19 ธ.ค. เวลา 03:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ

[สรุปงาน] abrdn FutureProof 2024 พลิกโฉมการลงทุนเพื่อชีวิตเกษียณที่ดีกว่า

งานนี้จัดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ 16 พ.ย. 2024 ที่ผ่านมา โดยมาในรูปแบบคอนเซปต์ “abrdn FutureProof 2024 พลิกโฉมการลงทุนเพื่อชีวิตเกษียณที่ดีกว่า” ณ หอประชุมศาสตราจารย์สังเวียน อินทรวิชัย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ภายในงานเต็มไปด้วยเนื้อหาที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็น การจัดแผนการเกษียณอายุ พร้อมการวางแผนจัดการภาษีในช่วงปลายปี รวมถึงการจัดพอร์ตการลงทุน เพื่อให้เหมาะกับเป้าหมายเกษียณอายุ โดยทาง abrdn เป็นผู้ให้คำแนะนำ
งานนี้ใครที่พลาดลงทะเบียน วันนี้ abrdn สรุปสิ่งที่น่าสนใจมาให้ในโพสต์นี้แล้ว
เริ่มจากเนื้อหาในพาร์ตของ เคน จักรกฤษณ์ CFP® จาก Money Buffalo
หนึ่งในเป้าหมายการเงินที่สำคัญที่สุดของทุกคนเลยก็คือ “เกษียณอายุ” และการที่เราจะสามารถเกษียณอายุได้อย่างมีคุณภาพนั้นไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่จะต้องผ่านการวางแผนอย่างเป็นขั้นตอน ตั้งใจ มุ่งมั่น พร้อมมีวินัยการเงินที่ดี
จากตัวอย่างในการคำนวณจะเห็นได้ว่าสำหรับคนอายุ 30 ปี ที่ต้องการใช้เงินเดือนละ 50,000 บาทหลังเกษียณ และต้องการเกษียณอายุเมื่ออายุ 50 ปี พร้อมกับมีอายุขัยที่ 85 ปี จะต้องเตรียมเงินสำหรับเกษียณอายุไว้ถึง 44,310,000 บาทเลยทีเดียว
ดังนั้น หากเราต้องการมีชีวิตเกษียณที่ดีมีคุณภาพ จำเป็นต้องรีบลงมือและจัดการอย่างตั้งใจตั้งแต่วันนี้
สูตรการวางแผนการเงินแบบ “มั่นคง + มั่งคั่ง” จะช่วยทำให้เรามั่นใจได้ว่า เราจะสามารถรักษามาตรฐานในการใช้ชีวิตหลังเกษียณได้ โดยสามารถแบ่งพอร์ตออกเป็น 2 ส่วน คือ
1. ส่วน "มั่นคง"
เป็นส่วนที่จำเป็นต้องมี เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่า อย่างน้อยมีเงินเพียงพอต่อค่าใช้จ่ายจำเป็นหลังเกษียณอายุ ดังนั้น สินทรัพย์การลงทุนจะต้องเป็นแบบความเสี่ยงต่ำ เช่น ประกันสังคม ประกันชีวิตสะสมทรัพย์ ประกันชีวิตแบบบำนาญ ตราสารหนี้หรือกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
2. ส่วน "มั่งคั่ง”
เป็นส่วนเพิ่มจากความต้องการพื้นฐาน ซึ่งสามารถลงทุนในสินทรัพย์ที่สามารถคาดหวังผลตอบแทนที่สูงขึ้นได้ เช่น หุ้น อสังหาริมทรัพย์หรือกองทุนรวมประเภทต่าง ๆ
ก่อนอื่น คุณเคนได้สรุปรายละเอียดเงื่อนไขการลดหย่อนภาษีปี 2567 เพื่อให้ทุกคนได้มีข้อมูลสำหรับการซื้อผลิตภัณฑ์ลดหย่อนภาษีกันก่อน ซึ่งในหมวดลงทุนประกอบไปด้วย กองทุน SSF RMF ThaiESG และประกันชีวิต
สำหรับ SSF และ RMF คุณเคนแนะนำว่า ให้ใช้สิทธิให้เต็มที่ โดยเมื่อนับรวมประกันชีวิตแบบบำนาญ กอช. กบข. กองทุนสำรองเลี้ยงชีพและกองทุนสังเคราะห์ครูโรงเรียนเอกชน ห้ามเกิน 500,000 บาท ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่ไม่ได้สูงมากนักสำหรับคนที่มีฐานภาษีสูงและอยากประหยัดภาษี
และสำหรับผู้ที่ลดหย่อนด้วย SSF RMF เต็มสิทธิ และยังต้องการลดหย่อนภาษีเพิ่มเติม ThaiESG ก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ
ส่วนประกันชีวิตสำหรับการออมเงิน เช่น ประกันสะสมทรัพย์ หรือประกันชีวิตแบบบำนาญ ผลตอบแทนอาจจะไม่ได้สูงมากนัก (2% ต่อปี) แต่หากเรานำผลประโยชน์ด้านภาษีเพิ่มเติมเข้าไปด้วย จะทำให้ผลตอบแทนนั้นน่าสนใจมากยิ่งขึ้น
แน่นอนว่า ภายในงานมีผู้เชี่ยวชาญจาก abrdn ที่มาให้ข้อมูลและแนวคิดการลงทุน ไม่ว่าจะเป็น
- Mr.Robert Penaloza - CEO, abrdn Investments (Thailand)
- Mr.Dongyue Zhang - Head of Investment Specialists APAC, Multi-Asset Solutions, abrdn Investments
- คุณพงค์ธาริน ทรัพยานนท์ - Head of Fixed Income and Asset Allocation, abrdn Investments (Thailand)
โดยเนื้อหาพูดถึงการกระจายการลงทุน (Asset Allocation) ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้เราสามารถบรรลุเป้าหมายเกษียณอายุได้ดี และสามารถสร้างผลตอบแทนในระยะยาวได้ เนื่องจาก
  • 1.
    ไม่รู้ว่าสินทรัพย์ใดให้ผลตอบแทนเป็นอย่างไรในอนาคต
  • 2.
    ไม่มีสินทรัพย์ใดที่ให้ผลตอบแทนดีที่สุดเสมอ
ด้วยหลักการกระจายการลงทุนนี้ จะทำให้เราสามารถได้ “ผลตอบแทนค่าเฉลี่ย” แบบต่อเนื่องในระยะยาว โดยลดความกังวลว่าสินทรัพย์ใดจะให้ผลตอบแทนเป็นอย่างไร
การกระจายความเสี่ยงที่ดีไม่ใช่เพียงกระจายการลงทุนซื้อทุกสินทรัพย์เท่านั้น แต่จำเป็นต้องมีสัดส่วนการลงทุนของแต่ละสินทรัพย์ให้เหมาะกับระดับความเสี่ยงของนักลงทุนด้วย
โดยปัจจัยหลักในการลงทุนของแต่ละสินทรัพย์ ได้แก่ “ระยะเวลา (Time)” ของเป้าหมายและ “ความเสี่ยงที่รับได้” ของเงินลงทุน
ยิ่งลงทุนได้นานและเงินลงทุนรับความเสี่ยงได้สูง ก็จะยิ่งลงทุนสินทรัพย์เสี่ยงในสัดส่วนที่มากขึ้นได้ และสามารถคาดหวังผลตอบแทนในระยะยาวที่สูงขึ้นได้เช่นกัน
สำหรับทาง abrdn ที่เป็น Solution Provider ให้กับลูกค้ามาโดยตลอด มีทีมที่คอยจัดการเรื่องการกระจายความเสี่ยงโดยเฉพาะ เพื่อให้ได้พอร์ตการลงทุนที่ดีที่สุดของลูกค้า และที่พิเศษกว่านั้นก็คือทาง abrdn จะมีทีมที่ดูเรื่องกระจายการลงทุนที่เป็นคน Local ของแต่ละประเทศช่วยจัดการ Optimize พอร์ตการลงทุนให้สอดคล้องกับนักลงทุนในแต่ละประเทศด้วย
โดยทาง abrdn จะแบ่งพอร์ตการลงทุนแนะนำออกเป็น 3 รูปแบบหลัก ได้แก่
  • 1.
    แบบเชิงรับ เน้นลงทุนตราสารหนี้เป็นหลัก โดยจะลงทุนในหุ้นไม่เกิน 40% และในตราสารหนี้ตั้งแต่ 60%-100%
  • 2.
    แบบสมดุล ผสมผสานเติบโตได้ทุกสภาวะ กรอบการลงทุนในหุ้นตั้งแต่ 35%-75% และในตราสารหนี้ตั้งแต่ 25-65%
  • 3.
    แบบเชิงรุก ลงทุนในหุ้นตั้งแต่ 70% ขึ้นไป และอาจมีการลงทุนในตราสารหนี้ในส่วนที่เหลือ
โดยสัดส่วนการลงทุนระหว่างตราสารหนี้และหุ้น ขึ้นอยู่กับสภาวะตลาดในแต่ละช่วงเวลา ในช่วงที่ตลาดดีแน่นอนจะเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในหุ้นเพิ่มมากขึ้น
นอกจากนี้ abrdn มีมุมมองการลงทุนว่าตลาดมีแนวโน้มกลับมาเป็นขาขึ้นได้อีก จากปัญหาเรื่องเงินเฟ้อที่คลี่คลายตัว ทำให้มีแนวโน้มว่าธนาคารกลางทั่วโลกอาจจะปรับลดดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ adrdn มีมุมมองค่อนข้างเชิงบวก (Positive) กับสินทรัพย์เสี่ยง
แม้ว่าการที่โดนัล ทรัมป์ ชนะการเลือกตั้งสหรัฐ และหนึ่งในนโยบาย คือ การขึ้นภาษีจากจีนถึง 60% ก็ตาม abrdn ก็ยังมองว่าเป็นปัจจัยเร่งที่ทำให้จีนจะต้องกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ เพื่อสวนทางกับกำแพงภาษีที่เจอนั่นเองทั้งนี้ทาง abrdn ได้ทำการสรุปกองทุนแนะนำสำหรับเป็นทางเลือกให้กับนักลงทุนในการจัดพอร์ตการลงทุนด้วยตัวเองทั้งกองทุนทั่วไปและกองทุนลดหย่อนภาษี โดยนักลงทุนสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมของแต่ละกองทุน ได้ที่ https://www.abrdn.com/th-th/investor/funds/view-all-funds?tab=2
และสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมสำหรับกองทุนรวมลดหย่อนภาษีได้ที่ https://www.abrdn.com/th-th/investor/investment-solutions/tax-saving-funds
รับชมบันทึกงานสัมมนา abrdn FutureProof 2024 พลิกโฉมการลงทุนเพื่อชีวิตเกษียณที่ดีกว่า ได้ที่นี่
ช่วงที่ 1: Think สมาร์ท...เพื่อชีวิตในวัยเกษียณ > https://youtu.be/Is6M6qvnHFc
ช่วงที่ 2: ต่อยอดการจัดสรรเงินลงทุนเพื่อความมั่นคงยามเกษียณ > https://youtu.be/J7pG76pq81o
คำเตือน:
ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน การลงทุนในกองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนซึ่งอาจทำให้ได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรก
กองทุนรวมที่มีการลงทุนในต่างประเทศมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน ปัจจุบัน ABGFIX-A ไม่มีการป้องกันความเสี่ยง
ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ระบุไว้ในคู่มือการลงทุนในกองทุนรวม
ABWOOF มิได้อยู่ภายใต้ข้อกำหนดว่าด้วยการเปิดเผยข้อมูลด้านความยั่งยืนของกองทุนรวม การบริหารจัดการ กองทุนรวม และการจัดทำรายงานของกองทุนรวมเช่นเดียวกับ SRI Fund
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวน โทร. 02-352-3388 หรืออีเมล client.services.th@abrdn.com
โฆษณา