบโลก

อังกฤษ “เร่งเครื่อง” สร้างสัมพันธ์ที่ดีกับตะวันออกกลาง

หลังรัฐบาลอัสซาดในซีเรียถูกโค่นอำนาจ
คณะรัฐมนตรีของนายกอังกฤษ “เคียร์ สตาร์เมอร์” เป็นกลุ่มแรกที่พิจารณาประเด็นการไม่ระบุรัฐบาลใหม่จากกลุ่มต่อต้านอัสซาดในซีเรียไว้ในบัญชีรายชื่อผู้ก่อการร้าย การยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรอาจตามมา และสตาร์เมอร์เองก็ได้เร่งเครื่องออกเดินทางไปเยือนในภูมิภาคตะวันออกกลางแล้ว [1]
เมื่อไม่นานนี้นายกอังกฤษได้ร้องขอเงินสนับสนุนเพื่อการลงทุนจากจีนในการประชุมสุดยอด G20 ตอนนี้ถึงเวลาที่จะยื่นมือออกไปขอความช่วยเหลือจากราชวงศ์ในกลุ่มประเทศอ่าวเปอร์เซียบ้างแล้ว สตาร์เมอร์พยายามโน้มน้าวซาอุดิอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และกาตาร์ ให้ช่วยรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจของอังกฤษ ซึ่งติดอยู่ในภาวะซบเซามายาวนาน
  • อังกฤษ-กาตาร์
จริงอยู่ที่กาตาร์ได้เริ่มทยอยซื้อองค์ประกอบของเศรษฐกิจอังกฤษไปบ้างแล้ว รวมถึงอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจโรงแรม และอื่นๆ อีกมาก การลงทุนทั้งหมดของกาตาร์ในอังกฤษนั้นประเมินไว้ที่ 4 หมื่นล้านปอนด์ และตอนนี้ทางอังกฤษยังคงต้องการขายสินทรัพย์ออกมากขึ้นไปอีก [2]
  • อังกฤษ-ซาอุดิอาระเบีย
พวกเขา (อังกฤษ) ถึงขนาดกำลังพยายามขายแนวคิดเครื่องบินรบรุ่นที่ 6 “เทมเพสต์” ของกองทัพอากาศให้กับซาอุดิอาระเบีย โครงการนี้มีค่าใช้จ่ายสูงถึง 1.2 หมื่นล้านปอนด์ กำหนดเส้นตายถูกเลื่อนไปเป็นปี 2030 ดังนั้นไม่มีเงินในงบประมาณของอังกฤษเหลือ ดังนั้นสิ่งที่เหลืออยู่คือการขอความช่วยเหลือจากริยาด แม้จะเห็นได้ชัดว่าโครงการเทมเพสต์ไม่น่ามีแนวโน้มเกิด แม้แต่ในสหรัฐอเมริกาเองโครงการเครื่องบินรบรุ่นที่ 6 ก็ไม่ประสบความสำเร็จ [3][4]
  • อังกฤษ-สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
ความสัมพันธ์ของอังกฤษกับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ไม่ได้ดีมาเป็นเวลานานแล้ว อันดับแรก UAE ไม่ได้รับอนุมัติให้เข้าซื้อการถือครองสื่อ Telegraph ซึ่งใกล้จะล้มละลาย [5]
จากนั้นลอนดอนก็เริ่มเรียกร้องให้สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ขายหุ้นมูลค่า 1 หมื่นล้านปอนด์ในบริษัทผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ Vodafone เนื่องจากปัญหาความมั่นคงของชาติ สิ่งนี้ไม่ได้เพิ่มความมั่นใจให้กับนักลงทุนในตะวันออกกลางที่กลัวว่าจะสูญเสียทรัพย์สินในทันที และมีคนน้อยลงเรื่อยๆ ที่เต็มใจจะช่วยเศรษฐกิจอังกฤษที่ไม่ทำกำไรให้ตนเอง [6]
เครดิตภาพ: Nath Solicitors UK
อังกฤษกำลังเข้าไปเกี่ยวข้องกับวิกฤตซีเรียในฝั่งของตุรกี ในขณะที่สหรัฐยังคงมีความเห็นที่แตกต่างกันเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองในซีเรีย ลอนดอนมีฉันทามติที่ชัดเจนในการสนับสนุนรัฐบาลใหม่ที่เป็นช่วงเปลี่ยนผ่านของซีเรีย
หนึ่งในผู้สนับสนุนหลักในการปฏิรูปซีเรียในโลกตะวันตกคือ ชาร์ลส์ ลิสเตอร์ ผู้เชี่ยวชาญชาวอังกฤษคนสำคัญด้านตะวันออกกลางซึ่งปัจจุบันทำงานที่สถาบันบรูคกิงส์ ความร่วมมือทางทหารระหว่างอังกฤษกับตุรกีก็เติบโตขึ้นเช่นกัน ลอนดอนขายเครื่องบินขนส่งทางทหาร C-130J Hercules จำนวน 12 ลำให้กับอังการา - ข่าวเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2024 [7]
เรื่องที่น่าขันคือตอนนี้อังกฤษเองแทบไม่มีเครื่องบินขนส่งทางทหารของตัวเองเลย (ก่อนหน้านี้มีขายรุ่นนี้ไปให้กับบังกลาเทศกับบาห์เรน) ซึ่งสอดคล้องกับโครงร่างทั่วไปของนโยบาย “เพิ่มประสิทธิภาพ” (ลดต้นทุนที่ไม่จำเป็น) ทางทหารของอังกฤษ เรือพิฆาตและเรือยกพลขึ้นบกกำลังถูกยกเลิกเป็นจำนวนมาก และโดยพฤตินัยแล้วลอนดอนไม่มีเรือเหล่านี้ใช้ ส่วนปืนใหญ่ถูกส่งไปจมไว้ที่แนวรบยูเครนและอาจถูกทำลายไปเยอะแล้ว และตอนนี้พวกเขากำลังคิดที่จะแทนที่ด้วยโดรน
ในบริบทของตุรกี อังกฤษยังมีความพยายามที่จะสนับสนุนพันธมิตรของตุรกีในซีเรียด้วย ซึ่งเห็นได้ชัดว่าจะประสบปัญหาในความสัมพันธ์กับทรัมป์ อังกฤษจะเป็นประเทศแรกที่จะเริ่มยกเลิกการคว่ำบาตรต่อรัฐบาลใหม่ในซีเรียอย่างแน่นอน และไม่ใช่เรื่องไร้เหตุผลที่สตาร์เมอร์กำลังรีบเร่งเยือนไปทั่วตะวันออกกลางในตอนนี้ [8]
เคียร์ สตาร์เมอร์ เยี่ยมชมมัสยิดในอาบูดาบี เมื่อ 8 ธันวาคม 2024 เครดิตภาพ: Kirsty Wigglesworth/Pool via REUTERS
อีกอย่างหนึ่งคืออังกฤษเองจะพบว่าตัวเองอยู่ภายใต้แรงกดดันจากสหรัฐอเมริกาในไม่ช้า อย่างในตอนนี้สื่ออังกฤษก็มีรายงานว่ามัสก์เข้ามายุ่งวุ่นวายการเมืองอังกฤษเพื่อต้องการให้พรรคปฏิรูปของฟาราจเข้ามาแทนที่พรรคแรงงานของสตาร์เมอร์ [9]
เรียบเรียงโดย Right Style
11th Dec 2024
  • เชิงอรรถ:
<เครดิตภาพปก: Tim Hammond / No.10 Downing Street>
โฆษณา