Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
IAMNOTLAZY
•
ติดตาม
14 ธ.ค. 2024 เวลา 15:40 • การศึกษา
ทำความเข้าใจกับ "ขี้เกียจเชิงกลยุทธ์"
"ขี้เกียจ" ในความหมายทั่วไป
เมื่อพูดถึงคำว่า “ขี้เกียจ” หลายคนมักนึกถึงภาพคนที่นอนเฉย ๆ ไม่ทำอะไรเลย แต่ในมุมมองเชิงกลยุทธ์ ความขี้เกียจไม่ได้หมายถึงการละเลยหน้าที่ แต่เป็นการเลือกทำเฉพาะสิ่งที่สำคัญที่สุด และละทิ้งสิ่งที่ไม่จำเป็น เพื่อให้ได้ผลลัพธ์สูงสุดด้วยความพยายามน้อยที่สุด
นิยามของ “ขี้เกียจเชิงกลยุทธ์”
ขี้เกียจเชิงกลยุทธ์ คือ การใช้เวลาและพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดในชีวิตส่วนตัวและการทำงาน หลักการสำคัญคือการโฟกัสเฉพาะสิ่งที่สำคัญ โดยไม่ต้องลงมือทำทุกอย่าง
ข้อแตกต่างระหว่าง “ขี้เกียจทั่วไป” และ “ขี้เกียจเชิงกลยุทธ์”
1. ขี้เกียจทั่วไป: ไม่อยากทำอะไรเลย ปล่อยทุกอย่างไปตามยถากรรม
2. ขี้เกียจเชิงกลยุทธ์: เลือกที่จะทำเฉพาะสิ่งที่มีคุณค่าและผลตอบแทนสูง โดยไม่เสียพลังงานกับเรื่องไร้สาระ
ตัวอย่างเช่น
คนที่ขี้เกียจทั่วไปจะไม่ทำงานใด ๆ แม้แต่งานที่สำคัญ
คนที่ขี้เกียจเชิงกลยุทธ์จะมองหางานที่สร้างผลลัพธ์ได้มากที่สุด และทำให้เสร็จอย่างมีประสิทธิภาพ จากนั้นก็พักผ่อนอย่างเต็มที่
ความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับความขี้เกียจ
1. "ขี้เกียจจะไม่มีวันสำเร็จ"
ความจริงคือ หลายคนประสบความสำเร็จเพราะพวกเขารู้วิธีเลือกทำสิ่งที่สำคัญที่สุด และไม่เปลืองเวลาไปกับสิ่งที่ไม่คุ้มค่า คนที่ "ดูเหมือนขี้เกียจ" บางครั้งอาจเป็นคนที่มีระบบคิดที่ชาญฉลาด พวกเขาเลือกทำสิ่งที่สำคัญที่สุด แล้วปล่อยให้ระบบจัดการส่วนที่เหลือ
2. "ขยันเท่านั้นที่จะทำให้สำเร็จ"
ความขยันมีคุณค่า แต่ถ้าขยันผิดจุดหรือทุ่มเทกับเรื่องที่ไม่ได้สร้างผลลัพธ์ ความขยันนั้นก็สูญเปล่า ขี้เกียจเชิงกลยุทธ์ช่วยให้คุณเลือกทำเฉพาะสิ่งที่มีผลลัพธ์สำคัญ
หลักการสำคัญของขี้เกียจเชิงกลยุทธ์
1. โฟกัสที่เป้าหมายหลัก
ถามตัวเองว่า “อะไรคือสิ่งที่สำคัญที่สุดในวันนี้” แล้วทำสิ่งนั้นให้สำเร็จก่อน
ตัวอย่าง:
ในการทำงาน: เลือกโครงการที่สร้างผลกระทบสูงสุด
ในชีวิตส่วนตัว: ให้เวลาแก่ครอบครัวหรือพัฒนาตัวเองในด้านที่สำคัญ
2. ลดสิ่งที่ไม่จำเป็น
งานที่ไม่สำคัญหรือไม่สร้างมูลค่าให้กับชีวิต ควรถูกตัดออกหรือมอบหมายให้คนอื่นทำ
ตัวอย่าง: หากงานเล็กน้อยอย่างการตอบอีเมลกินเวลาทั้งวัน ให้จัดการเฉพาะช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง เช่น เช็คอีเมลเพียงวันละ 2 รอบ
3. ใช้เครื่องมือหรือระบบช่วยเหลือ
การขี้เกียจอย่างมีประสิทธิภาพต้องพึ่งพาระบบและเทคโนโลยี เช่น
ใช้แอปพลิเคชันจัดการเวลา (เช่น Notion, Trello)
ใช้บริการออนไลน์หรือผู้ช่วยจัดการงานที่ไม่สำคัญ เช่น บริการเดลิเวอรี่ หรืองานที่สามารถจ้างคนอื่นทำ
ตัวอย่างของการขี้เกียจเชิงกลยุทธ์
1. อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์
ไอน์สไตน์กล่าวว่า "ถ้าผมมีเวลา 1 ชั่วโมงเพื่อแก้ปัญหา ผมจะใช้ 55 นาทีวางแผน และใช้เวลาเพียง 5 นาทีในการแก้ปัญหานั้น" นี่คือตัวอย่างของการใช้พลังงานอย่างชาญฉลาด
2. มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก
มาร์คใส่เสื้อผ้าสไตล์เดิมทุกวัน เพราะเขาไม่อยากเสียเวลาและพลังงานไปกับการตัดสินใจเรื่องเล็กน้อย เพื่อเก็บสมาธิไว้ทำสิ่งที่สำคัญกว่า
3. เจฟฟ์ เบโซส์
เจฟฟ์เน้นโฟกัสที่ "การตัดสินใจสำคัญ 2-3 เรื่องต่อวัน" โดยไม่ปล่อยให้ตัวเองจมกับการตัดสินใจเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่สามารถให้คนอื่นจัดการแทนได้
ขี้เกียจเชิงกลยุทธ์ในชีวิตประจำวัน
1. ในที่ทำงาน
อย่าตอบสนองทุกคำขอทันที
ใช้ระบบหรือกระบวนการช่วยจัดการ เช่น การประชุมเฉพาะเรื่องที่จำเป็น
โฟกัสที่งานใหญ่ที่สร้างผลลัพธ์สูงสุด
2. ในชีวิตส่วนตัว
เลือกกิจกรรมที่ให้ความสุขหรือผลตอบแทนสูง เช่น การออกกำลังกายที่ช่วยให้สุขภาพดี
ใช้บริการเดลิเวอรี่หรือเครื่องมืออัตโนมัติ เช่น การจ่ายบิลออนไลน์ เพื่อประหยัดเวลา
สรุป
ความขี้เกียจเชิงกลยุทธ์คือการบริหารเวลาและพลังงานให้คุ้มค่าที่สุด ไม่ใช่การหนีงานหรือหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบ แต่เป็นการเลือกทำเฉพาะสิ่งที่สำคัญและสร้างผลลัพธ์ เพื่อให้คุณมีเวลาสำหรับสิ่งที่มีค่ามากที่สุดในชีวิต หากคุณเข้าใจหลักการนี้ คุณจะสามารถ “ขี้เกียจ” ได้อย่างสร้างสรรค์และทรงพลัง
พัฒนาตัวเอง
แนวคิด
บันทึก
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย