15 ธ.ค. เวลา 07:17 • ประวัติศาสตร์

ประวัติและที่มาของ SAMSUNG

จุดเริ่มต้น (1938-1950)
ซัมซุง ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 1938 โดย อี บยองชอล (Lee Byung-chul) ในเมืองแทกู ประเทศเกาหลีใต้ ในช่วงแรก ซัมซุงเริ่มต้นจากธุรกิจค้าขนาดเล็ก โดยทำการส่งออกปลาแห้ง ก๋วยเตี๋ยว และสินค้าเกษตรไปยังประเทศจีน ชื่อ “ซัม-ซอง” ในภาษาเกาหลีแปลว่า “ดาวสามดวง” ซึ่งสะท้อนถึงความหมายของความทรงพลัง ใหญ่โต และมหึมา แม้ว่าธุรกิจในยุคแรกจะยังไม่มีความเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมเทคโนโลยี แต่การสร้างรากฐานในด้านการค้าได้ปูทางให้ซัมซุงขยายตัวอย่างมั่นคงในอนาคต
ยุคขยายตัวทางอุตสาหกรรม (1950-1970)
หลังสงครามเกาหลี (1950-1953) อี บยองชอล มองเห็นโอกาสในการฟื้นฟูเศรษฐกิจเกาหลีใต้ผ่านการขยายกิจการเข้าสู่ภาคอุตสาหกรรม ซัมซุงเริ่มต้นจากอุตสาหกรรมเบา เช่น สิ่งทอ โดยก่อตั้งโรงงานสิ่งทอที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลีใต้ในเวลานั้น นอกจากนี้ยังเข้าสู่บริการทางการเงิน เช่น การก่อตั้งบริษัทประกันชีวิตและบริษัทเงินทุน
ปี 1969 นับเป็นก้าวสำคัญเมื่อซัมซุงก่อตั้ง Samsung Electronics ซึ่งเริ่มต้นผลิตสินค้าครัวเรือน เช่น โทรทัศน์ขาวดำ ตู้เย็น และเครื่องซักผ้า
ยุคเทคโนโลยีระดับสูง (1970-1980)
ในช่วงทศวรรษ 1970 ซัมซุงขยายการลงทุนใน เทคโนโลยีชั้นสูง และอุตสาหกรรมหนัก โดยมุ่งเน้นสองด้านสำคัญ ได้แก่
1. เซมิคอนดักเตอร์
• ปี 1974 ซัมซุงซื้อกิจการของ Korea Semiconductor และเริ่มพัฒนาเทคโนโลยีชิปหน่วยความจำ
• ซัมซุงกลายเป็นบริษัทแรกในเกาหลีใต้ที่ผลิตชิป DRAM ได้สำเร็จ
2. อุตสาหกรรมหนัก
• ก่อตั้ง Samsung Heavy Industries เพื่อเข้าสู่อุตสาหกรรมต่อเรือ
• ลงทุนในพลังงาน เช่น โรงกลั่นน้ำมัน
การเข้าสู่ตลาดอิเล็กทรอนิกส์ระดับนานาชาติเริ่มต้นขึ้นในช่วงนี้ เมื่อซัมซุงเริ่มส่งออกสินค้าไปยังต่างประเทศ และได้รับการยอมรับในฐานะผู้ผลิตสินค้าเทคโนโลยี
ยุคของความเป็นสากล (1980-1990)
ซัมซุงเข้าสู่ ตลาดระดับโลก อย่างเต็มตัวในช่วงทศวรรษ 1980 โดยการลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ เช่น โทรคมนาคมและเซมิคอนดักเตอร์ระดับสูง ในปี 1983 ซัมซุงผลิต DRAM ขนาด 64KB ได้สำเร็จ ซึ่งถือเป็นความก้าวหน้าครั้งใหญ่ของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีในเกาหลีใต้
ในปี 1988 ซัมซุงเปิดตัวโทรศัพท์มือถือรุ่นแรก และเริ่มแข่งขันในตลาดโทรคมนาคมระดับโลก นอกจากนี้ บริษัทยังขยายสำนักงานไปยังสหรัฐอเมริกาและยุโรป เพื่อพัฒนาความสัมพันธ์กับตลาดต่างประเทศ
อย่างไรก็ตาม ปี 1987 นับเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญเมื่อ อี บยองชอล ถึงแก่อสัญกรรม ตำแหน่งผู้นำของซัมซุงจึงตกเป็นของลูกชาย อี คุนฮี (Lee Kun-hee)
ยุคปฏิรูปและแบรนด์ระดับโลก (1990-2000)
ในปี 1993 อี คุนฮี นำซัมซุงเข้าสู่ยุคปฏิรูปองค์กร ด้วยวิสัยทัศน์ “เปลี่ยนทุกอย่าง ยกเว้นภรรยาและลูก” เขายกระดับคุณภาพสินค้า ลดการผลิตสินค้าราคาถูก และมุ่งเน้นการพัฒนาสินค้านวัตกรรม
ซัมซุงเริ่มพัฒนาแบรนด์ระดับโลก โดยเปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่ล้ำสมัย เช่น สมาร์ทโฟน โทรทัศน์หน้าจอ LCD และอุปกรณ์ IT ในช่วงปลายทศวรรษ 1990 ซัมซุงก้าวขึ้นเป็นผู้นำในตลาดหน่วยความจำ DRAM และโทรศัพท์มือถือ
ยุคของเทคโนโลยีสมาร์ท (2000-ปัจจุบัน)
ซัมซุงเข้าสู่ยุคดิจิทัลด้วยความสำเร็จในระดับโลก เช่น
1. สมาร์ทโฟน
• ปี 2010 ซัมซุงเปิดตัว Samsung Galaxy S ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมหาศาล
• ซัมซุงกลายเป็นคู่แข่งสำคัญของ Apple
2. จอแสดงผล
• ซัมซุงเป็นผู้นำด้านหน้าจอ OLED และ QLED
• พัฒนานวัตกรรมหน้าจอพับได้
3. เซมิคอนดักเตอร์
• เป็นผู้ผลิตชิ้นส่วน DRAM และ NAND Flash อันดับหนึ่งของโลก
4. การสื่อสาร 5G และ AI
• ลงทุนในเทคโนโลยี 5G และปัญญาประดิษฐ์ (AI)
• พัฒนาบทบาทใน IoT (Internet of Things)
โครงสร้างธุรกิจและบทบาทสำคัญในเกาหลีใต้
ซัมซุงไม่เพียงเป็นผู้ผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ แต่ยังมีธุรกิจหลากหลาย เช่น
• Samsung Heavy Industries: ธุรกิจต่อเรือ
• Samsung Biologics: ธุรกิจชีววิทยาศาสตร์
• Samsung Life Insurance: ธุรกิจประกันชีวิต
ซัมซุงมีบทบาทสำคัญในเศรษฐกิจเกาหลีใต้ โดยสร้างมูลค่ากว่า 20% ของ GDP ประเทศ และกลายเป็นสัญลักษณ์ของนวัตกรรมและความสำเร็จในระดับโลก
ไทม์ไลน์ความยิ่งใหญ่ของ "ซัมซอง"
บทสรุป
จากการเริ่มต้นในฐานะบริษัทค้าขนาดเล็ก ซัมซุงพัฒนาเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีระดับโลก โดยมุ่งเน้นนวัตกรรม ความยั่งยืน และการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ จนกลายเป็นแบรนด์ที่มีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันของผู้คนทั่วโลก
โฆษณา