15 ธ.ค. เวลา 03:50 • นิยาย เรื่องสั้น

รักย้อนอดีตภาค5 ภัยร้ายจากดาวหางฮัลเลย์

.
บทที่ 15 มนุษย์หมาป่า(Werewolf)
.
มิติเพี้ยนๆของเวลาได้นำแสนสุริยาและพันมาเดินท่อมกลางถนนรกร้างแห่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดว่าเป็นชนบท สองข้างทางเป็นทุ่งหญ้าสูงท่วมหัวสุดถนนเป็นโรงนา
.
ถูกแล้วแสนสุริยาและพันมาโผล่ในปีคศ.1981(พศ.2524-ที่รู้ก็เพราะนายฝอยบอก) แล้วในปีพศ.นั้นเธอทำอะไรอยู่นะ พันถามตัวเองอ้อ...ยังเรียนไม่จบ แล้วแสนสุริยา
ล่ะทำอะไรอยู่
.
"ผมก็ยังเรียนเหมือนคุณเช่นกัน"
.
"เหวอ..."พันอุทานเหมือนโดนผีหลอก "รู้ได้ไงว่าผมกำลังคิดเรื่องอะไรอยู่"
.
แสนสุริยาหัวเราะ "อย่าลืมนะว่าผมเรียนอาชญาวิทยา คือการศึกษาที่เกี่ยวกับอาชญากรรมและพฤติกรรมทางอาญา โดยอาศัยหลักการของสังคมวิทยาและ
สาขาอื่นๆ ที่ไม่ใช่กฎหมาย เช่น จิตวิทยา เศรษฐศาสตร์ สถิติศาสตร์ รวมทั้งมานุษยวิทยา
.
ทันทีที่คุณรู้จากฝอยว่าตอนนี้เราอยู่ในพศ.2524 คุณก็ทำท่าเหมือนกำลังนึกว่า
ตอนนั้นอยู่ที่ไหนกำลังทำอะไร แล้วคุณก็หันมามองผมทำท่าเหมือนเดิมอีก ผม
จึงสันนิษฐานได้เพียงประการเดียว"
.
พันปรบมือให้ "ถูกต้องนะคร้าบที่เดาถูก"
.
แสน "นี่ไม่ใช่การเดา เป็นวิธีอนุมาณด้วยหลักการเหตุผลเช่นเดียวกับนักสืบเชอร์ล็อคโฮล์ม"
.
เวลาเริ่มมืดลงอย่างรวดเร็ว ที่ขอบฟ้าทางทิศตะวันออกดวงจันทร์เต็มดวงเริ่มโผล่
พ้นจากขอบฟ้าทว่ายังไม่เปล่งแสงสุกสกาว
พลันก็มีเงาร่างเปลือยวิ่งผ่านคนทั้ง2อย่างรวดเร็วหรือถ้าจะพูดให้ถูกคือการกระโจนเหมือนสัตว์ไปที่โรงนาทำให้พันสนใจจึงออกติดตาม
.
ทันทีที่ไปถึงโรงนาก็มีเสียงร้องไห้คร่ำครวญอย่างน่าสงสารลอดออกมา พันหยุดรอจนแสนสุริยาตามมาทันจึงเปิดประตูเข้าไป
ร่างเปลือยเปล่าบนกองฟางเป็นชายวัยรุ่นผิวขาวหน้าตาดี เนื้อตัวเต็มไปด้วยเลือดมีบาดแผลถูกยิง
.
เด็กหนุ่มมองคนทั้ง2ด้วยสายตาแห่งความสิ้นหวังและวิงวอน "โปรดฆ่าผมเถิดครับ ก่อนที่ผมจะฆ่าคนมากไปกว่านี้"
.
พันนำฟางแห้งคลุมตัวให้เด็กหนุ่ม ขณะที่แสนสุริยาเป็นคนซัก "เกิดอะไรขึ้นกับคุณหรือน้องชาย"
.
"ผมเป็นมนุษย์หมาป่า คุณต้องรีบฆ่าผมเดี๋ยวนี้ ก่อนที่ดวงจันทร์จะเปลี่ยนเป็นสีแดงแล้วผมจะฆ่าคุณเพราะควบคุมตัวเองไม่ได้"
.
ฝอย "ขออนุญาตนะครับ"
.
พัน "อนุญาต"
.
ฝอย "สาเหตุที่ดวงจันทร์เป็นสีแดง เพราะว่าในคืนที่มีจันทรุปราคาเต็มดวง(โลกบังดวงจันทร์) แสงจากดวงอาทิตย์ส่วนใหญ่จะถูกโลกบดบัง ซึ่งคุณทราบอยู่แล้ว
ว่าแสงอาทิตย์ประกอบด้วยสีม่วง,คราม,น้ำเงิน,เขียว,เหลือง,แสด และ แดง
.
แต่ ...แสงจากดวงอาทิตย์ที่เล็ดลอดจากเงาโลกผ่านไปยังดวงจันทร์ได้ไกลที่สุด
คือสีแดง จึงทำให้เกิดปรากฏการณ์ "พระจันทร์สีเลือด" ขึ้นครับ
.
ส่วนมนุษย์หมาป่าคือบุคคลที่สามารถกลายร่างเป็นหมาป่าหรือครึ่งมนุษย์ครึ่งหมา
ป่า ไม่ว่าจะโดยตั้งใจหลังจากถูกสาปแช่ง หรือจากการถูกกัดหรือข่วนจากมนุษย์หมาป่าตัวอื่น
การกลายร่างจะเกิดขึ้นในคืนที่วันพระจันทร์เต็มดวงอย่างเช่นคืนนี้ จะเป็นพระจันทร์
สีเลือดหรือไม่ก็ได้
.
ความเชื่อเรื่องมนุษยหมาป่าเช่นเดียวกับความเชื่อเรื่องแม่มด นอกจากนี้มนุษย์หมาป่าจะกลับร่างกลายเป็นมนุษย์ธรรมดาเมื่อได้รับบาดเจ็บ ซึ่งนักล่าปีศาจสามารถที่จะตามรอยเลือดได้
.
วิธีการฆ่ามนุษย์หมาป่า คือ การยิงด้วยลูกปืนที่ทำมาจากเงินและจะต้องเป็นเงินที่หลอมมาจากกางเขน การตัดคอให้ขาดในครั้งเดียวก็ทำได้เช่นกัน ศพของมนุษย์หมาป่าควรนำไปเผาดีกว่าฝัง เพราะถ้านำไปฝังอาจทำให้มันกลับคืนร่างมาได้อีก"
.
แสนสุริยา "คริสต์ศตวรรษที่ 20(อยู่ระหว่าง 1 มกราคม ค.ศ. 1901-พศ.2443 ถึง 31 ธันวาคม ค.ศ. 2000-พศ.2543)ยังมีเรื่องคำสาปอีกหรือ"
.
ฝอย "ในปัจจุบันนี้หรือแม้แต่อนาคตข้างหน้า ซึ่งเป็นยุคอวกาศสิ่งเหนือธรรมชาตินี้
ก็ยังคงอยู่ คุณแสนจบมาจากอินเดียคงพบเห็นเรื่องราวซึ่งอธิบายไม่ได้บ่อยครั้งเช่นกัน
.
โดยเฉพาะเรื่องของโยคีที่วิทยาศาสตร์ยังบอกเหตุผลไม่ได้ว่าทำได้อย่างไรกับการอดอาหารเป็นสิบๆวัน นอนบนตะปูที่ตอกเป็นหนามทุเรียน..."
.
ทันใดนั้นเด็กหนุ่มก็ส่งเสียงหอนออกมา พันจึงเตือนแสนสุริยาให้รีบซักถามความเป็นมาของเขาก่อนที่จะไม่มีโอกาส เหตุการณ์ต่อไปนี้เป็นเรื่องราวของเดวิด เคสส์เลอร์
.
เรื่องที่เดวิดเล่าเป็นเรื่องราวสลดใจและสยองขวัญที่จะพูดถึงกันอย่างยาวนานเลยทีเดียว ไม่มีใครจะลืมเรื่องเหลือเชื่อที่เกิดขึ้นนี้ได้เป็นอันขาด
.
เด็กหนุ่มชาวอเมริกัน 2 คนคือเดวิดและแจ็ค แบกเป้(backpack)เพื่อท่องเที่ยวทั่วอังกฤษ พวกเขาโบกรถที่ผ่านมาเพื่อไปลอนดอน แต่คนขับรถผ่านแค่ชานเมืองทั้งสองคนจึงลงเพื่อเดินต่อ คนขับรถเตือนพวกเขาว่า
.
"จงอยู่บนถนน จงหลีกเลี่ยงทุ่งหญ้า และ ระวังดวงจันทร์"
.
เด็กหนุ่มทั้ง2แม้ไม่เข้าใจแต่ไม่ซักถามยังคงเดินต่อไป เมื่อฟ้ามืดและฝนตกพวกเขาก็วิ่งหาที่หลบฝนโดยละสายตาจากถนน แล้วจึงพบว่าตัวเองอยู่ท่ามกลางทุ่งโล่งที่มีหญ้าสูงท่วมหัวรายล้อม ปกคลุมไปด้วยหมอกทั่วไปหมดทันทีที่ฝนหยุดตก
.
