Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
บอกให้รวย
•
ติดตาม
15 ธ.ค. เวลา 02:32 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
พิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศและการบินแห่งชาติ
เมื่อคิดค้นเครื่องบินไฟฟ้าทดแทนเครื่องบินน้ำมันจะเป็นไปได้หรือไม่
การคิดค้นเครื่องบินไฟฟ้าเพื่อมาทดแทนเครื่องบินน้ำมันในปัจจุบัน
การพัฒนาเครื่องบินไฟฟ้า (Electric Aircraft) เพื่อมาทดแทนเครื่องบินที่ใช้น้ำมันมีความเป็นไปได้ และกำลังเป็นที่สนใจในอุตสาหกรรมการบินทั่วโลก อย่างไรก็ตาม การนำมาใช้ในเชิงพาณิชย์อย่างเต็มรูปแบบยังคงเผชิญความท้าทายหลายประการ
ข้อดีของเครื่องบินไฟฟ้า
1. ลดการปล่อยมลพิษ
เครื่องบินไฟฟ้าไม่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ซึ่งช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเมื่อเทียบกับเครื่องบินน้ำมัน
2. ลดค่าใช้จ่ายด้านเชื้อเพลิง
ค่าใช้จ่ายสำหรับไฟฟ้าต่ำกว่าเชื้อเพลิงน้ำมันอย่างมาก
3. ลดเสียงรบกวน
เครื่องยนต์ไฟฟ้ามีเสียงเบากว่าเครื่องยนต์น้ำมัน
ความท้าทายในการพัฒนาเครื่องบินไฟฟ้า
1. ข้อจำกัดด้านแบตเตอรี่
เทคโนโลยีแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน (Li-ion) ในปัจจุบันยังมีพลังงานไม่เพียงพอสำหรับการบินระยะไกล
น้ำหนักของแบตเตอรี่เป็นปัญหาใหญ่ เพราะต้องการพลังงานมากเพื่อให้เครื่องบินลอยตัว
2. ระยะทางและขนาดของเครื่องบิน
เครื่องบินไฟฟ้าที่พัฒนาในปัจจุบันเหมาะสำหรับเส้นทางระยะสั้นและผู้โดยสารจำนวนน้อย (10-20 คน)
สำหรับเส้นทางระยะไกลยังไม่สามารถทดแทนเครื่องบินพาณิชย์ขนาดใหญ่ได้
3. โครงสร้างพื้นฐานด้านการชาร์จไฟ
สนามบินจำเป็นต้องพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการชาร์จแบตเตอรี่ ซึ่งใช้เวลาและงบประมาณสูง
4. ต้นทุนการพัฒนา
การพัฒนาเครื่องบินไฟฟ้าใช้เงินลงทุนสูง และต้องมีการทดสอบด้านความปลอดภัยอย่างละเอียด
ตัวอย่างความคืบหน้าในปัจจุบัน
1. บริษัท Airbus
กำลังพัฒนาเครื่องบินไฟฟ้าขนาดเล็ก เช่น "E-Fan X" ซึ่งสามารถรองรับผู้โดยสาร 4-5 คน สำหรับการบินระยะสั้น
2. บริษัท Rolls-Royce
เปิดตัวเครื่องบินไฟฟ้า "Spirit of Innovation" ที่เน้นความเร็วและการประหยัดพลังงาน
3. บริษัท Vertical Aerospace
พัฒนาเครื่องบินไฟฟ้าขึ้นลงแนวดิ่ง (eVTOL) สำหรับการขนส่งในเมือง
4. บริษัท Heart Aerospace
มีแผนเปิดตัวเครื่องบินไฟฟ้า ES-30 รองรับผู้โดยสาร 30 คนในปี 2028
แนวโน้มในอนาคต
ในระยะสั้น: เครื่องบินไฟฟ้าจะถูกใช้งานในเส้นทางระยะสั้น (50-500 กิโลเมตร) เช่น การบินภายในประเทศ
ในระยะยาว: การพัฒนาแบตเตอรี่เจเนอเรชันใหม่ เช่น แบตเตอรี่โซลิดสเตต (Solid-state Battery) และการใช้ไฮโดรเจนร่วมกับไฟฟ้า อาจช่วยให้เครื่องบินไฟฟ้าสามารถบินระยะไกลได้
สรุป
การพัฒนาเครื่องบินไฟฟ้าเพื่อทดแทนเครื่องบินน้ำมันเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ แต่ยังต้องพัฒนาด้านเทคโนโลยีแบตเตอรี่และโครงสร้างพื้นฐานให้เหมาะสมก่อนการใช้งานในเชิงพาณิชย์อย่างแพร่หลาย คาดว่าในอีก 10-20 ปีข้างหน้า เราอาจได้เห็นเครื่องบินไฟฟ้าที่สามารถบินได้ในระยะทางไกลและรองรับผู้โดยสารจำนวนมาก.
EV Airplane
เครื่องบินไฟฟ้าในการส่งผู้โดยสาร: ความเป็นไปได้และผลกระทบต่อต้นทุนค่าตั๋ว
ในปัจจุบัน เครื่องบินไฟฟ้าสำหรับการส่งผู้โดยสาร กำลังอยู่ในช่วงของการพัฒนาและทดสอบ โดยมีแนวโน้มที่จะนำมาใช้งานในเส้นทางระยะสั้นก่อน เช่น การบินภายในประเทศหรือการเชื่อมต่อเมืองใกล้เคียง ซึ่งสามารถลดต้นทุนบางส่วนได้ อย่างไรก็ตาม ค่าตั๋วอาจไม่ได้ลดลงอย่างชัดเจนในระยะแรก เนื่องจากข้อจำกัดและต้นทุนการพัฒนา
air plane by FUEL
เครื่องบินไฟฟ้าในการส่งผู้โดยสาร: เป็นไปได้แค่ไหน?
1. การใช้งานในเส้นทางระยะสั้น
เครื่องบินไฟฟ้าปัจจุบันเหมาะสำหรับการบินระยะทางไม่เกิน 500 กิโลเมตร (ประมาณ 1-2 ชั่วโมง)
ตัวอย่างเช่น Heart Aerospace ES-30 ที่รองรับผู้โดยสารได้ประมาณ 30 คน และมีระยะบิน 200 กิโลเมตรเมื่อใช้แบตเตอรี่เพียงอย่างเดียว หรือ 400 กิโลเมตรเมื่อใช้ไฮบริดร่วม
2. การใช้งานในเมืองใหญ่
เครื่องบินไฟฟ้าขนาดเล็ก เช่น eVTOL (Electric Vertical Take-off and Landing) ถูกพัฒนาเพื่อใช้เป็น "แท็กซี่ทางอากาศ" ในเมืองใหญ่ ซึ่งอาจช่วยลดการจราจรบนถนน
ผลกระทบต่อค่าตั๋วโดยสาร
1. ค่าใช้จ่ายที่ลดลง
ค่าน้ำมันถูกแทนที่ด้วยไฟฟ้า: ค่าไฟฟ้าต่ำกว่าน้ำมันอย่างมาก ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายด้านเชื้อเพลิงลดลง
การบำรุงรักษาน้อยลง: เครื่องยนต์ไฟฟ้ามีชิ้นส่วนที่ซับซ้อนน้อยกว่า จึงมีต้นทุนบำรุงรักษาต่ำกว่า
2. ต้นทุนที่เพิ่มขึ้น
ต้นทุนการพัฒนาเทคโนโลยี: การพัฒนาเครื่องบินไฟฟ้าและโครงสร้างพื้นฐาน เช่น สถานีชาร์จไฟฟ้าที่สนามบิน มีค่าใช้จ่ายสูง
ข้อจำกัดด้านความจุผู้โดยสาร: ในช่วงแรก เครื่องบินไฟฟ้ารองรับผู้โดยสารได้น้อยกว่าเครื่องบินน้ำมันทั่วไป ซึ่งอาจทำให้ต้นทุนต่อที่นั่งสูง
3. การเปลี่ยนแปลงค่าตั๋วในระยะยาว
คาดว่าค่าตั๋วอาจ ลดลงในระยะยาว เมื่อเทคโนโลยีมีการผลิตในจำนวนมาก (economies of scale) และแบตเตอรี่มีราคาถูกลง
---
ตัวอย่างค่าตั๋วที่อาจลดลง
Wright Electric บริษัทที่พัฒนาเครื่องบินไฟฟ้าร่วมกับสายการบิน EasyJet ระบุว่า เครื่องบินไฟฟ้าสำหรับเส้นทางระยะสั้นอาจช่วยลดค่าตั๋วโดยสารได้ถึง 30%
ในกรณีการใช้ eVTOL สำหรับการเดินทางระยะใกล้ เช่นในเมืองใหญ่ ค่าบริการอาจใกล้เคียงกับค่าแท็กซี่หรือบริการ ride-hailing
สรุป
เครื่องบินไฟฟ้าสามารถนำมาใช้ในการขนส่งผู้โดยสารได้จริง โดยเฉพาะในเส้นทางระยะสั้น
ค่าตั๋วอาจไม่ได้ลดลงมากในระยะแรก เนื่องจากต้นทุนการพัฒนายังสูง แต่ในระยะยาว เมื่อเทคโนโลยีมีความคุ้มค่า ค่าตั๋วมีแนวโน้มลดลงได้
การสนับสนุนและนโยบายของรัฐบาลในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและส่งเสริมการลงทุน จะช่วยให้เครื่องบินไฟฟ้าเข้ามามีบทบาทในอุตสาหกรรมการบินเร็วขึ้น.
ประเทศที่สามารถผลิตเครื่องบินไฟฟ้าได้และราคาประมาณการต่อเครื่อง
ปัจจุบัน มีหลายประเทศที่กำลังพัฒนาและผลิตเครื่องบินไฟฟ้าผ่านบริษัทผู้ผลิตและความร่วมมือกับองค์กรวิจัย โดยส่วนใหญ่มุ่งเน้นการผลิตเครื่องบินขนาดเล็กถึงขนาดกลางสำหรับการบินระยะสั้น ราคาต่อเครื่องขึ้นอยู่กับขนาด ความจุผู้โดยสาร และเทคโนโลยีที่ใช้
---
ประเทศที่ผลิตเครื่องบินไฟฟ้าได้
1. สหรัฐอเมริกา
บริษัทผู้พัฒนา:
Wright Electric: พัฒนาเครื่องบินไฟฟ้าสำหรับสายการบินพาณิชย์
Joby Aviation: เน้นพัฒนา eVTOL สำหรับการขนส่งในเมือง
Archer Aviation: พัฒนา eVTOL เช่นกัน
ราคา:
เครื่องบินไฟฟ้าขนาดเล็ก-กลาง เช่น eVTOL มีราคาอยู่ในช่วง 2-5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 70-175 ล้านบาท)
สำหรับเครื่องบินพาณิชย์ขนาด 100-200 ที่นั่งในอนาคต คาดว่าราคาจะสูงกว่า 50 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1,750 ล้านบาท)
2. ยุโรป (สหราชอาณาจักร, สวีเดน, เยอรมนี, ฝรั่งเศส)
บริษัทผู้พัฒนา:
Airbus (ฝรั่งเศส/เยอรมนี): พัฒนา "E-Fan X" และโครงการไฮบริดไฟฟ้า
Heart Aerospace (สวีเดน): พัฒนา ES-30 รองรับ 30 ผู้โดยสาร
Rolls-Royce (สหราชอาณาจักร): เปิดตัวเครื่องบินไฟฟ้าความเร็วสูง "Spirit of Innovation"
ราคา:
เครื่องบินไฟฟ้าขนาด 19-30 ที่นั่ง เช่น Heart ES-30 ราคาประมาณ 10 ล้านดอลลาร์ (350 ล้านบาท)
เครื่องบินพาณิชย์ขนาดใหญ่ยังไม่มีราคาชัดเจน
3. จีน
บริษัทผู้พัฒนา:
COMAC: พัฒนาเครื่องบินไฟฟ้าแบบไฮบริดเพื่อสนองการเดินทางระยะสั้น
EHang: พัฒนา eVTOL สำหรับผู้โดยสาร
ราคา:
eVTOL จาก EHang มีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 300,000-500,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 10-17 ล้านบาท) ซึ่งเหมาะสำหรับการใช้งานในเมือง
4. ญี่ปุ่น
บริษัทผู้พัฒนา:
Mitsubishi Aircraft Corporation: กำลังศึกษาและพัฒนาเครื่องบินไฟฟ้าแบบไฮบริด
ราคา:
ญี่ปุ่นยังไม่มีเครื่องบินไฟฟ้าในตลาด แต่โครงการต้นแบบมีแนวโน้มราคาสูงประมาณ 30-50 ล้านดอลลาร์ (1,050-1,750 ล้านบาท)
5. แคนาดา
บริษัทผู้พัฒนา:
Harbour Air: สายการบินที่ทดลองใช้เครื่องบินไฟฟ้าสำหรับการบินพาณิชย์ในระยะสั้น
ราคา:
เครื่องบินขนาดเล็กที่ดัดแปลงไฟฟ้า เช่น เครื่องบินทะเล DHC-2 Beaver ดัดแปลงไฟฟ้า มีราคาประมาณ 2 ล้านดอลลาร์ (70 ล้านบาท)
6. อิสราเอล
บริษัทผู้พัฒนา:
Eviation Aircraft: พัฒนาเครื่องบินไฟฟ้ารุ่น "Alice" รองรับผู้โดยสาร 9 คน
ราคา:
เครื่องบิน Alice มีราคาประมาณ 4 ล้านดอลลาร์ (140 ล้านบาท)
---
ราคาประมาณการของเครื่องบินไฟฟ้า
eVTOL ขนาดเล็ก (1-4 ที่นั่ง):
ราคาประมาณ 300,000-5 ล้านดอลลาร์ (10-175 ล้านบาท)
เครื่องบินไฟฟ้าขนาดเล็ก (9-30 ที่นั่ง):
ราคาประมาณ 2-10 ล้านดอลลาร์ (70-350 ล้านบาท)
เครื่องบินพาณิชย์ขนาดใหญ่ (100-200 ที่นั่ง):
ราคายังไม่แน่นอน แต่คาดการณ์อยู่ที่ 50-100 ล้านดอลลาร์ (1,750-3,500 ล้านบาท)
สรุป
หลายประเทศกำลังพัฒนาเครื่องบินไฟฟ้าทั้งในยุโรป สหรัฐอเมริกา และเอเชีย โดยราคาขึ้นอยู่กับขนาดและความซับซ้อนของเทคโนโลยี ในระยะแรก เครื่องบินไฟฟ้าจะเหมาะกับการใช้งานระยะสั้นหรือในเมือง และราคาจะลดลงเมื่อการผลิตเข้าสู่ช่วงที่มีการผลิตจำนวนมาก.
ขอขอบคุณภาพสวยๆจากพี่ไพบูลย์และข้อมูลดีๆ จากแชท gpt ครับ
การบิน
ความรู้รอบตัว
ประวัติศาสตร์
บันทึก
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย