13 ธ.ค. เวลา 06:49 • ข่าว

ความเสี่ยงของ สี จิ้นผิง กับความได้เปรียบของทรัมพ์ บนบัตรเชิญพิธีสาบานตน Trump 2025

โดนัลด์ ทรัมพ์ ว่าที่ประธานาธิบดีคนที่ 47 ของสหรัฐฯ และเป็นการเข้ารับตำแหน่งเป็นสมัยที่ 2 ไม่ติดต่อกันของเขา ได้ส่งบัตรเชิญไปผู้นำรัฐบาลที่ได้รับคัดเลือกให้เข้าร่วมพิธีสาบานตนในวันที่ 20 มกราคม 2025 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และเชื่อว่าจะมีทั้งผู้นำประเทศ และตัวแทนแห่งรัฐจำนวนมากมาเข้าร่วมเป็นสักขีพยานในวันสำคัญของเขา แต่จะด้วยความชื่นชมยินดีอย่างเต็มใจหรือไม่ ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
แต่ในจำนวนบัตรเชิญที่ส่งออกไปนั้น มีจดหมายที่จ่าซองถึง สี จิ้นผิง ผู้นำจีนรวมอยู่ด้วย ที่สร้างความแปลกใจไม่น้อยว่า ฮีทรัมพ์ มาอารมณ์ไหน ถึงให้ส่งบัตรเชิญถึงผู้นำจีน ที่เขาเคยหมายหัวว่าเป็นภัยคุกคามอันดับ 1 ของสหรัฐอเมริกา
แน่นอนว่าทุกๆการกระทำของผู้นำสหรัฐ ล้วนแฝงนัยยะทางการเมือง ดังนั้นไม่ว่าจะตอบรับ หรือปฏิเสธ ก็ต้องคิดอย่างรอบคอบถึงผลได้ ผลเสีย และเมื่อไม่สามารถประเมินสถานการณ์ได้ 100% สำหรับรัฐบาลจีนนั้นหมายถึง "ความเสี่ยง" ที่ต้องหลีกเลี่ยง
1
นักวิเคราะห์การเมืองจึงไม่คิดว่าจะได้เห็นลุงสี จิ้นผิง ยอมบินข้ามน้ำ ข้ามทวีป มาเพื่องานเข้ารับตำแหน่งของทรัมพ์ถึงกรุงวอชิงตัน ดีซี เพราะในความคิดของรัฐบาลปักกิ่ง จีนก็ถือว่าเป็นชาติมหาอำนาจในโลกที่มีฐานะไม่ต่างจากสหรัฐอเมริกาสักกี่มากน้อย และตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ จะต่างอะไรกับตำแหน่งผู้นำต่างประเทศชาติอื่นๆ
หยุ่น ซุน ผู้อำนวยการสำนักจีนศึกษาของสถาบัน Stimson Center ในกรุงวอชิงตัน ดีซี คาดว่า รัฐบาลปักกิ่งไม่น่าจะตอบรับคำเชิญของทรัมพ์ โดยอ้างเหตุผลว่า รัฐบาลจีนไม่เคยมีระเบียบขั้นตอนสำหรับผู้นำจีน ในการเข้าร่วมพิธีสาบานตนของผู้นำสหรัฐมาก่อน
และจากงานพิธีสาบานตนของโจ ไบเดน เมื่อปี 2020 ไต้หวันก็ได้ส่งตัวแทนคณะทูตระดับสูงเข้าร่วมพิธี ดังนั้นจีนที่ถือว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีนก็จะถือว่าตัวแทนจากไต้หวัน ก็คือตัวแทนจากจีนเช่นกัน จึงไม่มีความจำเป็นที่ผู้นำจีนต้องไปอีก
และอย่างที่รู้กันว่า โดนัลด์ ทรัมพ์ ชูนโยบายสงครามการค้ากับจีน และประกาศว่าจะขึ้นกำแพงภาษีสินค้าจีนสูงสุดถึง 100% ดังนั้นมันคงดูตลก ถ้าสี จิ้นผิง จะไปยืนปรบมือแสดงความยินดีให้ทรัมพ์ ยังไม่นับรวมว่า ทรัมพ์อาจใช้โอกาสนี้กล่าวคำปราศรัยข่มขู่จีนในพิธีสาบานตน ยิ่งทำให้ผู้นำจีนดูโง่ในสายตาชาวโลก ที่ไปยืนให้เขาลากไปตบหน้ากลางสี่แยก ซึ่งเป็นสิ่งที่คนจีนคงรับไม่ได้แน่นอน
1
แต่ในทางกลับกัน ทรัมพ์ได้เปรียบหลายอย่างจากการส่งเทียบเชิญสี จิ้นผิง มาในงานของเขา อย่างน้อยก็ในฐานะเจ้าภาพใจกว้าง ที่แสดงความเป็นมิตรด้วยการเปิดใจ ก่อนเปิดศึก
อีกทั้งยังตอกย้ำให้เห็นว่ารัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของทรัมพ์ จะมีสไตล์การทำงานที่ต่างจากรัฐบาลจีนโดยสิ้นเชิง นั่นคือ "ความคาดเดาไม่ได้" และ "ชอบความเสี่ยง" และนั่นคือสิ่งที่ผู้นำจีนต้องรับมือต่อจากนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ทำให้การส่งบัตรเชิญของทรัมพ์ถึง สี จิ้นผิงดูเป็นแค่การสร้างความประหลาดใจ ให้สื่อได้มีประเด็นน่าสนใจให้กล่าวถึง แทนที่จะแค่ข่าวจืดๆว่าทรัมพ์ส่งจดหมายเชิญออกแขกไปแล้ว โดยไม่มีชื่อ วลาดิมีร์ ปูติน และ สี จิ้นผิง ในรายชื่อแขก VVIP และก็ไม่ต้องใส่ใจด้วย เพราะรู้ว่า ยังไงผู้นำจีนก็คงไม่มาตามคำเชิญแน่ๆอยู่แล้ว
แม้ความสามารถในการบริหารประเทศของ โดนัลด์ ทรัมพ์ ยังเป็นข้อสงสัยอยู่มาก แต่สิ่งที่ไม่ติดใจเลยคือความสามารถในการเล่นกับสื่อของทรัมพ์นั้นเหนือชั้นจริงๆ
1
****************
ติดตามบทความของ "หรรสาระ" เพิ่มเติมได้ที่
Facebook - หรรสาระ By Jeans Aroonrat
Twitter - @HunsaraByJeans
Blockdit - หรรสาระ By Jeans Aroonrat
แพลทฟอร์มคุณภาพ ไม่ปิดกั้นการมองเห็นเนื้อหา
****************
แหล่งข้อมูล
โฆษณา