เก็บตกการสนทนา ระหว่างอ.เจษฎาและอ.ธเนศ(ในไลน์)
ผมเป็นเพื่อนกับอาจารย์เจษฎา แช่มประเสริฐ เกิดปีเดียวกัน ทำงานที่เดียวกัน จนเกษียณมา 14 ปีกว่าแล้ว หลังเกษียณเรายังเป็นเพื่อนพูดคุยแลกเปลี่ยนกันในไลน์แทบทุกวัน
อ.เจษฎาเคยเป็นครูวิทยาศาสตร์ ระดับมัธยมปลายใน กทม.และมาเป็นศึกษานิเทศก์ที่เก่งมาก ที่สำคัญคือเป็นครูตลอดชีวิต มีจิตใจดี มีนิสัยเอื้ออาทรต่อคนอื่น ชอบคิดค้นทดลองทำโน่นทำนี่ แบ่งปันความรู้ให้ผู้อื่นเสมอ หลังเกษียนไปซื้อที่ปลูกบ้านทดลองทำการเกษตรที่พิษณุโลก ปลูกพืชผักผลไม้และทำนาโดยใช้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์มาคิดค้นทดลอง ผลผลิตที่ออกมาก็แจกคนอื่นเป็นส่วนใหญ่ เหลือก็จำหน่ายบ้าง เขาชอบชวนเพื่อนๆไปเที่ยวไปพักที่บ้าน พาเที่ยวและแจกผลผลิตที่เขาทำ
ที่สำคัญคือเขามีครอบครัวที่ดี มีลูกชาย(ผศ.ดร. ภาสกร) ประสบผลสำเร็จในหน้าที่การงาน เป็นรองผอ.ศูนย์บริหารเมืองอัจฉริยะ มช.เพิ่งได้รับพระราชทานรางวัลและเหรียญ จากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพฯ ในฐานะบุคคลดีเด่นของกระทรวงสาธารณะสุขด้านสุขภาพอนามัยและสิ่งแวดล้อม ลูกชายสืบทอดความเก่งความดีมาจากพ่อแม่ของเขา และเขามีความกตัญูต่อพ่อแม่ของเขาตลอดมา
หลังเกษียณ อ.เจษฎามีบ้านพักอาศัยและทำการเกษตร 3 แห่ง ได้ไปๆมาๆใช้ชีวิตอย่างเพลิดเพลินและมีคุณค่า ทั้งที่ กทม. พิษณุโลก และเชียงใหม่
มีบทสนทนาระหว่างผมกับ อ.เจษฎาในไลน์ตอนหนึ่งที่ผมเห็นว่าเป็นข้อคิดดีๆที่อยากนำมาเล่าขานสู่กันฟังครับ
#เจษฎา :
เมื่อก่อนผมไม่ค่อยชอบทำทานแบบโปรยหว่าน เพราะมองว่าเขาไม่ได้ทำงาน แต่มีผู้นำวัตถุสิ่งของเงินไปให้ ส่วนเราทำงานเหนื่อยแทบแย่กว่าจะได้เงินมา
แต่พอได้ศึกษา ได้อ่าน ได้ปฏิบัติ จึงเข้าใจได้ว่า "สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม"
การให้ย่อมได้ทั้งผู้รับ และผู้ให้
ผู้ให้ก็ได้ละความโลภ ความตระหนี่ ได้แบ่งปัน
เดี่ยวนี้ผมจะแบ่งเงินบำนาญที่ได้รับแต่ละเดือนออกเป็นส่วนๆ
#ส่วนที่1..ไว้ดูแล ครอบครัว ลูกหลาน(เป็นเงินกองกลาง ไปเที่ยว ไปกินข้าวนอกบ้าน)
#ส่วนที่2.. ไว้ทำเกษตรอินทรีย์ เพื่อทดลองตามนิสัยครูวิทย์ และทำเป็นตัวอย่างให้ชาวบ้าน ผลผลิตที่ได้ก็ ไว้กิน ไว้แจก เหลือก็ขายบ้างไว้เป็นทุนผลิตต่อ
#ส่วนที่3..ไว้ใช้ส่วนตัว ไว้ซื้ออาหารที่ชอบ ไว้ทำบุญ ไว้ให้ทาน ไว้ต้อนรับดูแลเพื่อนฝูงที่มาเยี่ยมเยือน
#ส่วนที่4.. เก็บเป็นเงินออมไว้ในธนาคารเป็นรายเดือน ไว้ดูแลสุขภาพตอนเจ็บป่วย
อยากบอกว่านอกจากเงินบำนาญที่หลวงเขาให้ใช้ทุกเดือนแล้ว ผมยังมีเงินที่ลูกเขาโอนให้พ่อทุกเดือนด้วย ทุกเดือนเขาจะโอนเงินเข้าบัญชีพ่อ และแม่ทุกเดือน ผมไม่ได้บอกเขา แต่เขาคิดเอง ทำเอง จากตัวอย่างที่เขาเห็นผมให้เงินพ่อ-แม่ ตั้งแต่เขายังเด็กๆ เขาก็เลยทำตาม ถึงเป็นเงินไม่มาก แต่ทุกๆเดือน พอเราเห็นข้อความและตัวเลขในไลน์ของกรุงไทย ก็มีความสุข หัวใจพอง ปลื้มและภูมิใจ และเราก็ได้อวยชัยให้พร เขาไปทุกดือน
ผมคิดว่านี่คือทานที่วิเศษสุดทั้งผู้ให้ และผู้รับ ครับ
----------------
#ธเนศ :
อ.เจษฎาสอนลูกด้วยวิธี modelling โดยเป็นตัวแบบ ทำให้ลูกดู ปฏิบัติให้ลูกเห็นอย่างต่อเนื่อง โดยไม่ต้องบอกต้องสอน ไม่ต้องจ้ำจี้จ้ำไชเขา ถือเป็นวิธีสอนที่มีพลังที่สุดในการกล่อมเกลาปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรมให้แก่เด็ก ผมขอชื่นชมทั้งอาจารย์เจษฎาและลูกชายที่มีความกตัญญูต่อบุพการีอย่างแท้จริง
ขอยกคำสอนของหลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม ตอนหนึ่งที่ว่า..
"ความกตัญญูกตเวที เป็นเครื่องหมายของคนดี"
"ผู้ที่มีความกตัญญู จะเป็นคนที่ตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้ เทวดาฟ้าดินย่อมคุ้มครองรักษาอยู่เสมอ จะอยู่ที่ไหน ก็แคล้วคลาดปลอดภัย จะทำอะไร ก็จะมีแต่ความเจริญ"
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
