Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ลงทุนแมน
ยืนยันแล้ว
•
ติดตาม
12 ธ.ค. เวลา 03:30 • หุ้น & เศรษฐกิจ
สิงคโปร์ทำอะไร ให้เกินดุลการค้าจีน มากสุดในอาเซียน
สิงคโปร์เป็นประเทศที่แปลก เพราะแทบไม่มีทรัพยากรธรรมชาติอะไรให้ส่งออกเลย และการไม่มีทรัพยากร ก็ต้องพึ่งพาการนำเข้าจากต่างประเทศแทน
แต่ประเทศนี้กลับเกินดุลการค้ากับจีน มากสุดในอาเซียนกว่า
233,749 ล้านบาทในปีที่แล้ว
พูดอีกอย่างคือ สิงคโปร์ส่งออกสินค้าไปจีน มากกว่า
นำเข้าสินค้าจากจีนหลักแสนล้านบาท
อะไรอยู่เบื้องหลัง ที่ทำให้สิงคโปร์เป็นแบบนี้ ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
ถ้าเราเป็นผู้นำสิงคโปร์ แล้วหันไปเจอกับสภาพของประเทศ ที่ไม่มีทรัพยากรอะไรให้ส่งออกเลย
เราจะทำอะไรให้ประเทศมีรายได้เข้ามา ?
คำตอบก็คือ ก็นำเข้าสินค้ามา แล้วสร้างมูลค่าเพิ่มต่อยอด ก่อนส่งออกไปต่างประเทศอีกครั้ง
1
แม้ทำให้สิงคโปร์ต้องนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ
จำนวนมาก แต่การทำให้มีมูลค่าแพงขึ้น แล้วส่งออกสินค้า หักลบแล้วประเทศก็จะมีส่วนต่างเข้ามา
ซึ่งวิธีนี้ ก็ได้เป็นเหตุผลหลัก ที่ทำให้สิงคโปร์เกินดุลการค้ากับจีน ในช่วงที่ผ่านมา
โดยหากไปดูสินค้าส่งออก ที่สิงคโปร์เกินดุลการค้า
มากสุดกับจีน จะพบว่า
- อันดับ 1 แผงวงจรรวม 452,848 ล้านบาท
- อันดับ 2 อุปกรณ์ผลิตแผงวงจร 240,737 ล้านบาท
- อันดับ 3 ทองคำ 161,400 ล้านบาท
แปลว่า จีนนำเข้าแผงวงจรรวม อุปกรณ์ผลิตแผงวงจร
และทองคำ จากสิงคโปร์ มากกว่าที่จีนส่งออกสินค้าพวกนี้ ไปสิงคโปร์
เริ่มกันที่ทองคำ
จีนเป็นผู้นำเข้าทองคำรายใหญ่ของโลก
เพราะมีความต้องการทองคำภายในประเทศที่สูงมาก ทั้งในภาคอุตสาหกรรมและการลงทุน รวมถึงการเป็นทุนสำรองของประเทศ
ทำให้จีนต้องนำเข้าทองคำจากประเทศอื่น ๆ เพิ่มเติมอยู่เสมอ แม้จะผลิตทองคำได้เองก็ตาม
และที่ต้องนำเข้าจากสิงคโปร์ เพราะเป็น
หนึ่งในศูนย์กลางการค้าทองคำที่สำคัญของโลก
ด้วยมาตรฐานการจัดเก็บและมีความน่าเชื่อถือสูง
1
ทำให้ทองคำที่ซื้อขายในตลาดสิงคโปร์ ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ
นอกจากนี้ สิงคโปร์ยังเป็นเมืองท่าปลอดภาษี ดังนั้นการซื้อขายทองคำที่เกาะแห่งนี้
จึงช่วยลดต้นทุนในการทำธุรกรรม ทำให้มีต้นทุนที่ต่ำลง
1
ซึ่งช่วงที่ผ่านมา แม้จีนเป็นประเทศที่มีทองคำสำรอง
มากสุดอันดับ 1 ในเอเชีย แต่ก็ยังนำเข้าทองคำมาเป็นทุนสำรองเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
พอเป็นแบบนี้ ทำให้สิงคโปร์ ได้ประโยชน์จากเรื่องนี้ไปอีกยาว ๆ และจีนเอง ก็ต้องพึ่งพาการนำเข้าทองคำจากสิงคโปร์ต่อไปเรื่อย ๆ
ส่วนแผงวงจรรวมและอุปกรณ์ผลิตแผงวงจร จีนจำเป็นต้องนำเข้าจากสิงคโปร์ เพราะสิงคโปร์ เป็นหนึ่งในประเทศที่อยู่ในระบบซัปพลายเชนแผงวงจรรวม หรือชิปของโลก
สิงคโปร์ ไม่ได้โดดเด่นเรื่องการผลิต ออกแบบ วิจัยหรือพัฒนาชิป แต่โดดเด่นเรื่องตรวจสอบการทำงานของชิป
ที่คอยเช็กคุณภาพการใช้งานของชิปอีกทอดหนึ่ง
1
1
บริษัทชิปต่างชาติที่มีฐานในสิงคโปร์ ตัวอย่างเช่น
- UMC ผู้ผลิตชิปจากไต้หวัน อันดับ 3 ของโลก
- GlobalFoundries ผู้ผลิตชิปจากสหรัฐฯ อันดับ 4 ของโลก
- Infineon ผู้ผลิตชิปเฉพาะทาง จากเยอรมนี
ก็นำเข้าชิปตรงนี้ เข้ามาตรวจสอบการทำงาน ที่สิงคโปร์ ก่อนส่งออกไปยังต่างประเทศ โดยเฉพาะจีน เพื่อนำไปประกอบในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
ทำให้ปัจจุบัน สิงคโปร์กลายเป็นผู้ส่งออกชิปอันดับ 3 ของโลก รองจากจีนและไต้หวันเท่านั้น
แต่ตรงนี้ หลายคนก็คงสงสัยว่า แล้วทำไมจีนยังขาดดุลการค้าชิปกับสิงคโปร์ ทั้งที่ส่งออกชิปเป็นอันดับ 1 ของโลก
แม้จีนจะเป็นประเทศที่ผลิตไปจนถึงตรวจสอบการทำงานของชิปได้ครบจบในที่เดียว แต่สุดท้ายก็มีชิปบางส่วนที่ส่งออกมาตรวจสอบการทำงานที่สิงคโปร์อยู่ดี
เพราะบริษัทหลายแห่ง เริ่มย้ายฐานการผลิตออกนอกจีน
เช่น สิงคโปร์ มาเลเซีย เวียดนาม เพื่อลดความเสี่ยงเรื่องสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ก็ต้องบอกว่า สิงคโปร์ก็ขาดดุลการค้ากับจีน
ในบางสินค้าด้วย ไม่ใช่ว่าจะเกินดุลการค้ากับจีน จนได้เปรียบอยู่ฝ่ายเดียว
ถ้าเราลองสังเกต 3 อันดับสินค้าส่งออก ที่สิงคโปร์เกินดุลการค้ามากสุดกับจีน กลับเกินดุลการค้ารวมกัน 854,985 ล้านบาท
ทั้งที่ภาพรวม สิงคโปร์ เกินดุลการค้าสุทธิกับจีน เพียง 233,749 ล้านบาทเท่านั้น
โดยส่วนต่างตัวเลขอีก 621,236 ล้านบาท ก็มาจากสินค้าอื่น ๆ ที่สิงคโปร์ขาดดุลการค้ากับจีนนั่นเอง
ซึ่งตัวอย่างสินค้าส่วนใหญ่ที่สิงคโปร์ขาดดุลการค้ากับจีน ก็เช่น น้ำมัน อุปกรณ์โทรศัพท์ และคอมพิวเตอร์
ที่มีการขาดดุลรวมกันมากถึง 497,731 ล้านบาท
1
นี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ เพราะจีนก็เป็นโรงงานผลิตของโลกอยู่แล้ว การนำเข้าสินค้าพวกนี้มา จึงไม่ใช่เรื่องแปลก
แต่การขาดดุลการค้ากับจีนเอง ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ สิงคโปร์กลายเป็นผู้ส่งออกสินค้าพวกนี้ ในระดับโลก
ซึ่งปัจจุบัน สิงคโปร์ เป็นผู้ส่งออกน้ำมันอันดับ 4 ของโลก และเป็นผู้ส่งออกอุปกรณ์โทรศัพท์อันดับ 7 ของโลก
โดยเฉพาะน้ำมัน สิงคโปร์เป็นประเทศที่ไม่มีน้ำมันเลย
แต่เลือกสร้างนิคมอุตสาหกรรมโรงกลั่นน้ำมันแบบครบวงจร เพื่อให้บริษัทต่างชาติ เข้ามาตั้งโรงงานในประเทศ
ทำให้สิงคโปร์ ต้องนำเข้าน้ำมันดิบเข้ามากลั่นในประเทศ ก่อนส่งออกไปยังต่างประเทศอีกครั้งหนึ่ง
1
ซึ่งเป็นการยอมขาดดุลการค้ากับจีนที่ได้ประโยชน์ เพราะสุดท้าย สิงคโปร์ กลับเกินดุลการค้าน้ำมันราว 600,000 ล้านบาทในปีที่ผ่านมา เมื่อรวมยอดค้าขายน้ำมันกับทุกประเทศ
และเมื่อเทียบกับการขาดดุลน้ำมันกับจีนที่ 151,824 ล้านบาทแล้ว
เรียกได้ว่า นี่เป็นการขาดดุลที่คุ้มค่ามาก
ถึงตรงนี้ ก็คงเห็นแล้วว่า แม้สิงคโปร์จะเริ่มต้นจากการไม่มีทรัพยากรมากมายอะไร แต่สุดท้ายก็สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับตัวเอง ด้วยการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และต่อยอดสินค้าที่นำเข้ามา จนสร้างส่วนต่างรายได้ให้ประเทศ
ก็น่าแปลกเหมือนกันว่า ประเทศเล็ก ๆ อย่างสิงคโปร์ กลับเกินดุลการค้ากับจีน ที่เป็นประเทศพื้นที่ใหญ่กว่า มีทรัพยากรเยอะกว่า และยังมีคนเยอะกว่ามาก
ซึ่งเรื่องนี้ ก็ให้บทเรียนได้อย่างดีว่า ไม่สำคัญหรอกว่า
เราเสียเปรียบอะไรกับอีกฝ่ายบ้าง
แต่ที่สำคัญกว่าคือ
เราจะมองหาจุดที่อีกฝ่าย ยังขาดอยู่
มองหาจุดแข็งที่เรามี หรือสามารถสร้างขึ้นมาได้
และทำให้ตัวเองได้เปรียบในจุดนั้นแทน
เหมือนกับที่สิงคโปร์ เน้นเกินดุลการค้ากับจีนด้วยสินค้าอย่าง ทองคำ ชิป และอุปกรณ์ผลิตชิป ซึ่งทำให้จีนจำเป็นต้องนำเข้าสินค้าพวกนี้จากสิงคโปร์ นั่นเอง..
References
-
https://www.trademap.org/Bilateral_TS.aspx
-
https://www.worldstopexports.com/cellphone-exports-by-country/
-
https://www.cnbc.com/2024/06/11/singapore-to-lead-the-gold-market-said-the-world-gold-council.html
-
https://sbma.org.sg/media-centre/publication/crucible/crucible-31/singapores-rise-as-asias-gold-hub/
ธุรกิจ
เศรษฐกิจ
14 บันทึก
57
2
17
14
57
2
17
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย