เปิดคุกนรก Sednaya ตำนานอันดำมืดของรัฐบาลซีเรีย
Blockdit Originals - บทความพิเศษ
ทันทีที่ กองทัพฝ่ายกบฎต่อต้านรัฐบาลบุกเข้ายึดกรุงดามัสกัสสำเร็จเมื่อวันอาทิตย์ที่ 8 ธันวาคม 2024 ที่ผ่านมา สิ่งที่สะเทือนใจชาวซีเรียมากที่สุด ไม่ใช่การล่มสลายของรัฐบาลของบาชาร์ อัล-อัสซาด หรือระบอบ อัล-อัสซาด ที่ครองอำนาจมานานมากกว่า 50 ปี แต่ช่วงเวลาที่ชาวซีเรียต่างวิ่งไปยังคุกที่คุมขังสมาชิกในครอบครัวญาติมิตร ด้วยความหวังอันริบหรี่ว่าบุคคลอันเป็นที่รักของพวกเขาในเรือนจำจะยังมีชีวิตอยู่ ในวันที่อิสรภาพนั้นอยู่แค่เอื้อม
มีข้อมูลว่า รัฐบาลซีเรียมีคุกอยู่ทั้งหมด 27 แห่ง และ สถานกักกันอีกจำนวนหนึ่งกระจายอยู่ทั่วประเทศ แต่ไม่มีคุกใดที่มีเรื่องเล่าอันโหดร้าย และสยดสยองเท่ากับคุก "Sednaya" เป็นไม่มีอีกแล้ว
คุก Sednaya ตั้งอยู่ทางตอนเหนือห่างจากกรุงดามัสกัสประมาณ 30 กิโลเมตร ที่เนินเขาที่เคยมีกองทหารคุ้มกันอย่างแน่นหนา และล้อมด้วยวงกับระเบิดอีก 1 ชั้น ที่ใครคิดจะบุกทะเล่อทะล่าเข้าไป ไม่ได้
มูฮัมหมัด อัล-ฮัจจ์ หนึ่งในกองกำลังฝ่ายต่อต้านที่เข้าไปเปิดคุก Sednaya ให้สัมภาษณ์กับสื่อตะวันตกว่า สิ่งที่เขาพบเห็นภายในคุกนั้น คือความสยองจนน่าขนลุก ด้วยสภาพความเป็นอยู่ที่เลวร้าย สกปรก เต็มไปด้วยซากขยะ ปฏิกูลเหม็นเน่า และรองเท้าเก่าโทรมที่หาเจ้าของไม่เจอนับหมื่นคู่ และยังพบศพที่ห่อผ้าไว้เตรียมฝังอีกกว่า 40 ศพ ที่พบร่องรอยการทุบตี ทำร้ายอย่างหนักทั่วร่างกาย ภายหลังทราบว่า ในจำนวนผู้เสียชีวิตเหล่านั้น มีทั้งนักเคลื่อนไหวทางเมือง, นักศึกษา, ปัญญาชน, ฝ่ายต่อต้านรัฐบาล ที่เป็นที่รู้จักจำนวนหนึ่ง
จึงได้นำศพที่พบทั้งหมด มาเก็บไว้ที่โรงพยาบาล Harasta เพื่อเป็นหลักฐานและติดต่อญาติให้มารับศพ และปล่อยนักโทษในเรือนจำได้ราว 6,000 คน ที่หลายคนอยู่ในสภาพมึนงง และไม่เคยได้พบครอบครัวเลยมานานกว่า 10 ปี มีรายงานว่า บางคนติดคุกมาตั้งแต่สมัย ฮาเฟซ อัล-อัสซาด รุ่นพ่อ แบบไม่เห็นเดือน เห็นตะวัน จนถึงวันที่ได้ออกจากคุกเพิ่งจะรู้ว่า ผู้นำ ฮาเฟซ นั้นตายไปนานแล้ว และบาชาร์ อัล-อัสซาด รุ่นลูกก็เพิ่งถูกโค่นอำนาจลงในเช้าวันนั้นเอง
แต่แหล่งข่าวท้องถิ่นเชื่อว่านักโทษที่ถูกปล่อยตัวจากคุก Sednaya ในวันนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่ง ที่ถูกจองจำในคุกที่เรียกว่า "แดนขาว" หรือคุกบนดิน
แต่ Sednaya ยังมีอีกส่วนหนึ่ง ที่เรียกว่า "แดนแดง" เป็นคุกที่อยู่ลึกลงไปใต้ดินถึง 2 ชั้น มีทางเดินวกวนเป็นเขาวงกตใต้ดิน และมีทางเข้า-ออก จำกัดมากที่มีคนรู้เส้นทางภายในไม่กี่คนเท่านั้น และเชื่อว่าน่าจะยังมีนักโทษที่ถูกขังอยู่ในคุกใต้ดินของ Sednaya อีกเป็นจำนวนมาก
โดยกลุ่มอาสาสมัครกู้ภัยชาวซีเรีย The White Helmets ที่เคยช่วยเหลือนักโทษในเรือนจำซีเรียมาแล้วมากกว่า 20,000 คน ได้นำทีมผู้เชี่ยวชาญพร้อมสุนัข K9 เข้าตรวจสอบอาคารคุก Sednaya อย่างละเอียด เพื่อค้นหา ช่องทางที่เป็นไปได้ ที่จะเข้าถึงคุกแดนลับใต้ดิน และให้รางวัล 3,000 ดอลลาร์กับผู้ที่ทราบข้อมูลเส้นทางลับใต้ดินของคุก Sednaya ได้
แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังหาไม่เจอ ท่ามกลางข่าวลือแพร่สะพัดที่ใหญ่โตบนโลกออนไลน์ ก็มีแถลงการณ์ของสมาคมผู้ต้องขังและผู้สูญหายแห่งเรือนจำ Sednaya ออกมาดึงสติชาวเน็ตว่านักโทษในเรือนจำถูกปล่อยตัวออกมาหมดแล้ว ซึ่งข่าวลือเรื่องที่มีนักโทษจำนวนหนึ่งที่ยังติดอยู่ในคุกลับใต้ดินนั้น ไม่เป็นความจริง
ส่วนผู้คุมคุก Sednaya ที่สามารถยืนยันข้อเท็จจริงนี้ได้ก็หลบหนีไปแล้ว ซึ่ง อาบู โมฮัมเหม็ด อัล-โจลานี ผู้นำฝ่ายต่อต้าน ที่ตอนนี้กลายเป็นกองทัพปลดปล่อยซีเรีย ได้ออกหมายจับผู้คุม และเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องกับคุก Sednaya ทั้งหมดมาลงโทษอีกทั้งยังตั้งค่าหัวสำหรับผู้ที่ให้เบาะแสอีกด้วย
ประวัติของ คุก Sednaya ก่อสร้างขึ้นในยุคของ ฮาเฟซ อัล-อัสซาด รุ่นพ่อ ที่แล้วเสร็จพร้อมใช้ในปี 1986 เพื่อใช้เป็นคุกทหาร คุมขังนักโทษทางการเมืองชั้นสูง ที่ไม่ได้มีสภาพเลวร้าย หรือเรื่องราวสยองขวัญอย่างที่เล่าลือกันในปัจจุบัน
ต่อมา คุก Sednaya ก็ถูกใช้ในการจองจำนักโทษคดีก่อการร้าย กลุ่มอิสลามหัวรุนแรง ต่อต้านรัฐบาล หรือถูกกล่าวหาว่าเป็นนักรบใต้ดิน กลุ่มกบฎแบ่งแยกดินแดน จนกระทั่งถึงยุคสงครามกลางเมืองซีเรียในปี 2011 ถูกใช้เป็นคุกสำหรับกลุ่มเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลอัล-อัสซาด
และปริมาณของนักโทษก็เพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ จากหลักพัน กลายเป็นหลักหมื่น พร้อมๆกับทัณฑ์ทรมานอันโหดเหี้ยม เพื่อรีดเค้นความลับ หรือเพียงแค่สนองอารมณ์ป่าเถื่อนของผู้คุม
อดีตนักโทษที่เคยติดคุก Sednaya เล่าว่า นักโทษถูกห้ามไม่ให้พูดคุยกับใครเลยภายในคุก ห้ามส่งเสียงดัง ห้ามมองหน้าผู้คุมโดยเด็ดขาด การลงโทษด้วยการข้าว อดอาหารจนถึงแก่ความตาย การบังคับให้นอนเปลือยกายในห้องขังโดยปราศจากผ้าห่มในช่วงฤดูหนาว หรือการทรมาณ ทุบตี หรือแม้แต่ล่วงละเมิดทางเพศเป็นเรื่องที่พบเห็นบ่อยในคุกแห่งนี้
สภาพความเป็นอยู่ไม่ต้องพูดถึง อยู่ในขั้นเลวร้าย มีนักโทษแออัดในห้องขังเล็กๆ ที่ไม่มีห้องน้ำ เรื่องสุขอนามัย และมาตรฐานการรักษาพยาบาลระดับพื้นฐานนั้นลืมไปได้เลย หากมีนักโทษเสียชีวิตภายในคุก ก็จะระบุว่าหัวใจล้มเหลวและศพจะถูกนำไปฝังที่สุสานหมู่นอกกรุงดามัสกัสทันทีโดยไม่แจ้งญาติ
แต่นักโทษอุกฉกรรจ์ในคุกใต้ดินนั้นหนักหนาสาหัสกว่านั้นมาก ที่จะถูกคุมขังในคุกมืด ที่จะนอกจากจะเจอการทุบตี ทรมานระดับแล่เนื้อเถือหนัง ชีวิตของนักโทษแดนลับ มีให้เลือก 2 ทาง ไม่ฆ่าตัวตายเอง ก็ถูกฆ่า การประหารด้วยการแขวนคอหมู่ถือเป็นกิจกรรมสันทนาการอย่างหนึ่งของชาวผู้คุม ที่มักเรียกว่างานปาร์ตี้ จนเป็นที่รู้กันว่า หากมีนักโทษคนใดที่ถูกส่งตัวมายัง Sednaya คือไม่ต่างจากโทษประหารแล้ว
องค์กร Amnesty International เคยตั้งสมญาให้คุก Sedyana ว่าเป็น "โรงฆ่ามนุษย์" โดยองค์กร The Syrian Observatory for Human Rights (SOHR) ได้ประเมินว่ามีนักโทษที่เสียชีวิต ไม่ว่าจะถูกประหาร หรือเสียชีวิตจากทัณฑ์ทรมาน และ ความป่วยไข้จากสภาพความเป็นอยู่ภายในคุกแห่งนี้มากถึง 30,000 คน ตลอดช่วง 13 ปีสงครามกลางเมืองซีเรีย นับเป็นคุกที่มีนักโทษเสียชีวิตมากที่สุดในบรรดาคุกทั้งหมดในระบอบ อัล-อัสซาด
แต่ทั้งนี้ รัฐบาลซีเรีย ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาขององค์กร Amnesty และหน่วยงานอื่นๆ มาโดยตลอดว่าไม่มีมูลความจริง และ บิดเบือนข้อเท็จจริงอย่างสิ้นเชิง โดยยืนยันว่ามาตรการลงโทษ และการประหารชีวิตนักโทษในเรือนจำเป็นไปตามกระบวนการที่สมควร
แต่ตราบใดที่ยังไม่มีข้อพิสูจน์อันกระจ่างชัดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในคุก Sedyana ข้อกล่าวหาอันน่าสยดสยองก็จะยังคงเป็นตำนานที่เล่าขานควบคู่กับด้านดำมืดของระบอบอัล-อัสซาดตลอดไป
****************
ติดตามบทความของ "หรรสาระ" เพิ่มเติมได้ที่
Facebook - หรรสาระ By Jeans Aroonrat
Twitter - @HunsaraByJeans
Blockdit - หรรสาระ By Jeans Aroonrat
แพลทฟอร์มคุณภาพ ไม่ปิดกั้นการมองเห็นเนื้อหา
****************
แหล่งข้อมูล
- 54
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
