15 ธ.ค. 2024 เวลา 03:10 • ความคิดเห็น
วัดนั้น ชาวบ้านเค้าสร้างสร้างกันมาทำไม ลองไปดูวัดในภาคเหนือ บางวัดก็มีประวัติมายาวนาน แถวอยุธยา ก็มีวัดเรียงรายร้มฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา เค้าสร้างกันมาทำไม คนสมัยก่อนเวลาไปวัดก็ต้องเดินฝ่า ป่าหญ้าหนาม .ที่มันรก พาลูกหลาน ไปวัด ..ไปทำบุญทำทาน เค้ามีความตั้งอกตั้งใจในการทำบุญทำทาน ทำบุญเสร็จ ก็ฟังพระท่านเทศน์สอน เค้าไม่ได้รีบร้อน ลุกลี้ลุกลน เอากิริยาท่าทางที่ดีมาสร้างบุญกุศล กิริยาเทพบุตรเทพธิดามากระทำ
มีผู้ที่เล่าให้ฟัง ที่เราสงสัยว่า มีผู้ที่ขึ้นไปเจอพระนารายณ์ อยู่ชั้นพรหม เราก็เคยสงสัยว่า ท่านทำไมขึ้นไปอยู่ชั้นพรหมได้ ..พอตอนหลัง ท่านก็เล่าให่ฟังว่า สมัยชั้น การศึกสงคราม ไม่ค่อยมี ผู้คนมีเวลาว่าง ว่างจากปลูกข้าวทำนา ก็เข้าวัด ทำบุญถือศีลกัน แล้วท่านก็บอกให้เค้าช่วย แต่งช่วยกันเขียน เรื่องพระคุณพ่อแม่ กระจายไปตามวัดว่าอารามต่างๆ ให้คน ..รู้จักพระคุณพ่อแม่
การไปวัดนั่น ..วัดเค้าสร้างถวายพระพุทธเจ้า ..เค้าถวายแล้ว เค้าก็ไม่ได้ไปเขียนชื่อ ตัวเอง ..บอกกล่าว ว่า หน้าต่างประตู ฐานพระ ..อะไรต่างเขียนใส่ชื่อตัวเองลงไป เค้า..ทำถวายเพื่อสละความยึดถือ .อารมณ์โลภโกรธหลงออกไป
การไปอยู่วัดเข้าวัด เค้าก็สำรวมกายาวาจาใจ ไม่ได้ไปนินทา ติเตียนใคร เคย..อ่านเจอหนังสือที่เค้าแปลมา จากสมัยพระนารายณ์ เค้าว่า คนไทยนี้ แปลกเจ็บป่วย ก็ไปทำบุญ .. แล้วก็หาย .. เค้าจ้างคนไปตัดต้นไม้ ..ฝรั่งบอกว่า ให้ตีงูให้ตาย ..คนที่รับจ้าง ..กลับหันหลัง ทิ้ง..บอกว่า ..ไอ้เงินแค่นี้ มาให้ฉันผิดศีล ..ฆ่างูฉันไม่ทำหรอก
การที่เข้าวัด ระมัดระวังกายวาจาใจ ระมัดระวังกิริยาท่าทาง ระมัดระวังอารมณ์นึกคิด ..ความโลภโกรธหลง นึกถึงแต่เรื่องพระคุณ พระคุณพ่อแม่ที่ให้กายมาอาศัย แล้วนำกายนี้มาสร้างให่เกิดเป็นบุญกุศลเกิดขึ้น ..ทั้งกายวาจาใจ ..ก็อยู่ในรอย ที่ไม่มีอารมณ์ไปไปสร้างเวรกรรม มีแต่นึกถึง .เรื่องราวของพระ ..ทำอย่างไร ให้กายนี้ ..กายกรรม ให้เกิดเป็นกายของผู้ที่มีบุญกุศล เมิ่อกายนั้นมีบุญ จิตที่อาศัยกาย .ก็มีความสุข สุขกาย สุขใจ
สุขที่มีสติสัมปชัญญะรู้จักกรรม สุขที่มีสติปัญญา รู้จักอารมณ์กรรม ..สลัดอารมณ์กรรมทิ้งไปจากกาย กายก็ไม่เร่าร้อนด้วยอารมณ์แห่งความโลภโกรธหลง ..เมื่อกายนั้นเป็นกายบุญ จิตอาศัยในกายที่เป็นบุญ จิตก็มีความสุข มีเวลาที่จะใคร่ครวญ เรื่องราวต่างๆ เรื่องราวของอารมณ์ ที่ไหลมาจากธาตุทั้งสี่ มีทั่งเก่าและใหม่ เราก็มีเวลา ทีจะค่อย ..ชำระสะสางเอาสิ่งที่สะสมอยู่กับธาตุที้งสี่เอาออกไปทิ้ง
เรื่องราวอย่างนี้ มันก็ยากที่จะทำได้ ..หากไม่มั่นเพียร ขันติอดทน .เรียนรู้จัก จิตมันจมอยู่กับทุกข์ เกิดตายไม่จมสิ่น ..ที่เค้าสร้างบุญกุศล ก็เพื่อหนีกรรม ให้การเกิดตายๆ มันน้อยลงไปๆ
เรื่องราวหนึ่งที่คนสมัยนี้ไม่ค่อยไดพบเห็น ก็เรื่องการตาย ใกล้ตาย ..สมัยก่อนไม่มีโรงพยาบาล พอก็เจ็บตายกันที่บ้าน เวลาใกล้ตาย กรรมเค้าถ่ายทอดออกมา ที่กายของคนตาย ปิดหู ปิดตา นอนน้ำตายไหลเป็นหางช้าง ..ใครสร้างกรรมอะไรมาก กรรมนั้นก็แสดงออกมาก่อนตาย ..แต่หมดโอกาสที่จะบอกใครแล้ว เรื่องราวการตาย
เมื่อกลางปีก็ไปงานศพ คนรู้จัก กลับมาบ้าน ..ก็มีเรื่องราวให้ดู .ตอนสวดมนต์กรวดน้ำ ก็มีจิดดวงหนึ่ง .เล็กอยู่ข้างๆ .พอดูเค้า .เค้าก็ยืดตัวสูงขึ้น ยึดขึ้นไปๆ สูงตระหง่าน เป็นผู้ยิ่งใหญ่ในกรรม .. ตัวสูงยิงใหญ่ เหมือนเสาไฟฟ้าแรงสูง ..นั้นเค้าเรียกว่า เปรต ..
เรื่องราวเหล่านี้ คนสมัยก่อนเค้ารู้จัก..เพราะเค้าหมั่นสร้างบุญกุศลกัน เค้ามีกายที่เป็นบุญ เค้าก็ได้เรียนรู้ ในสิ่งที่เป็นนามธรรม ..เช่นจิตออกจากกายนั้น จะไปเป็นอยู่ทุกข์หรือสุข เมื่อเราเรียนรู้จัก เรื่องจิตที่ไม่มีกายมนุษย์แล้ว ..หากเราไปเป็น..ตัวสูงยิ่งใหญ่ ปากเล็กๆ หิวโหย ..จิตนั้นจะมีความสุขมั้ย
แล้ววันหนึ่งเราก็ต้องหมดกายมนุษย์ ..เราจะไปสถานที่ทุกข์หรือสุข เราไม่เมตตาสงสาร จืตตังเองบ้างหรือ ..ที่กายมนุษย์นั้นมีโอกาส ที่จะแก้ไขช่วยเหลือจิตของตนเอง ที่เค้าว่า ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ..เมื่อจิตหมดกาย ..ก็ได้ในสิ่งนั้น
ที่เขียนมานี้ อย่าไปเชื่อ .เพราะเป็นเรื่องราวที่ ..เรื่องบุญกุศลบารมี นั้น ต้องทำด้วยตัวเอง .เรียนรู้ด้วยจิตของตัวเอง ค่อยๆเรียนรู้ขึ้นมา ในคำว่า มะโนทะศึกษา รู้แล้ว ..ละความยึดถือแห่งอารมณ์โลภโกรธหลงได้ กายเป็นสุขจิตเป็นสุข ชาตินี้ยังทำไม่ได้ ก็ไปต่อ ..ทำชาติต่อไป ๆ ให้ติดเป็นนิสัย สร้างบุญกุศลบารมี คงมีสักชาติหนึ่ง ที่จะมีกายบริสุทธิ์ จิตบริสุทธิ์
..แล้วลองค่อยๆเปรียบเทียบดูว่า วัดสมัยก่อนนั้นเป็น อย่างไร คนสมัยนี้ เค้าทำวัดให้เป็นอะไร ทำส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยว ทำวัดให้เพิ่มพูน ..กรรม ทำวัดให้เป็นที่เผาคนตาย ..มีศาลาธรรมสังเวช กว้างขวาง ..มีธุรกิจเกียวเนื่องคนตาย ผิดกับสมัยก่อน คนไม่มากมาย บ้านก็กว้างขวาง ตั่งศพที่บ้าน ถึงเวลาก็เอาไปเผากองฟอนป่าช้า
ยุคสมัยมันเปลี่ยน คนที่เกิดมาก็เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย ไม่รู้ว่ามาจากไหนกันบ้าง .แต่มีผู้บอกว่า มาจากสถานทุกข์กันมากมาย มาเพื่อเสพสุข ราคะตัณหา ทะเยอทะยาน ในทรัพย์สมบัติ ร่ำรวยเฮงๆ บำเรอกายให้เป็นสุข แล้วก็แก่ตายไป เพื่อจะกลับไปที่เก่า ..ที่นรกอเวจี
โฆษณา