มีเสียงขู่คำรามใส่พวกเขา ทั้ง2พยายามวิ่งหนีด้วยความตกใจ ทันใดนั้นทั้งคู่ก็ถูกทำร้ายโดยสิ่งที่มีขนรุงรังตามแขนขา หลัง และ ลำตัว มันเป็นหมาป่าขนาดใหญ่กว่าปกติ
.
เดวิดสะดุดล้มหมาป่าจึงกระโจนเข้าโจมตีเพื่อนของเขา มันฆ่าเขาและข่วนใบหน้าของเดวิด มีเสียงปืนดังขึ้นหลายนัดหมาป่าล้มลงตาย ก่อนที่จะหมดสติเดวิดหันไปเห็นหมาป่าตัวนั้นเป็นมนุษย์นอนตายอยู่แทน
.
เดวิดสลบไปเป็นเวลา3สัปดาห์ เมื่อได้สติเขาอยู่ในโรงพยาบาลเซนต์มาร์ตินกรุงลอนดอน เขาไม่อยากฟื้นขึ้นมาเพื่อพบความจริงว่าเพื่อนเขาเสียชีวิตแล้ว ตำรวจบอกว่าผู้ที่ทำร้ายพวกเขาเป็นชายเสียสติ
.
เดวิดพยายามบอกตำรวจว่าเกิดอะไรขึ้นในคืนนั้น ผู้ที่ทำร้ายเขาเป็นหมาป่าไม่ใช่มนุษย์แต่ตำรวจไม่เชื่อ พวกเขาลงความเห็นว่าความตกใจและเสียใจที่เพื่อนตาย
จึงทำให้เดวิดเกิดภาพหลอน
.
ทุกคืนนับตั้งแต่ฟื้นขึ้นมา เดวิดต้องทนทุกข์กับฝันร้ายที่น่ากลัว เขาเห็นตัวเองเปลือยกายวิ่งไล่ล่ากวางในป่า ในฝันเขาฆ่าสัตว์ที่น่าสงสารนี้และกินมัน
.
แล้วเห็นตัวเองนอนอยู่บนเตียงในโรงพยาบาลพร้อมกับใบหน้าที่มีรอยช้ำแสยะเขี้ยวอันน่ากลัว
แล้วยังมีปีศาจในเครื่องแบบนาซีบุกเข้าไปในบ้านของเขา สังหารครอบครัวของเขาทำลายบ้านของเขาจากนั้นก็กรีดคอเขา
.
เดวิดสะดุ้งตื่นและเห็นพยาบาลที่ดูแลเขาเดินไปเปิดม่านแต่ถูกปีศาจนาซีตัวหนึ่งโจมตี ขณะที่เธอกำลังจะถูกแทงเดวิดก็ร้องบอกให้เธอระวัง แล้วเดวิดก็สะดุ้งตื่น
.
มันคือความฝันซ้อนความฝัน แล้วฝันไหนเล่าที่จริง ฝันไหนเล่าไม่จริง จะรู้ได้อย่าง
ไร "นายไม่ได้ฝัน ทุกสิ่งที่นายเห็นเป็นความจริงที่กำลังจะเกิดขึ้น"
.
แล้วแจ็คที่ใบหน้าถูกขย้ำจนแหลกเละก็มานั่งตรงหน้าทำให้เดวิดร้องขึ้น "ไม่จริง นายไม่ใช่แจ็ค ฉันกำลังฝันร้าย"
.
"ฉันคือแจ็คเพื่อนของนายที่ถูกมนุษย์หมาป่าฆ่า และ เดวิด นายถูกมันกัด นายติดเชื้อคำสาปมนุษย์หมาป่า ถ้านายไม่ฆ่าตัวตายก็จะกลายเป็นมนุษย์หมาป่าฆ่าคนอื่น ซึ่งนายฆ่าไปแล้วกวางตัวนั้นไงและจะฆ่าอีก"
.
"ไม่จริง...ฉันไม่ได้ฆ่าใคร ไม่จริง..." เดวิดตะโกน แล้วมีพยาบาลวิ่งมาช่วยกันจับตัวเขามัดมือเท้าเขาติดกับเตียงเหมือนเขาเป็นคนบ้า
.
พ่อและแม่ของเดวิดเดินทางจากอเมริกามารับเขากลับบ้าน ในระหว่างเดินทางไปสนามบิน คืนนั้นเป็นคืนพระจันทร์เต็มดวงเดวิดรู้สึกร้อนผ่าวไปทั้งตัวจนทนไม่ได้
.
เขาสั่งให้หยุดรถแล้วรีบลงวิ่งไปในป่าข้างทางอย่างรวดเร็วจนไม่มีใครตามทัน ซึ่งพระจันทร์เต็มดวงเปลี่ยนเป็นสีแดง ร่างกายของเดวิดก็ร้อน ร้อน ทำไมถึงร้อนอย่าง
นี้ เขาทุกข์ทรมานกับอาการนี้จนทนอีกต่อไปไม่ได้
.
เขาฉีกเสื้อผ้าออกแล้วในทันใดความทุกข์ทรมานก็หายไป พลันรูปร่างของเขาเริ่มเปลี่ยนแปลงกลายเป็นมนุษย์หมาป่าที่อันตรายและโหดร้ายตามคำเตือนของแจ็ค
.
เดวิดมารู้สึกตัวอีกครั้งเขาออกเดินสำรวจลอนดอนในยามราตรี เขาได้เห็นหนุ่มสาวสองคน เขาพบขี้เมาสามคนใกล้แม่น้ำ จากนั้นเขาก็ไปที่สถานีรถไฟใต้ดินเดินตามผู้โดยสารชายคนหนึ่งที่กำลังขึ้นบันไดเลื่อน
.
เช้าวันรุ่งขึ้นเดวิดตื่นขึ้นมาในพงหญ้าด้วยสภาพเปลือยกาย และจำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้เพียงเขาเดินท่องราตรีไปตามถนนในลอนดอน มันช่างมีความสุขอะไรเช่นนี้ แต่ตอนนี้ต้องหาเสื้อผ้ามาใส่ก่อน
.
หลังจากหาเสื้อผ้าที่แขวนตากข้างทางสวมใส่แล้วเดวิดจึงเดินเตร็ดเตร่ไปโดยไม่มีจุดหมายแน่นอน พลันเขาก็ได้ยินข่าวสะเทือนขวัญนั่นคือการฆาตกรรม 6 ศพในคืนเดียว
 
.
ผู้ตายมีทั้งหนุ่มสาวมีฐานะ คนเมา และ ผู้โดยสารรถไฟใต้ดิน ตำรวจยังไม่พบความเชื่อมโยงของคดีและไม่พบหลักฐานใดๆ นอกจากเหยื่อถูกฆ่าตายอบ่างทารุณด้วยอาวุธที่บ่งชี้ไม่ได้ มีอยู่ศพหนึ่งถูกกินไปครึ่งตัว
.
ด้วยความตื่นตระหนกเมื่อเดวิดตระหนักว่าทุกสิ่งที่แจ็คบอกเขาเป็นเรื่องจริง เขาเป็นมนุษย์หมาป่าและเขาต้องเป็นผู้รับผิดชอบต่อการฆ่าคนทั้ง6นั้น
.
เขาจึงวิ่งไปหาตำรวจและขอร้องให้จับกุมเขาในฐานะฆาตกร เจ้าหน้าที่รู้สึกงุนงงกับพฤติกรรมแปลกๆของเดวิด แต่ไม่เชื่อเมื่อเขาสารภาพว่าเป็นมนุษย์หมาป่า
.
ตำรวจจึงส่งเขาไปโรงพยาบาลเซนต์มาร์ติน ที่นั่นพ่อและแม่ของเขาคอยด้วยความหวังว่าลูกจะถูกพบและนำส่งมาที่นี่ หลังจากที่หมอตรวจอาการของเดวิดแล้วก็บอกให้พ่อ-แม่ของเขากลับอเมริกาไปก่อน
เดวิดต้องอยู่ในความดูแลของหมออีกระยะ เนื่องจาก เขาจิตตกและซึมเศร้า เดวิดอยู่ในโรงพยาบาลเกือบเดือน
คืนนี้เป็นคืนพระจันทร์เต็มดวงอีกแล้ว เดวิดย่อมรู้ได้ดีเพราะอาการร้อนรุ่มไปหมดทั้งตัวเริ่มมาอีกแล้ว เขาจึงหนีออกจากโรงพยาบาลเดินไปเรื่อยๆหาที่สักแห่งเพื่อฆ่าตัวตาย
.
เขาหยุดที่โทรศัพท์สาธารณะและโทรกลับบ้าน บอกรักและบอกลาครอบครัวของเขา หลังจากนั้นเดวิดก็ดึงมีดออกมาเพื่อกรีดข้อมือของเขา แต่ทำไม่ได้เพราะกลัวเลือดจึงโยนมีดทิ้ง
.
แล้วเดินต่อไปจนเริ่มค่ำจึงผ่านโรงภาพยนตร์แห่งหนึ่งที่แจ็คยืนอยู่และกวักมือเรียกให้เขาเข้าไปข้างในด้วยกัน ใบหน้าของแจ็คดูเน่าเฟะและน่ากลัวยิ่งกว่าเดิม
.
เดวิดเดินตามเขาเข้าไปในโรงหนัง เขาพบว่าตอนนี้มีวิญญาณของคนที่เขาฆ่าไปทั้ง6คนอยู่ด้วย แจ็คพูดกับเดวิดว่า
"ฉันบอกนายแล้วว่าการฆ่าตัวตายนั้นสำคัญมาก มิฉะนั้นนายจะต้องฆ่าคนเพิ่มขึ้นอีก"
.
เดวิด "ฉันไม่รู้ว่าจะฆ่าตัวตายได้อย่างไร ถ้าใช้ปืนต้องใช้กระสุนเงินหรือไม่"
.
ผีทั้ง7ต่างหัวเราะและเสนอวิธีฆ่าตัวตายไปคนละแบบ ไม่ว่าจะเป็นกระโดดน้ำตาย วิ่งให้รถชน ผูกคอตาย หายาฆ่าหญ้ามากิน หรือติดต่อซื้อเหล้าเถื่อนจากประเทศไทยที่ผสมเมทิลแอลกอฮอล์มากิน กลั้นใจตาย หนักสุดคือการเผาตัวตาย
.
เมื่อพระจันทร์ขึ้นเต็มดวงเดวิดก็กลายร่างเป็นมนุษย์หมาป่าทำร้ายผู้คนในโรงหนัง ผู้คนพากันหนีออกมาข้างนอกโรงหนัง
เดวิดฆ่าไม่เลือกทั้งพนักงานขายตั๋ว พนักงานเดินตั๋ว คนดูหนังที่หนีไม่ทัน หรือแม้แต่ตำรวจที่มาระงับเหตุก็โดนด้วยอีกหลายคน ได้ยินเสียงกรีดร้องดังไปไกล
.
ถึงตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ระดมหน่วยสวาท(SWAT Team-กลุ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดีซึ่งมีหน้าที่จัดการกับ อาชญากรที่อันตรายมาก)มาล้อมไว้ทุกด้านทุกตรอกซอกซอย
.
มนุษย์หมาป่าจึงหนีด้วยการกระโจนไปตามหลังคาของอาคาร ตำรวจระดมยิงด้วยปืนไรเฟิลแม้ไม่ทำให้มันถึงตายเพราะไม่ใช่กระสุนเงิน แต่ก็บาดเจ็บเลือดโซม
.
มนุษย์หมาป่ากระโจนต่อไปจนพ้นเขตอาคาร มันจึงเข้าสู่ข้างทางของถนนแล้วหนี
ไปในชนบทใกล้ลอนดอนต้นเหตุของเรื่อง
อาการบาดเจ็บทำให้เขาคืนร่างเป็นมนุษย์ แต่จะกลับเป็นมนุษย์หมาป่าเมื่อใดก็ได้
เดวิดพูดด้วยน้ำตาคลอเบ้าว่า "โปรดฆ่าผมทันที เมื่อผมกลายเป็นมนุษย์หมาป่าอีกครั้ง"
.
ในชั่วขณะที่เดวิดกลายร่างเป็นมนุษย์หมาป่า เขาคำรามและแยกเขี้ยวอย่างน่ากลัวทั้งกระโจนออกไปจากโรงนา พันจึงไม่ลังเลแม้แต่น้อยพุ่งตัวตามไปทันที
.
ด้วยดาบเดียวที่แม่นยำที่สุดศีรษะของเจ้าสิ่งที่ทำลายล้างชีวิตผู้บริสุทธิ์ไปมากมายก็ขาดจากร่าง
ฝอยกลายร่างเป็นปืนไฟฌาปนกิจเผาร่างของเดวิดมอดไหม้ ไม่ต้องคืนชีพมาทุกข์ระทมอีก
.
จบบทที่ 15 ภาพปกจากเตือนภัยพิบัติโลก3 พระจันทร์สีแดง สวยงามมาก
.
หมายเหตุ! 1. แรงบันดาลใจจาก ภาพยนตร์เรื่อง คนหอนคืนโหด(An American Werewolf in London 1981) และ
.
2. เจอเรื่องโหดมาหลายตอนแล้ว ตอนหน้าเจอเรื่องเบาสมองบ้าง ชื่อตอน พ่อมดเมอร์ลิน, แม่มดเลอเฟย์ และ มังกรไฟ
โฆษณา